ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี  และเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)  เปิดเผยว่ารัฐบาลเห็นชอบให้ดำเนินการ
เพื่อยกฐานะมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  เป็นมหาวิทยาลัยเอกเทศ  โดย  ค.ร.ม.ได้อนุมัติงบประมาณ
เพื่อการยกฐานะไว้ให้แล้ว
         รายงานข่าวจากงานประชาสัมพันธ์  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  แจ้งว่าตามที่องค์กรภาครัฐ
และเอกชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้จัดการเสวนาเรื่อง “การยกฐานะมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  ให้เป็น
มหาวิทยาลัยเอกเทศ  ประชาชนได้อะไร  รัฐเสียอะไร” เมื่อวันอังคารที่ 31  สิงหาคม  2547  ที่โรงแรมซี.เอส.ปัตตานี  โดยมีผู้เข้า
เสวนาประมาณ 1,000 คน  นั้น
         ศาสตราจารย์นายแพทย์กระแส  ชนะวงศ์  ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี  ปาฐกถานำสรุปความว่า  ณ  วันนี้คงไม่ต้องพูดว่า
ประชาชนได้อะไร  รัฐเสียอะไร  เพราะคณะรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการแล้ว  แต่ควรจะพิจารณากันว่าจะดำเนินการ
ต่อไปอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ  และมีผลแก่ประชาชนอย่างแท้จริง  ซึ่งได้แก่การปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารจัดการ  คนที่
จะมาเป็นอธิการบดีจะเป็นใคร  การมีส่วนร่วมของประชาชนในท้องถิ่น  การเปลี่ยนแปลงวิธีการสอน  การปฏิรูปการบริหารจัดการที่
เน้นธรรมาภิบาล  ความร่วมมือกันทั้งของภาครัฐและเอกชนและระหว่างประเทศ  เพื่อยกคุณภาพมาตรฐานการศึกษาความเป็น
นานาชาติของมหาวิทยาลัยที่คนต่างชาติ  ต่างวัฒนธรรมก็สามารถมาเรียนได้  ตลอดจนการมุ่งเน้นการพัฒนาที่เหมาะสมทาง
วิชาการ  การสร้างความเป็นตัวของตัวเอง  เข้าใจในธรรมชาติ  สิ่งแวดล้อมสังคม  ภูมิปัญญาท้องถิ่น  ตลอดจนภาวะผู้นำของ
ผู้บริหาร  คือสิ่งที่ต้องตระหนัก
         หลังจากนั้นเป็นการเสวนาของผู้นำชุมชน  และผู้นำศาสนาได้แก่  ประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานี  
นายกสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดปัตตานีและอดีตรองประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา  สภาผู้แทนราษฎร  
ซึ่งต่างก็มีความคิดเห็นสอดคล้องกันที่จะให้โอกาสทางการศึกษาแก่ประชาชนในท้องถิ่น  การคำนึงถึงการศึกษาด้าน
ศาสนาและพูดถึงปัญหาความล่าช้าในการยกฐานะ
         รองศาสตราจารย์ ดร.ภาวิช  ทองโรจน์  เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา  เปิดเผยว่ามหาวิทยาลัยสงขลา
นครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  มีความพร้อมที่ยกฐานะเป็นมหาวิทยาลัยเอกเทศมากหากเทียบกับหลายมหาวิทยาลัยที่แยกเป็น
เอกเทศแล้ว  ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยมหาสารคาม  มหาวิทยาลัยนเรศวร  หรือแม้แต่สถาบันราชภัฎที่ยกฐานะเป็นมหาวิทยาลัย
แล้ว  แต่มีสิ่งพึงสังวรณ์ในเรื่องการสร้างหรือการเกิดมหาวิทยาลัยต้องมีความสมานฉันท์  การได้มาของผู้บริหารเป็นปัจจัย
สำคัญที่จะนำความก้าวหน้ามาสู่หาวิทยาลัย
         นอกจากนี้ได้เปิดเผยว่า  สกอ.หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาได้เตรียมการเพื่อยกฐานะวิทยาเขตปัตตานี
เป็นมหาวิทยาลัยเอกเทศไว้แล้ว  โดยของบประมาณเพื่อการยกฐานะเป็นเอกเทศไว้ตั้งแต่ปี 2547  เป็นเงิน 10 ล้านบาท  และ
ในปี 2548  เป็นเงิน 150 ล้านบาท  และได้เตรียมที่จะนำร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยที่จะเกิดขึ้นจากการยกฐานะวิทยาเขต
ปัตตานี  เป็นมหาวิทยาลัยเอกเทศ  ซึ่งมี 3,4 ฉบับ  มารวมเป็นร่างเดียวกันเสร็จแล้ว  เชื่อว่าการยกฐานะแล้วเสร็จประมาณ
กลางปี 2548  

                                                   *************************************