คณะรัฐศาสตร์ ม.อ.ปัตตานี เป็นคณะที่นักเรียนที่จบมัธยมปลายเลือกเรียนเกินเป้าถึง 100 % คณบดียืนยันเป็นผลจากนักศึกษารุ่นพี่บรรลุความฝัน
ในการไปฝึกงาน ณ ต่างประเทศ มีความสุขในการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย และการมีงานทำ
     ผศ.ชิดชนก ราฮิมมูลา คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เปิดเผยว่า ในปีการศึกษา 2560 นักเรียนมัธยมศึกษา
ตอนปลายเลือกเข้าศึกษาในคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เกินกว่า 100% กล่าวคือคณะประสงค์จะรับนักศึกษา
ในปีการศึกษา 2560 จำนวน 200 คน แต่มีผู้สอบเข้าและยืนยันสิทธิ์ 363 คน เกินเป้าหมายถึง 163 คน คิดเป็น 181.50 % ทั้งนี้สืบเนื่องจากตั้งแต่
เกิดสถานการณ์ความไม่สงบในปี 2547 ทำให้นักเรียนต่างภูมิภาคเลือกมาเรียนในวิทยาเขตปัตตานีน้อยลง และประกอบกับการที่มีสายการบินราคาถูก
ทำให้นักเรียนในพื้นที่ไปเรียนที่อื่นมากขึ้น จนกระทั่งในปี 2556 พบว่าคณะมีจำนวนนักศึกษาต่ำกว่าแผนการรับ โดยในปีดังกล่าวคณะเปิดรับนักศึกษา
200 คน แต่มีเด็กมาเรียนเพียง 160 คน และและยังมีการลาออกระหว่างเรียนอีกจำนวน 30 คน จากเหตุผลดังกล่าวคณะจึงค้นหาปัญหาและหาแนวทาง
แก้ไข พบว่านักเรียนในพื้นที่ไม่ได้กลัวปัญหาความไม่สงบ แต่เขากังวลเรื่องคุณภาพการศึกษา โดยเด็กที่มีกำลังทรัพย์ก็จะไปเรียนที่ประเทศมาเลเซีย
เพราะเขามองว่ามาตรฐานการศึกษาของประเทศมาเลเซียสูงกว่า  และมีโอกาสได้ใช้ภาษาอังกฤษ  อีกประการหนึ่งเขามองว่าการเรียนมหาวิทยาลัย
ในต่างจังหวัดจะมีโอกาสได้ทำงานหรือไม่ นอกจากนี้ก็พบว่าจากปัญหาความไม่สงบทำให้พื้นที่นี้เป็นสังคมวัฒนธรรมเชิงเดี่ยวที่เด็กต่างภูมิภาค
ไม่อยากมาเรียน และเด็กในพื้นที่เองก็มองว่าเขาขาดพื้นที่ในการแสดงออก
      ดังนั้นคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จึงหาทางแก้ไขปัญหา และศึกษาว่าความฝันของเด็กวัย 18-19 ปี คืออะไร
เขาต้องการอะไร อยากพัฒนาศักยภาพอะไร คณะจึงได้ยกเลิกระบบการรับน้องใหม่ที่กดดัน เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงออกทางความคิด
จิตนาการอย่างเต็มที่ และมีการขยายกิจกรรมให้นักศึกษาได้ทำมากขึ้น โดยนอกจากมหาวิทยาลัยจะมีองค์การนักศึกษา มีสโมสรนักศึกษา และมี
สโมสรนักศึกษาคณะต่างๆแล้ว คณะรํฐศาสตร์ ก็ยังมีชมรมกิจกรรมอีกประมาณ 30 กลุ่ม เพื่อเป็นการยอมรับความแตกต่างของนักศึกษา และให้
โอกาสนักศึกษาได้แสดงออกตามความถนัด เช่นชมรมสิทธิมนุษยชน  ชมรมสิงห์อาสา ชมรมสิงห์สร้างสรรค์ ชมรมemnastyหรือชมรมนิรโทษกรรม  
ชมรมสิงห์สันติภาพ เป็นต้น ทำให้ได้เห็นแววและผลงานนักศึกษา เช่นนักศึกษาได้รับรางวัลเยาวชนแห่งชาติต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 6  และได้รับรางวัล
กลุ่มเยาวชนดีเด่นแห่งชาติถึง 2 กระทรวงคือจากกระทรวงศึกษาธิการ และจากกระทรวงพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์ และเมื่อคัดเลือกนักศึกษา
ดีเด่นของมหาวิทยาลัย ก็ทำให้เขาได้รับรางวัลเกือบทุกปี
     นอกจากนี้จากปัญหาการที่เยาวชนมองว่า ปัตตานีเป็นพื้นที่ต่างจังหวัด การจะเปลี่ยนมุมมองของเขาต้องเปลี่ยนบริบทหลายอย่าง จึงมีความจำเป็น
ต้องนำเด็กออกนอกพื้นที่เพื่อไปเรียนรู้โลกกว้าง เช่นการทำโครงการร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้วยการนำนักศึกษาชั้นปีที่ 2 เทอม 2 ไปเรียนที่
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อให้เด็กมีโลกทัศน์ที่กว้างขึ้น ซึ่งเป็นการดำเนินการเป็นปีที่ 8 โดยล่าสุดมีนักศึกษาสมัครไปเรียนถึง 30 คน นอกจากนี้
การที่คณะมีหลักสูตรสหกิจศึกษา 100 % เป็นหลักสูตรบังคับ 4 หน่วยกิต โดยเป็นแนวคิดของอดีตคณบดีปิยะ กิจถาวร ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2553  
ในการส่งนักศึกษาไปฝึกงาน 4 เดือน หรือ 1 เทอม โดยเริ่มมา 11 ปีแล้ว ระยะแรกไปกำหนดให้ฝึกงานภายในประเทศและเปิดโอกาสให้ผู้สนใจ
ไปฝึกงาน ณ ประเทศมาเลเซีย ทั้งนี้การไปฝึกงานในต่างประเทศไม่ได้บังคับ และหลังจากนักศึกษาสามารถสอบบรรจุเข้าทำงานในกงสุลไทยประจำ
กรุงปีนัง  และที่สถานทูตไทยประจำสิงคโปร์ได้ ทำให้เป็นนักศึกษามีแรงบันดาลใจและประสงค์จะไปฝึกงาน ณ ต่างประเทศมากขึ้น ผลการดำเนินการ
ในปีที่ 3 ก็มีนักศึกษาไปฝึกงานในประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม อังกฤษ โอมาน  ตุรกี ซึ่งในระยะแรกคณะไม่ได้มีทุนให้เลย เด็กที่มีกำลังทรัพย์
ก็ไปได้ เด็กที่ไม่มีทุนทรัพย์ก็ฝึกงานในประเทศ และจากการได้ศึกษาพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ความว่า
“…เมื่อจะทำงาน อย่าหยิบยกเอาความขาดแคลนเป็นข้ออ้าง จงทำงานท่ามกลางความขาดแคลนให้บรรลุผล จงทำด้วยความตั้งใจและซื่อสัตย์….”
คณะจึงสอนเด็กให้เฉลี่ยค่าใช้จ่ายในการเช่าที่พักในต่างประเทศ โดยเดินทางไปกันเป็นกลุ่ม และหาทุนจากภายนอก ตลอดจนคณะสร้างค่านิยมใหม่
ที่จะส่งเสริม และให้ทัศนคติว่าการทำงานหาเลี้ยงตัวเอง เป็นศักดิ์ศรีเป็นความภาคภูมิใจ เป็นความเท่ จึงส่งเสริมให้นักศึกษาทำงานเก็บเงินเพื่อหาทุน
ไปฝึกงานต่างประเทศ ทั้งทำงานกับกองกิจการนักศึกษา หรือทำงานตามสถานประกอบการในจังหวัด แม้แต่นายกสโมสรนักศึกษาของคณะก็ไปทำงาน
เสิร์ฟอาหาร และเด็กเหล่านี้ก็ได้มีโอกาสไปฝึกงานในต่างประเทศ
     ปัจจุบันมีสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการสหกิจศึกษากับคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีมากกว่า 500 หน่วยงาน มีประเทศที่
นักศึกษาไปฝึกงานรวม 12 ประเทศ ได้แก่ ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา เยอรมัน อินเดีย เวียดนาม ตุรกี  โอมาน ลาว อินโดนีเซีย
และจีน และนักศึกษาของคณะก็ได้รับทุนสหกิจศึกษามากขึ้น ได้แก่ทุนนานาชาติ หรือ Education Hub, ทุนคอลีฟะห์ ณ ประเทศบาห์เรน และ
ทุนสหกิจศึกษาภายในประเทศ ปัจจุบันมีนักศึกษาเดินทางไปฝึกงาน ณ ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย เวียดนาม ลาว อินโดนีเซีย จีน อังกฤษ ตุรกี
โอมาน สหรัฐอเมริกา และเยอรมัน เป็นต้น ล่าสุดคณะเปิดรับสมัครนักศึกษาไปสหกิจศึกษาที่ประเทศจีน ปรากฏว่ามีนักศึกษาสนใจมาสมัคร จำนวน
18 คน ผลการสัมภาษณ์มากกว่า 10 คนมีภาษาอังกฤษดีมาก ส่วนใหญ่แล้วเป็นนักศึกษาที่มาจากโรงเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และทราบว่า
นักศึกษาส่วนหนึ่งฝึกฝนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง เช่น ฝึกการพูดภาษาอังกฤษหน้ากระจก เป็นต้น แสดงให้เห็นว่าหากนักศึกษามีความฝันว่ามาเรียน
ที่นี่แล้วจะได้ไปต่างประเทศ ก็จะทำให้เขาตั้งใจและใฝ่รู้

                                                       
                                                 *******************************