: : : รายละเอียดข่าว : : :

ข่าว ปีที่ :ข่าวปีที่ 4 ฉบับที่ /0 ประจำเดือน 6/ 2562
หัวข้อข่าว : นักวิชาการ ม.อ.ปัตตานี วิจัยและพัฒนานวัตกรรมการเลี้ยงปูทะเลให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจใหม่ของประเทศ สู่เมืองปูทะเลโลก
รายละเอียด :

คณบดี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับนักวิชาการในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี นักวิชาการจากกรมประมง และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งร่วมวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการเลี้ยงปูทะเลให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจใหม่ของประเทศ สู่เมืองปูทะเลโลก โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณร่วม  14 ล้านบาท
         
รองศาสตราจารย์ ดร.ซุกรี  หะยีสาแม คณบดี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ชี้แจงว่าปูทะเล เป็นปูที่มีชื่อเรียกทั่วไปว่า ปูดำ ปูเขียว ปูขาว หรือปูทองหลาง เป็นสัตว์น้ำที่มีศักยภาพสูงมากที่จะพัฒนาเป็นสัตว์เศรษฐกิจชนิดใหม่สำหรับรองรับการพัฒนาประเทศในอนาคต เนื่องจากมีราคาสูง เลี้ยงง่าย โตเร็ว รูปแบบการเลี้ยงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลาดทั้งในและต่างประเทศมีความต้องการปริมาณสูง นิยมบริโภคทั้งในรูปของปูเนื้อ ปูไข่ และปูนิ่ม โดยเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศจีน สิงคโปร์ ฮ่องกง และไต้หวัน เป็นต้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดความพยายามทำการประมงทะเลในหลากหลายรูปแบบ เช่น การจับปูทะเลขนาดเล็กมาขุน เป็นปูเนื้อ ปูไข่ หรือเลี้ยงเป็นปูนิ่ม เพื่อให้มีปริมาณเพียงพอสำหรับป้อนสู่ตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ และจากการที่ประเทศไทยมีองค์ประกอบที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะนำเอาปูทะเลเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจตัวใหม่ในสร้างระบบเศรษฐกิจขึ้นใหม่
 
ดังนั้นการศึกษาวิจัยอย่างจริงจัง โดยบูรณาการความเชี่ยวชาญระหว่างนักวิชาการจากมหาวิทยาลัย กรมประมง และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเพื่อต่อยอดจากความรู้เดิมของนักวิชาการของประเทศไทยในรูปแบบของการวิจัยแบบมีส่วนร่วมกับชุมชนและผู้ประกอบการ ที่มีพื้นที่ทำงานและรูปแบบการทำงานที่ชัดเจน มีการนำเทคโนโลยีจากประเทศเวียดนามที่ประสบความสำเร็จสูงมาปรับใช้กับความรู้ทางวิชาการของประเทศไทย การสร้างผู้เชี่ยวชาญเรื่องปูทะเลสำหรับรองรับการพัฒนาในอนาคต เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งที่จะต้องดำเนินการควบคู่กัน และจาการที่อ่าวปัตตานี เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการพัฒนาการเพาะเลี้ยงปูทะเลและการสร้างอุตสาหกรรมต่อเนื่องอย่างครบวงจร โดยเป็นพื้นที่ต้นแบบสำหรับการพัฒนาการเพาะเลี้ยงปูทะเลในระยะแรก อีกทั้งการพัฒนาทางเศรษฐกิจโดยใช้ปูทะเลยังจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขปัญหาความมั่นคง ผ่านการพัฒนาทางเศรษฐกิจชุมชน ก่อนที่จะขยายไปยังพื้นที่ชายฝั่งอื่นๆ ของประเทศต่อไป อันจะสามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาลให้แก่ประเทศในอนาคต โดยคาดว่าปูทะเลจะสามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี ภายในไม่เกิน 5 ปี ซึ่งการศึกษาวิจัยดังกล่าวจะเป็นการพัฒนานวัตกรรมการเลี้ยงปูทะเลให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจใหม่ของประเทศ
สู่เมืองปูทะเลโลก
 
         จากการที่ประเทศไทย มีองค์ประกอบที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะนำเอาปูทะเลเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจตัวใหม่ ในการสร้างระบบเศรษฐกิจขึ้นใหม่ ทดแทนรายได้ที่สูญเสียจากการลดลงของสัตว์น้ำที่จับได้จากธรรมชาติ และรายได้จากการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเล เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เกษตรกรมีประสบการณ์เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ มาก่อนที่สามารถปรับใช้ได้ และพื้นที่มีศักยภาพสำหรับใช้ในการเพาะเลี้ยงเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะ
พื้นที่นากุ้งร้างที่ประเทศไทยมีอยู่ถึงประมาณหนึ่งแสนไร โดยเป็นนากุ้งร้างในพื้นที่จังหวัดปัตานีกว่า 25,000 ไร่ ที่สามารถพัฒนามาเป็นบ่อเลี้ยงปู และจากการที่ปูทะเลเป็นสัตว์น้ำที่ต้องใช้วิธีการเพาะเลี้ยงในระบบพึ่งพาธรรมชาติ ส่งเสริมการสร้างระบบนิเวศชายฝั่งโดยเฉพาะบริเวณป่าชายเลนมากกว่าการทำลายป่า ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย
ของรัฐบาลอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงได้รับการสนับสนุนในหลักการจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ในการสร้างโรงเพาะฟักและวิจัยปูทะเล ณ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ในวงเงินประมาณ 10 ล้านบาท และได้รับการพิจารณางบประมาณจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยอีกร่วม 4 ล้านบาทเพื่อวิจัยเพื่อพัฒนาเทคนิคและวิธีการพัฒนาแม่พันธุ์ปูทะเล การเพาะลูกปู สร้างต้นแบบสำหรับการอนุบาลลูกปูระยะต่างๆ ที่เหมาะสมบริเวณอ่าวปัตตานีและพื้นที่ใกล้เคียง สร้างต้นแบบสำหรับฟาร์มเลี้ยงปูเนื้อและปูไข่โดยใช้นากุ้งร้าง โดยการมีส่วนร่วมของเกษตรกร,ชาวประมง และการถ่ายทอดเทคโนโลยีไปยังบุคคลเป้าหมายที่สนใจต่อไป.
                                                   *********************************
โดย : * [ วันที่ ]