เมื่อเช้าวันนี้  (วันที่ 24 กันยายน 2555)  พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี   เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลา และกล่าวคำสดุดีเฉลิมพระเกียรติคุณ เนื่องในวันมหิดล และครบรอบ 120 ปี วันคล้าย
วันพระราชสมภพ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก  โดยมี ผศ.สมปอง ทองผ่อง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี  อ่านมหิตลานุสรณีย์ หลังจากนั้นได้เป็นประธานเปิดโครงการเฉลิมพระเกียรติ “มหาราชินี อัคราภิรักษศิลปิน” บรรยายพิเศษหัวข้อ เหตุแห่งพระราชสมัญญา “อัคราภิรักษศิลปิน” และการแสดงโขนเฉลิมพระเกียรติจากเยาวชน “โครงการเยาวชนต้นแบบโขนปัตตานี” พร้อมมอบทุนการศึกษาสานใจไทย สู่ใจใต้แก่เยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ห้องประชุมสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี โดยมี ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม  ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี และหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดปัตตานี  ร่วมในพิธี
           พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี  กล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในพิธีเปิดโครงการเฉลิมพระเกียรติ “มหาราชินี อัคราภิรักษศิลปิน” ความตอนหนึ่งว่า  ตลอดระยะเวลากว่า  60 ปี ที่ทรงดำรงพระอิสริยศักดิ์ เป็นสมเด็จพระบรมราชินีนาถ มิได้ทรงย่อท้อต่อความเหนื่อยยาก ทรงอุทิศกำลังพระวรกาย กำลังพระปัญญา และพระราชทรัพย์ เพื่อขจัดทุกข์ผดุงสุขอาณาประชาราษฎร์ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ โครงการตามพระราชดำริซึ่งกระจายอยู่ทั่วไปในทุกภูมิภาคของประเทศ  สัมฤทธิผลได้ด้วยพระปรีชาญาณ และพระอัจฉริยภาพของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ที่ทรงพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของพสกนิกรไทย โดยเฉพาะเกษตรกรและราษฎรในชนบทได้ใช้เวลาอย่างมีคุณค่า สร้างรายได้เพิ่มพูน และก่อให้เกิดผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ  นอกจากนี้ยังทรงฟื้นฟูและอนุรักษ์ศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทย ดังเช่นการแสดงโขน  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ผู้รู้  ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโขน และงานหัตถศิลป์แขนงต่างๆ จัดสร้างเครื่องแต่งกายโขน  โดยทรงกำชับให้ยึดถือรูปแบบเครื่องแต่งกายโขนโบราณ  และพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อปรับปรุงเครื่องแต่งกายโขนตามแนวพระราชดำริให้ดำรงคงอยู่คู่ประเทศ อันเป็นการธำรงรักษาศิลปวัฒนธรรมซึ่งเป็นมรดกล้ำค่าของชาติให้สืบทอดต่อไปจนถึงอนุชนรุ่นหลัง
                     ผศ.กมล  คงทอง  ผู้อำนวยการสถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  ได้จัดโครงการเฉลิมพระเกียรติ  “มหาราชินี อัคราภิรักษศิลปิน” เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา และกระทรวงวัฒนธรรมในนามคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ถวายพระราชสมัญญา “อัคราภิรักษศิลปิน” แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จากพระปรีชาสามารถที่ทรงตระหนักถึงคุณค่างานศิลปะและยังเป็นองค์อุปถัมภ์ศิลปิน  โดยเฉพาะการแสดงโขน ทรงสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่นำมาสร้างสรรค์ให้ทันยุค ทั้งด้วยฝีมืออันละเอียดอ่อน ดั้งเดิมของการแสดง และเครื่องทรงองค์ประกอบต่าง ๆ กับเทคโนโลยีวิทยาการที่ช่วยให้มรดกวัฒนธรรมแขนงนี้เป็นที่นิยมต่อไป  จึงได้จัดการแสดง “โขน ตอน ยกรบ ปะทะทัพ หย่าศึก”   และการแสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ  ตลอดจนการบรรยายพิเศษหัวข้อ “เหตุแห่งพระราชสัมญญา อัคราภิรักษศิลปิน”  ขึ้นในวันมหิดล ตรงกับวัน ที่  24  กันยายน 2555  เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมของชาติ และเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จึงนับเป็นอีกรูปแบบกิจกรรมที่เหมาะอย่างยิ่งในการถวายรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
                     ผศ.สมปอง  ทองผ่อง  รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวเพิ่มเติมว่า  มหาวิทยาลัยได้กำหนดจัดวันมหิดล เป็นประจำทุกปี  แต่สำหรับปี 2555 มหาวิทยาลัยได้เฉลิมพระเกียรติครบรอบ 120 ปี วันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร
อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ตลอดจนโครงการเฉลิมพระเกียรติ “มหาราชินี อัคราภิรักษศิลปิน” เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา  กิจกรรมประกอบด้วย พิธีวางพวงมาลาพระราชานุสาวรีย์  
การแสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ  การแสดงโขน ตอน “ยกรบปะทะทัพ หย่าศึก” และบรรยายพิเศษหัวข้อ “เหตุแห่งพระราชสัมญญา อัคราภิรักษศิลปิน” ตลอดจนการแข่งขันกีฬา 5 พี่น้อง  ระหว่าง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี  โรงพยาบาลปัตตานี  สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี   โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี  และ โรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี.