รายละเอียด :
|
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำพรรคฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะ เดินทางร่วมเสวนารับฟังปัญหา ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี ผศ.สมปอง ทองผ่อง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี นายเสรี ศรีหะไตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ให้การต้อนรับเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2555 ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ผู้เข้าร่วมการเสวนาประกอบด้วย คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดปัตตานี นักวิชาการ นักศึกษา ภาคประชาสังคม และสื่อมวลชน เพื่อรวบรวมข้อมูลจัดทำเป็นข้อสรุปนำเสนอรัฐบาลต่อไป
ผศ.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวัง
สถานการณ์ภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เปิดเผยว่า สรุปสถิติเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ระหว่างวันที่ 1-31 กรกฎาคม 2555 พบว่า มีผู้เสียชีวิต 42 ราย ผู้บาดเจ็บ 96 ราย จำแนกตามประเภทเหตุการณ์ รวม 85 เหตุการณ์ อาทิ ประเภทก่อกวน 3 เหตุการณ์ ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ 7 เหตุการณ์
คาร์บอมบ์ 3 เหตุการณ์ โจมตี 1 เหตุการณ์ โจมตีฐาน 2 เหตุการณ์ ปะทะ 1 เหตุการณ์ ปิดล้อมตรวจค้นและปะทะ 3 เหตุการณ์ พบวัตถุระเบิด 2 เหตุการณ์ พบศพ 5 เหตุการณ์ ยิง 32 เหตุการณ์ วางเพลิง 6 เหตุการณ์ วางระเบิด 19 เหตุการณ์ วางระเบิดและยิง 1 เหตุการณ์ ในวันนี้สถานการณ์ความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงดำเนินต่อไป พร้อมด้วยความซับซ้อนของสถานการณ์ พัฒนาการของความรุนแรงได้นำไปสู่สภาวะความยืดเยื้อเรื้อรังของความขัดแย้ง ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้รายงานให้เห็นข้อมูลว่าในรอบ101 เดือนของความรุนแรงที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่เริ่มไต่ระดับสูงมาตั้งแต่ 4 มกราคม 2547 ถึง 31พฤษภาคม 2555 หรือก้าวข้ามเข้าสู่ปีที่ 9 ของความรุนแรง มีเหตุการณ์ความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวน 11,754 เหตุการณ์ ซึ่งยังผลทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บรวมกันประมาณ 14,343 รายในจำนวนนี้ประกอบไปด้วยผู้เสียชีวิต 5,206 รายและ มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกประมาณ 9,137ราย ทุกวันทุกคืนเรายังคงได้รับข่าวสารเกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบภาคใต้เกิดขึ้นตลอดเวลา
สถานการณ์ความไม่สงบได้มีอัตราสูงขึ้นตั้งแต่ปี 2547 จนกระทั่งปลายปี 2550 ลดระดับลง อันเป็นผลมาจากการระดมกำลังทหารและปฏิบัติการควบคุมอย่างเข้มข้นของภาครัฐโดยอาศัยการบังคับใช้กฎหมายพิเศษ คือ กฎอัยการศึก และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยเป็นการใช้ความเข้มข้นของการปราบปรามและการควบคุมด้วยกำลัง แต่ทั้งนี้ตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา ระดับความสูญเสียจากความรุนแรงกลับมีลักษณะคงที่ ณ จุดนี้ การก่อรูปของความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้พัฒนาไปสู่รูปแบบใหม่ กล่าวคือ ในขณะที่จำนวนครั้งของความรุนแรงหรือเหตุการณ์ความไม่สงบมีระดับลดลงไปบ้างจากห้วงปี 2547-2550 แต่อัตราการตายและบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ลดลงตามจำนวนเหตุการณ์ที่ลดลงไปด้วย ถ้าจะกล่าวในอีกแง่หนึ่งจำนวนของการสูญเสียที่รวมถึงการเสียชีวิตและการบาดเจ็บนั้นกลับมีลักษณะคงที่หรือไม่ได้ลดลง อย่างมีนัยสำคัญเลยความรุนแรงที่เกิดขึ้นในระยะหลังจึงได้กลายรูปแปลงกายไปเป็นความรุนแรงเชิงคุณภาพหรือ ความรุนแรงที่ยึด
ผศ.สมปอง ทองผ่อง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวเพิ่มเติม ว่า ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มหาวิทยาลัย ต้องยืนหยัดอยู่ได้ ด้วยภารกิจ 4 ด้านของมหาวิทยาลัยที่จะต้องตอบสนองความต้องการของชุมชน และสังคม แม้ว่ามหาวิทยาลัย จะได้รับผลกระทบจากการย้ายออกของบุคลากร และการมีนักศึกษาในพื้นที่มากกว่านักศึกษานอกพื้นที่ จนทำให้เกิดวัฒนธรรมเชิงเดี่ยว แต่การได้ซึ่งนักศึกษาในพื้นที่ทำให้คนในพื้นที่มีโอกาสทางการศึกษามากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสของมหาวิทยาลัยที่จะได้แสดงบทบาทบ่มเพาะเยาวชนให้เป็นคนดี เพราะการศึกษาจะเป็นฐานของการแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น นอกจากนี้มหาวิทยาลัย ได้มีบทบาทด้านบริการวิชาการเพื่อความมั่นคงด้านอาชีพ สังคม และวัฒนธรรม ให้ยั่งยืนต่อไป
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้จากภาครัฐ และภาคประชาชน พบว่าในพื้นที่จังหวัดจังหวัดชายแดนภาคใต้มีปัญหาอยู่ 2 ระดับ ทั้งในเชิงบริหารจัดการในพื้นที่ซึ่งเป็นไปค่อนข้างยาก สืบเนื่องจากการขดกำลังพล อุปกรณ์ การดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ประชาชนจะไม่กล้าเป็นพยานในคดี ประกอบกับคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่นั้นจะแบ่งเป็นคดีทั่วไปและคดีความมั่นคง แต่ลักษณะของผู้ต้องหาเป็นกลุ่มเดียวกัน จึงไม่สามารถแยกแยะได้ ประการสำคัญประเด็นเรื่องมูลค่าของการเยียวยาที่สูง ทำให้เกิดระบบอุปถัมภ์เพื่อให้ได้มาซึ่งการเยียวยา สำหรับปัญหาในเชิงนโยบายนั้นพบว่าความไม่ชัดเจนของรัฐบาลที่จะผลักดันทิศทางการแก้ปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่อย่างจริงจัง ทำให้เกิดความสับสนในระดับผู้ปฏิบัติ โดยเฉพาะด้านโครงสร้างการทำงาน จึงขอฝากรัฐบาลให้มีความจริงใจต่อการแก้ไขปัญหาสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้และกำหนดทิศทางที่ชัดเจน
|