สมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกับชมรมปอเนาะ
จังหวัดชายแดนภาคใต้และสำนักผู้ราชการประจำเขตตรวจราชการที่ 12  สัมมนาโต๊ะครูปอเนาะ
และผู้บริหารโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดชายแดนภาคใต้  เมื่อวันที่ 11 เมษายน  
ที่ผ่านมา  ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  เพื่อรับทราบ
แนวนโยบายของรัฐเกี่ยวกับการส่งเสริมสนับสนุนปอเนาะและโรงเรียนเอกชนสอน
ศาสนาอิสลามตลอดจนเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้เข้าสัมมนาในการเป็นข้อมูลประกอบ
เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้  โดยมีโต๊ะครูปอเนาะและผู้บริหารโรงเรียน
เอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดชายแดนภาคใต้  รวม 800 คนเข้าร่มสัมมนา  โดยมี
ดร.สวาสดิ์  สุมาลยศักดิ์  จุฬาราชมนตรี  เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา  สำหรับ
ในภาคเช้าได้มีการบรรยายพิเศษ  “แนวทางการรวมพลังของสังคมเพื่อสร้างสันติสุขและการ
พัฒนาที่ยั่งยืนในจังหวัดชายแดนภาคใต้”  โดย ฯพณฯ นายวันมูหะมัดนอร์  มะทา  รองนายกรัฐมนตรี  
และการบรรยายเรื่องการสถาปนาความมั่นคงและสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้”  โดย  
พลเอกปานเทพ  ภูวนารถ  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  ส่วนในภาคบ่าย
คุณหญิง  ดร.กษมา  วรวรรณ  ณ  อยุธยา  เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน  
เดินทางมาบรรยายเรื่องแนวทางการส่งเสริมปอเนาะและโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา
อิสลามในจังหวัดชายแดนภาคใต้  และการบรรยายเรื่องแนวทางการสร้างความปลอดภัย
ในชีวิตและทรัพย์สินและการแก้ปัญหาแบบสันติวิถีเพื่อสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้  
โดย ฯพณฯ นายโภคิณ  พลกุล  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
          ฯพณฯ  นายวันมูหะหมัดนอร์  มะทา  รองนายกรัฐมนตรี  ได้กล่าวในขณะบรรยายพิเศษ
เรื่องแนวทางการสถาปนาความมั่นคงและสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้  ว่ายุทธศาสตร์หนึ่ง
ในการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่รัฐบาลให้ความสำคัญคือรัฐบาล
ยึดแนวทางกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ  คือ  เข้าถึง  เข้าใจ
และพัฒนา  กล่าวคือการจัดระบบโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม  หรือปอเนาะ  จะต้อง
เข้าไปสัมผัสถึงความต้องการของโต๊ะครูปอเนาะ  และโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม  
ซึ่งขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการได้เปิดโอกาสให้มีการจดทะเบียนปอเนาะให้เป็นโรงเรียน
สอนศาสนาเอกชน  ส่วนปอเนาะใดที่ยังไม่พร้อมให้ขึ้นทะเบียนกับส่วนราชการก่อน
โดยยังคงเปิดสอนด้านศาสนาอิสลามเป็นหลัก  และอาจมีหลักสูตรสามัญวิชาชีพเสริม  
เพราะจำเป็นต้องพัฒนาเยาวชนให้มีความรู้  นอกจากนี้การรักษาความสงบในพื้นที่นั้น
ต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนที่ต้องช่วยเป็นหูเป็นตาแทนเจ้าหน้าที่อีกด้วย

                                            ***********************************