รายละเอียด :
|
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จัดประชุมเชิงปฏิบัติการสมัชชามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อนาคต ม.อ. เพื่อส่งเสริมความเข้าใจร่วมกันระหว่างผู้บริหารมหาวิทยาลัย ส่วนงาน บุคลากร เกี่ยวกับทิศทางแนวคิด นโยบาย แผนการดำเนินงาน และแนวทางการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รวมทั้งส่วนงานและหน่วยงานจะได้รับทราบทิศทางแนวคิด นโยบาย แผนการดำเนินงาน และแนวทางการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ที่จะส่งผลต่อการขับเคลื่อน ม.อ. ในอนาคต รวมทั้งรับฟังแนวคิดและทิศทางการขับเคลื่อนการพัฒนามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในอนาคตอย่างยั่งยืนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตลอดจนเพื่อให้การพัฒนามหาวิทยาลัยบรรลุวิสัยทัศน์
ได้ตามเจตนารมณ์ และเพื่อการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พ.ศ. 2566 2570 ระหว่างวันที่ 9 10 มีนาคม 2565 โดยมีผู้บริหารและบุคลากรมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เข้าร่วม ณ Conference Hall ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี และผ่านระบบออนไลน์ถ่ายทอดสดผ่านเพจ
@PSUconnext
ภายในงานมีการอธิบายกระบวนการสมัชชา โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงค์เทพ สุธีรวุฒิ รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและนโยบายสาธารณะ การปาฐกถา เรื่อง บทบาทมหาวิทยาลัยในอนาคต โดย ศาสตราจารย์นายแพทย์จรัส สุวรรณเวลา นายกสภามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ , การแสดงวิสัยทัศน์ ทิศทางมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และการแบ่งกลุ่มระดมสมองในประเด็นต่างๆ นำโดยประธานคณะทำงานและทีมงานแต่ละกลุ่ม ได้แก่ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อเป็นกำลังของชาติ โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธเนศ ปานรัตน์ การสร้างและเพิ่มมูลค่าความรู้ นวัตกรรม ไปสู่การพัฒนาประเทศ โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ภาณุพงศ์ พุทธรักษ์ และการพลิกโฉมรูปแบบการบริหารจัดการของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการ โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อัตชัย
เอื้ออนันตสันต์
และในวันที่ 2 ของการประชุมจะเป็นการนำข้อเสนอเชิงนโยบาย โดย ประธานคณะทำงานแต่ละกลุ่ม โดยมีอธิการบดี และทีมบริหาร รับข้อเสนอเชิงนโยบายสู่การปฏิบัติ
ผศ. ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการสื่อสารประชาคม ม.อ. ในการมองอนาคตและกำหนดประเด็นทางยุทธศาสตร์ร่วมกัน ภายใต้ภาวะการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน ร่วมกันเสนอความคิดเห็นนอกเหนือนโยบายและยุทธศาสตร์ที่วางไว้จากผู้ปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนไป โอกาสใหม่ๆ ที่จะทำให้มหาวิทยาลัยสามารถใช้ศักยภาพเพื่อพัฒนาท้องถิ่นและประเทศ ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศ โดยการพัฒนาบุคลากรรูปแบบใหม่ รวมทั้งการสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรม
สงขลานครินทร์มีการเตรียมความพร้อมในการพลิกโฉมมหาวิทยาลัยในภาวะที่มีการผันผวน ความไม่แน่นอน ความซับซ้อน และความไม่ชัดเจนต่างๆ ในปัจจุบัน ซึ่งมหาวิทยาลัยยังเป็นประโยชน์ในการเป็นพื้นที่เรียนรู้ให้กับคนในระบบ นอกระบบ และการพัฒนาคนทุกช่วงวัย รวมทั้งการทำงานร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ที่จะเป็นกลไกทำให้มหาวิทยาลัยมีมาตรฐาน และปรับภารกิจให้ตอบสนองความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นสู่การสร้างความยั่งยืนในอนาคต
อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ยังกล่าวต่ออีกว่า ความท้ายทายท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในปัจจุบัน คือปัจจัยภายใน การปรับวิถีคิด ทัศนคติของอาจารย์ให้มีความคุ้นชินกับงานวิชาการ ปรับรูปแบบการทำงาน เพิ่มงานใหม่ๆ โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับภาคเอกชนและสังคม หรือที่เรียกว่า พันธกิจเพื่อสังคม รวมถึงเน้นย้ำเรื่องการสร้างประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ตามปณิธานของสงขลานครินทร์ ดังนั้น มหาวิทยาลัยต้องเป็นที่พึ่งได้ ทุกคนต้องช่วยกันทำงานทั้งการสอนในระบบเดิม และงานใหม่ๆ เพื่อดูแลสังคมร่วมกัน ถึงจะเป็นคุณค่าของสงขลานครินทร์อย่างแท้จริง
วิกฤตจะเป็นโอกาสเสมอ ถ้าเรามีความพร้อมในกระบวนการคิด มีระบบทำงานที่ดี เพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ๆ ในทางวิชาการ และนวัตกรรมที่นำไปสร้างผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง ตลอดจนการสร้างกำลังคนที่ต้องการความรู้ใหม่ๆ การปรับระบบการทำงานให้มีความสอดคล้อง ทำให้เกิดพลังในการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลง และช่วยพัฒนาสังคมให้ก้าวหน้าไปด้วยกัน อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวทิ้งท้าย
รายละเอียดข่าวได้ที่ https://administration.pn.psu.ac.th/pr-file/news65-91.pdf
|