โครงการจัดตั้งสถาบันสมุทรรัฐเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(ISFAMS) ชมรมนักศึกษารักสันติ (PSC) ชมรมเยาวชน ม.อ.ทำความดีสู่สังคม และ ชุมนุมสิงห์สันติภาพ (Peace
Pol-Sci) ม.อ.ปัตตานี เข้าร่วมการเดินขบวนรณรงค์และแถลงการณ์เรียกร้องให้ยุติการกระทำรุนแรงต่อเด็ก และเยาวชน ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2559 จัดโดยสามาชิกสมาคมเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ (POSBO) โดยมีตัวแทนจากองค์กรภาคีต่างๆ กว่า 500 คน เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ รายงานข่าวจากงานประชาสัมพันธ์ วิทยาเขตปัตตานี แจ้งว่าเมื่อวันศุกร์ที่ 8 มกราคม 2559 โครงการจัดตั้งสถาบันสมุทรรัฐเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(ISFAMS) ชมรมนักศึกษารักสันติ (PSC) ชมรมเยาวชน ม.อ.ทำความดีสู่สังคม ชุมนุมสิงห์สันติภาพ (Peace Pol-Sci) ม.อ.ปัตตานี สามาชิกสมาคมเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ (POSBO) ชมรมพุทธรักษาจังหวัดชายแดนใต้ สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดปัตตานี โรงเรียนเบญจมราชูทิศจังหวัดปัตตานี โรงเรียนเดชะปัตตนยานุกูล วิทยาลัยเทคนิคปัตตานี วิทยาลัยอาชีวศึกษาปัตตานี วิทยาลัยการอาชีพปัตตานี และวิทยาลัยชุมชนปัตตานี ได้จัดกิจกรรมเดินขบวนรณรงค์เรียกร้องให้ยุติการกระทำรุนแรงต่อเด็ก และเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2559 โดยขบวนรณรงค์ซึ่งมีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนประมาณ 500 คน ได้เคลื่อนขนวนจากสนามกีฬาวิทยาลัยเทคนิคปัตตานีผ่านถนนวัฒนธรรม เข้าสู่ถนนเจริญประดิษฐ์ ไปยังหอประชุม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เพื่อดำเนินการแถลงการณ์เรียกร้องให้ยุติการกระทำรุนแรงต่อเด็ก และเยาวชน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากนั้นเชิญตัวแทนองค์กรภาคีต่างๆ อ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้ยุติการกระทำรุนแรงต่อเด็ก และเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2559 โดยส่วนของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้มีตัวแทนอ่านแถลงการณ์จำนวน 4 คน ในนาม สถาบันสมุทรรัฐเอเซียตะวันออกเฉียงศึกษา ชมรมเยาวชน ม.อ.ทำความดีสู่สังคม ชมรมนักศึกษารักสันติ และ ชุมนุมสิงห์สันติภาพ
กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นโดย สามาชิกสมาคมเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ (POSBO) เพื่อให้สอดคล้องกับกิจกรรมวันเด็กที่จะมาถึง ได้ดำเนินการเชิญชวนให้องค์กรภาคีต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ร่วมกันคิดข้อความแถลงการณ์ของแต่ละองค์กร เพื่อนำมาแถลงการณ์ต่อที่สาธารณชนในวันนี้ เป็นการแสดงจุดยืนเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงต่อเด็กและเยาวชน และได้ประสานงานมายังโครงการจัดตั้งสถาบันสมุทรรัฐเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(ISFAMS) ซึ่งถือเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในด้านการสร้างสันติภาพ โดยสถาบันสมุทรรัฐฯ ได้ประสานมายังชมรม หรือกลุ่มนักศึกษาที่มีความเกี่ยวข้องในเรื่องสันติภาพ จำนวน 3 กลุ่ม คือ ชมรมนักศึกษารักสันติ (PSC) ชมรมเยาวชน ม.อ.ทำความดีสู่สังคม ชุมนมสิงห์สันติภาพ (Peace Pol-Sci) ม.อ.ปัตตานี เนื้อหาการแถลงการณ์ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงต่อเด็กและเยาวชน เนื่องจากวันที่เสาร์ที่ 9 มกราคมนี้ เป็นวันเด็กแห่งชาติ
นายมัรวาน เด่นตุลาการ นักศึกษา คณะรัฐศาสตร์ ม.อ.ปัตตานี ตัวแทนอ่านแถลงการณ์ ฯ ของโครงการจัดตั้งสถาบันสมุทรรัฐเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา เปิดเผยว่า ตนได้รับเกียรติจาก ดร.สามารถ ทองเฝือ ผู้อำนวยการโครงการจัดตั้งสถาบันสมุทรรัฐตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ม.อ.ปัตตานี มอบให้เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์ ฯ ของโครงการจัดตั้งสมุทรรัฐตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา โดยมีเนื้อความดังนี้ ความรุนแรงและเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น ไม่ว่าที่ใดในโลกย่อมมีผลกระทบต่อผู้คน ทรัพย์สินและบ้านเมืองนั้นๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เฉกเช่นเดียวกันกับในพื้นที่จังหวัดชานแดนใต้ของไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกแห่งประชาคมอาเซียนที่ได้รวมตัวกันขึ้น เพื่อคาดหวังในการสร้างสันติภาพและสันติสุขความมั่นคงให้เกิดขึ้นในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติในปี พ.ศ.2559 นี้ ในนามของโครงการจัดตั้งสถาบันสมุทรรัฐเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ขอร่วมเรียกร้องให้ทุกคนยุติการกระทำความรุนแรงและการก่อความเสียหาย ทำร้ายเด็กและเยาวชน ตลอดจนประชาชนทั่วไปในทั่วทุกพื้นที่ เพราะพวกเขาเหล่านี้ถือว่าเป็นกำลังหลักและพลังอันสำคัญเพื่อที่จะได้พัฒนาพื้นที่ในชายแดนใต้ให้มีความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรืองพร้อมก้าวเดินไปสู่ประชาคมอาเซียนร่วมกับเพื่อนประเทศสมาชิกอาเซียนต่อไป
ทั้งนี้ตัวแทนนักศึกษาทั้ง 4 คน ก็ได้ฝากข้อคิดมายังประชาคม ม.อ.ว่า การสร้างสันติภาพนั้นต้องเริ่มต้นสร้างที่ตัวเราก่อน แล้วจะขยายผลไปสู้คนรอบๆข้าง ซึ่งกิจกรรมในกลุ่มชมรมที่พวกเขาได้ทำอยู่ขณะนี้ ถือเป็นการตอบโจทย์เรื่องการสร้างสันติภาพและยุติความรุ่นแรงได้เป็นอย่างดี เชื่อว่าชาวสงขลานครินทร์ทุกคนก็ยึดหลักพระราชปณิธานของพระราชบิดาอยู่แล้ว นั่นคือ การถือประโยชน์เพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง ถ้าปฏิบัติได้ตามนั้น ความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นก็จะลดน้อยและหมดไปในที่สุด.
***************************************
|