: : : รายละเอียดข่าว : : :

ข่าว ปีที่ :ข่าวปีที่ 4 ฉบับที่ /0 ประจำเดือน 5/ 2560
หัวข้อข่าว : นายกรัฐมนตรีย้ำทุกภาคส่วนร่วมการขับเคลื่อนประเทศสู่ Thailand 4.0 เพื่อนำประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
รายละเอียด :
                   พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางไปปาฐกถา และเยี่ยมชมผลงานวิจัยและนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และเครือข่ายมหาวิทยาลัยในภาคใต้ ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ เมื่อเช้าวันที่ 24 พฤษภาคม 2560
                   เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (พุธที่ 24 พฤษภาคม 2560) ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่  พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาปาฐกถาในหัวข้อ “การขับเคลื่อน Thailand 4.0 ในภาคใต้” พร้อมคณะประกอบด้วย ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายสุวิทย์  เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี   นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุลรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และอธิบดีกรมต่างๆ อีกหลายท่าน ร่วมเดินทางมาเยี่ยมชมผลงานวิจัยและนวัตกรรม
ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และเครือข่ายมหาวิทยาลัยในภาคใต้ โดยมีนายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาและหัวหน้าส่วนราชการ   รศ.ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พร้อมคณะผู้บริหารนักวิชาการมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผู้สนใจ ตลอดจนนักศึกษาและนักเรียน ร่วมให้การต้อนรับและรับฟังการปาฐกถา ประมาณ 2,000 คน
         นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวต้อนรับโดยกล่าวถึงศักยภาพของจังหวัดสงขลาที่สามารถสนองนโยบาย “ประเทศไทย 4.0” เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้มีความ “มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” ทั้งในด้านการเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ
ของภาคใต้ ในด้านที่ตั้งซึ่งมีพื้นที่ติดกับประเทศมาเลเซีย ด้านการขนส่งซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ และที่สำคัญ จังหวัดสงขลามีสถาบันการศึกษาชั้นนำที่ช่วยกันขับเคลื่อนการศึกษาด้วยการวิจัย สร้างนวัตกรรม และนำไปสู่การสร้างมูลค่าเชิงพาณิชย์ โดยมีความร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน ชุมชน ในรูปแบบ “ประชารัฐ”
         
           รศ.ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  กล่าวว่า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมหาวิทยาลัยในเครือข่ายภาคใต้ ได้ขับเคลื่อนการศึกษาด้วยงานวิจัย และนวัตกรรมต่าง ๆ และเพื่อให้ได้มีการนำไปใช้ประโยชน์ ช่วยพัฒนาต่อยอดขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามนโยบาย “ประเทศไทย 4.0” ของรัฐบาล ซึ่งส่วนหนึ่งได้นำมาจัดแสดงในวันนี้ โดยแบ่งเป็น 5 ส่วนประกอบด้วย “เศรษฐกิจฐานชีวภาพ” Bio-based Economy เน้นด้านการเกษตรและทรัพยากร เทคโนโลยีชีวภาพและการแปรรูปอาหาร ระบบสาธารณสุขและการส่งเสริมสุขภาพครบวงจร และพลังงาน   “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” Creative Economy เน้นการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดี การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและอนุรักษ์ และศิลปวัฒนธรรมภาคใต้ “เศรษฐกิจดิจิตอล” Digital Economy เน้นด้านเทคโนโลยีสมองกลฝังตัว และ การเชื่อมโยงทุกสิ่งสู่โลกอินเตอร์เน็ต การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้กับการให้บริการธุรกรรมการเงิน ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ โดยมุ่งสู่การเป็นผู้นำในเรื่องทะเล ชายฝั่ง และยางพารา นอกจากนั้นยังมีนิทรรศการ  “ความมั่นคงและการพัฒนาชายแดนใต้”  และ “นิทรรศการของอุทยานวิทยาศาสตร์”  

         พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงการขับเคลื่อนThailand 4.0 ในภาคใต้ว่า การขับเคลื่อนThailand 4.0 ในภาคใต้ เป็นเป้าหมายของคนไทยและประเทศไทยที่จะไปให้ถึงอนาคต ซึ่งคนไทยทุกคนจำเป็นต้องช่วยกัน และร่วมมือกันทำงานให้ไปถึงเป้าหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยู่ในวัยกำลังศึกษาในวันนี้ ซึ่งจะเป็นผู้ที่อยู่ในยุคของ Thailand 4.0 อย่างแท้จริงในวันข้างหน้า ทั้งนี้ Thailand 4.0 เป็นวิสัยทัศน์เชิงนโยบายของรัฐบาลที่จะเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจของประเทศ ไทยจากรูปแบบเดิม ไปสู่รูปแบบใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประเทศไทยก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง  เป็นประเทศที่มีรายได้สูงและกระจายไปสู่ทุกภาคส่วน โดยเปลี่ยนโมเดลเศรษฐกิจเป็น “ทำน้อย ได้มาก” ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม มุ่งสร้างสังคมคุณภาพ และมุ่งสู่การเป็นประเทศที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน รัฐบาลจึงได้กำหนดวิสัยทัศน์ประเทศไทยเพื่อเปลี่ยนประเทศไปสู่ยุค Thailand 4.0 ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศเศรษฐกิจใหม่ เป็นประเทศที่มีรายได้สูงขึ้น โดยเปลี่ยนจากการผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ไปสู่สินค้านวัตกรรม เปลี่ยนจากการขับเคลื่อนประเทศด้วยภาคอุตสาหกรรมไปสู่การขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม เปลี่ยนจากการเกษตรแบบดั้งเดิมไปสู่การเกษตรแบบสมัยใหม่เน้นเรื่อง การบริหารจัดการและการนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้มากยิ่งขึ้น ผู้ประกอบการเปลี่ยนจาก SMEs แบบเดิมไปสู่ Smart Enterprises และ Startup ที่มีศักยภาพสูง ในขณะที่แรงงานก็จะเปลี่ยนจากแรงงานทักษะต่ำไปสู่แรงงานที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและทักษะที่สูงขึ้น   รัฐบาลมีแนวทางในการขับเคลื่อนนโยบาย Thailand 4.0 โดยมุ่งเน้นการใช้แนวทางพลังประชารัฐ คือ การมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ชุมชน จังหวัด สถาบันการศึกษา และสถาบันวิจัยต่างๆ รวมทั้งยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและศาสตร์ของพระราชาเป็นพื้นฐานในการพัฒนา และใช้ความได้เปรียบของประเทศไทยในความหลากหลายเชิงชีวภาพ และความหลากหลายเชิงวัฒนธรรม เป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ตลอดจนยึดหลักการสร้างความเข้มแข็งจากภายใน และเชื่อมไทยสู่ประชาคมโลก  
                   ทั้งนี้ในปัจจุบันประเทศไทยกำลังเดินหน้าสู่ 4.0   โดยประเทศไทยได้เริ่มพัฒนาจาก 1.0 คือการใช้แรงงาน ส่วน2.0 คือการนำเครื่องจักรกลขนาดเบามาใช้ในการผลิต 3.0 เป็นการใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ และ4.0 เป็นการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมมาใช้เพื่อการพัฒนาประเทศ และการดำรงชีวิต การจะพัฒนาประเทศไปสู่ 4.0 จึงเป็นการขับเคลื่อนร่วมกันตั้งแต่3.0 ,2.0 และ1.0 เป็นการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต เพื่อให้มีรายได้มากขึ้น ทั้งนี้ต้องปรับกระบวนการทั้งประเทศ การจะปรับเปลี่ยนประเทศไทย สู่ Thailand 4.0 นั้นจำเป็นต้องนำความรู้ ที่ได้จากผลงาการวิจัยและพัฒนาจากสถาบันอุดมศึกษามาใช้ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศ 84 ปีที่ผ่านมาเราไม่มียุทธศาสตร์ประเทศ เราติดกับดักตัวเอง เป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ทั้งที่ธนาคารโลกได้แนะนำแล้ว แต่เราไม่ได้นำมาปรับแก้ เราต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงให้ได้ ทั้งนี้ไม่ใช่ทำในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง แต่ต้องทำโดยภาพรวม การปรับเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจสู่ยุคใหม่เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
                   พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอชื่นชมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  ซึ่งได้ก่อตั้งมา 50 ปี ในปี 2561 ตลอดระยะเวลา5 ทศวรรษมหาวิทยาลัย ได้ขับเคลื่อนการศึกษา
ทั้งด้วยงานวิจัยอันเป็นพื้นฐานในการทำให้เกิดนวัตกรรมต่างๆ โดยเฉพาะงานวิจัยที่เกี่ยวกับด้านการเกษตร เช่น นวัตกรรมยางพาราที่มีความโดดเด่น การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับปาล์มน้ำมัน อาหารทะเล พลังงาน และวัสดุชีวภาพ เป็นต้น ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลจะนำไปสู่การปฏิบัติให้มากขึ้น และขับเคลื่อนงานวิจัยและพัฒนาสู่การผลิตให้ได้ ซึ่งภาคใต้ถือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพมีอัตลักษณ์ของตนเอง มีความโดดเด่นและความหลากหลายทางด้านศิลปวัฒนธรรม ความงดงาม
ของสถานที่ท่องเที่ยว และความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นความเข้มแข็งของภาคใต้ และสอดคล้องกับแนวทางการขับเคลื่อนนโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาล สิ่งสำคัญต้องสร้างความปลอดภัยเกิดขึ้นในพื้นที่ให้ได้ สร้างความร่วมมือระหว่างกันเพื่อลดความขัดแย้งทางการเมือง สร้างการพัฒนาและสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศเดินหน้าต่อไปได้  
                   “ขอความร่วมมือกับพลังทุกภาคส่วนในการร่วมกันพัฒนาภาคใต้ไปในทิศทางเดียวกัน โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และบุคลากรของมหาวิทยาลัย จะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของการพัฒนาภาคใต้ไปสู่ Thailand 4.0 และหวังว่านักศึกษา ซึ่งเป็นอนาคตของประเทศ จะเร่งศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับเป้าหมายของประเทศ สนับสนุนการดำเนินงานของฝ่ายต่างๆ รวมทั้งพยายามมองหาโอกาสจากสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเพื่อพัฒนาตนเองและศึกษาเรียนรู้ในการทำกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์นอกห้องเรียน รู้จักคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ ปรับตัวเรียนรู้ให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงและใช้สื่อโชเชียลมีเดียอย่างรู้เท่าทัน รวมถึงการรู้จักใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ในทางสร้างสรรค์เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 อันจะทำให้ประเทศมีความมั่นคง มั่นคั่งและยั่งยืนต่อไป”   พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวเพิ่มเติมว่า
                   จากนั้น นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้ชมนิทรรศการผลงานวิจัยและนวัตกรรม ซึ่งประกอบด้วย 8 กลุ่มคือ  กลุ่มงานวิจัยยางพารา กลุ่มปาล์มน้ำมัน กลุ่มสาธารณสุข สุขภาพ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ กลุ่มเศรษฐกิจดิจิตัล กลุ่มเศรษฐกิจสร้างสรรค์ กลุ่มความมั่นคงและการพัฒนาชายแดนใต้ นิทรรศการอุทยานวิทยาศาสตร์ และนิทรรศการเครือข่ายวิจัยสถาบันอุดมศึกษา  ในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางไปเยี่ยมชม ตลาดเกษตร ม.อ. คณะทรัพยากร ธรรมชาติ ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการจำหน่ายผลิตผลทางการเกษตร และสินค้าประเภทอาหารที่มีความปลอดภัยให้แก่บุคลากรมหาวิทยาลัยและทั่วไป ดำเนินงานโดยมุ่งเน้นการสร้างแนวปฎิบัติที่ดีให้แก่ผู้จำหน่าย ด้านความปลอดภัยทางอาหาร และด้านการคุ้มครองผู้บริโภค เคยได้รับคัดเลือกให้เป็น ตลาดนัดต้นแบบของจังหวัดสงขลา ในโครงการหนึ่งจังหวัดตลาดนัดต้นแบบจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ได้รับเกียรติบัตรตลาดปลอดโฟม 100% ตลาดนัดน่าซื้อ ระดับดีมากจากกรมอนามัย และได้รับการส่งเสริมเป็น “ตลาดต้องชม” จากการกระทรวงพาณิชย์ มีการนำเทคโนโลยีช่วยส่งเสริมการขาย เช่น การขายของทางไลน์ และสนับสนุนการทำเกษตร
ออแกนิคให้กับกลุ่มธุรกิจเกษตรชุมชน.

URLข่าวที่ได้รับการเผยแพร่
https://www.youtube.com/watch?v=aS3teybbg1k

https://www.youtube.com/watch?v=-VD8ITSb7Ic&feature=youtu.be

https://www.youtube.com/watch?v=NpXeb3i_w-E

https://www.youtube.com/watch?v=1gsVjBqGkbA&feature=youtu.be

https://www.youtube.com/watch?v=hURo1zhqeys&feature=youtu.be

http://www.nationtv.tv/main/content/politics/378548902/

https://www.youtube.com/watch?v=xYX_9GvyAMc&feature=youtu.be

https://www.youtube.com/watch?v=Sx1kFb46VlY&feature=youtu.be

https://www.youtube.com/watch?v=6Gx8YAC_SuI

https://www.youtube.com/watch?v=bvOVA_ztPAs

https://www.youtube.com/watch?v=ItgZq2rP4m0
                             
             ***************************************


โดย : * [ วันที่ ]