รายละเอียด :
|
นักวิจัยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นำเสนอผลงานจากงานวิจัยใหม่ รับรางวัลเหรียญทองในผลงาน
กาวสำหรับติดยางกับโลหะ ในเวทีการประกวดผลงานสิ่งประดิษฐ์นานาชาติ ครั้งที่ ๔๒ ณ กรุงเจนีวา สมาพันธ์รัฐสวิส
ในผลงานกว่า ๑,๐๐๐ ผลงานที่ส่งเข้าประกวดจาก ๔๕ ประเทศ
รองศาสตราจารย์ ดร.เจริญ นาคะสรรค์ หัวหน้าโครงการวิจัยกาวสำหรับติดยางกับโลหะโดยใช้กาวรองพื้น
(ไพรเมอร์) และกาวยางธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เปิดเผยว่า ปัจจุบันการใช้
กาวที่ใช้ยึดระหว่างยางกับโลหะชนิดต่าง ๆ มีการขยายตัวมากขึ้น เนื่องจากผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ในงานเชิงวิศวกรรม
ส่วนใหญ่ไม่ได้ทำขึ้นจากยางเพียงอย่างเดียว อาจมีการเสริมความแข็งแรงให้แก่โครงสร้างด้วยโลหะ ทำให้ปริมาณ
การใช้ยางติดโลหะมีความจำเป็นในระบบอุตสาหกรรม โดยใช้เป็นส่วนประกอบเช่น ชุดอุปกรณ์ลดเสียงดังที่
เกิดจากการสั่น การเคลื่อนที่ และการเสียดสี หรือความเสียหายจากการสั่นสะเทือน ปกป้องความเสียหายจาก
การกระแทกและใช้อุดรอยรั่วของน้ำมัน กาวที่ใช้ติดระหว่างยางกับโลหะจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในกระบวนการ
ผลิตผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
การผลิตกาวยางกับโลหะ มีความจำเป็นที่จะต้องใช้องค์ประกอบ ๒ ส่วน คือ กาวรองพื้นหรือไพรเมอร์
หรือตัวให้แรงยึดติด เพื่อช่วยให้เกิดการเปียกที่ผิวของวัสดุที่ต้องการติดและยังช่วยเสริมความแข็งแรงของ
พันธะทางเคมีและส่วนกาวทาชั้นบน เพื่อเป็นชั้นยึดยางคอมเปาว์และเสริมประสิทธิภาพในการยึดติดโลหะ
จากความสำคัญดังกล่าวจึงได้มีการศึกษาวิจัยเรื่อง กาวสำหรับติดยางกับโลหะโดยใช้กาวรองพื้นและกาวยาง
ธรรมชาติ โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คือ รองศาสตราจารย์อาซีซัน แกสมาน
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ ดร.เอกวิภู กาลกรณ์สุรปราณี คณะวิทยาศาสตร์ การวิจัยดังกล่าว
จะมุ่งเน้นการพัฒนาการเตรียมสารไพรเมอร์ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับกาวสูตรที่ให้คุณสมบัติที่ดีที่สุดจากงานวิจัย
โดยการศึกษาคุณสมบัติการยึดติดระหว่างคอมเปาว์ยางธรรมชาติกับโลหะ ๓ ชนิด คือ ทองแดง เหล็ก และ
อลูมิเนียม
รองศาสตราจารย์ ดร.เจริญ นาคะสรรค์ เปิดเผยถึงผลสรุปการวิจัยว่า สามารถพัฒนายางพาราเป็นกาวได้
โดยการลดขนาดโมเลกุลของยางพาราให้มีความเหมาะสมแก่ความต้องการของอุตสาหกรรมแต่ละอย่างด้วยวิธีการ
ทางเคมี พบว่าให้ความสามารถในการติดประสานระหว่างยางกับโลหะสูงมาก กาวชนิดนี้เหมาะสำหรับใช้งานใน
อุตสาหกรรมยานยนต์ การก่อสร้าง และการขนส่ง สำหรับการเคลือบลงบนผิวโลหะ อาจจะใช้การพ่น การทาด้วย
แปรงหรือลูกกลิ้ง และการจุ่ม นอกจากมีคุณสมบัติด้านความแข็งแรงแล้ว กาวชนิดนี้ยังมีข้อดีด้านการทนน้ำมันและ
สิ่งแวดล้อม
จุดเด่นของกาวชนิดนี้คือ เป็นกาวที่สร้างจากวัตถุดิบธรรมชาติ ไม่มีองค์ประกอบของสารพิษเจือปนอยู่
ดังเช่นกาวที่ใช้กันทั่วไป จะมีฟอร์มาลินเป็นองค์ประกอบ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากและข้อสำคัญคือ
กาวที่คิดขึ้นนี้มีความแข็งแรงสูงกว่ากาวที่ใช้กันอยู่ เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะใช้ประโยชน์จากกาวที่ผลิตจากน้ำยางพารา
จึงมีสูงมากและจะมีมูลค่ามหาศาล เพราะสามารถลดการนำเข้ากาว ซึ่งเราต้องนำเข้ามาปีละหลายพันล้านบาท
ได้เป็นอย่างดี รองศาสตราจารย์ ดร.เจริญ นาคะสรรค์ เปิดเผยเพิ่มเติม
********************************
|