คณะวิทยาการสื่อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ศึกษาวิจัยเรื่องเทคโนโลยี
สารสนเทศและนิเทศศาสตร์เพื่อสันติสุขของชาติ ในบริบท 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อนำเสนอรูปแบบ
การจัดกระบวนการสื่อสารเพื่อสร้างสังคมสันติสุข โดยใช้กลยุทธ์การพัฒนาพื้นที่การสื่อสารและสื่อ
การพัฒนาเนื้อหาสาร และการพัฒนาปัจจัยสนับสนุน
ผศ. อิ่มจิต เลิศพงษ์สมบัติ หัวหน้าโครงการวิจัยเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศและนิเทศศาสตร์
เพื่อสันติสุขของชาติ และคณบดีคณะวิทยาการสื่อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวว่า
สถานการณ์ความขัดแย้งและความรุนแรงที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ การสื่อสารได้ถูกหยิบยกขึ้น
นำเสนอว่าเป็นส่วนสำคัญประการหนึ่งที่จะคลี่คลายความขัดแย้งที่เกิดขึ้นให้เบาบางลงได้ ทั้งที่เป็นการ
สื่อสารในลักษณะของสื่อมวลชน สื่อบุคคล หรือสื่อชุมชนต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อมวลชน
ซึ่งอยู่ในฐานะที่เป็นแหล่งกระจายข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ความคิดเห็นต่าง ๆ และมีอิทธิพลต่อภาคส่วน
อื่น ๆ ในสังคม ทั้งที่เป็นอิทธิพลต่อความรู้สึก ความคิด ทัศนคติ และพฤติกรรม ในแง่ของการจัดการ
ความขัดแย้ง สื่อมวลชนจึงถูกคาดหวังว่าจะมีบทบาทสำคัญในการจัดการความขัดแย้งตลอดทั้งกระบวนการ
ดังนั้นการส่งเสริมหรือพัฒนาบทบาทของสื่อและการสื่อสารให้สามารถทำหน้าที่ในการเป็นส่วนประกอบ
ทางสังคมที่สำคัญ เพื่อบรรเทาปัญหาความขัดแย้งได้นั้น จำเป็นต้องมีการศึกษา วิเคราะห์ และเชื่อมโยง
ปัจจัยทางการสื่อสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง การดำเนินการเช่นนี้จะนำไปสู่การสร้างและนำเสนอแนวทางการ
ดำเนินบทบาทของสื่อและการสื่อสาร รวมทั้งการสร้างเครื่องมือ ระบบ และจัดกระบวนการสื่อสารที่เอื้อ
ให้เกิดสภาพการณ์และบรรยากาศทางสังคมที่เหมาะสม เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งได้
คณะวิทยาการสื่อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้รับการสนับสนุนจาก
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ในการดำเนินงานโครงการวิจัยเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศและ
นิเทศศาสตร์เพื่อสันติสุขของชาติ ในบริบท 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นการศึกษาโดยบูรณาการ
องค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและด้านนิเทศศาสตร์เข้าด้วยกัน เพื่อนำไปสู่การแสวงหาทิศทาง
การบริหารจัดการและการดำเนินบทบาทที่เหมาะสมของสื่อประเภทต่าง ๆ อันจะช่วยให้เกิดบรรยากาศ
แห่งการสร้างสังคมสันติสุข ซึ่งเป็นสังคมที่ให้ความสำคัญกับการยอมรับและเคารพในศักดิ์ศรีความ
เป็นมนุษย์ ความแตกต่างและความหลากหลายทางวัฒนธรรม สร้างความรักและความยุติธรรมให้เกิดขึ้น
ในสังคมและขจัดการแบ่งแยกระหว่างคนกลุ่มต่าง ๆ การศึกษาครั้งนี้เน้นการศึกษาความสัมพันธ์ของ
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับบทบาทของสื่อมวลชน สื่อชุมชน และสื่อใหม่ในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ
สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แบบแผนการสื่อสารและความต้องการด้านข่าวสารของ
ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ การรับรู้ข่าวสารและทัศนคติของผู้รับสารเกี่ยวกับประเด็นสถานการณ์
ความไม่สงบ ผลกระทบของสื่อต่อผู้รับสาร และศึกษาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของ
ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้และศักยภาพของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
การศึกษาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับบทบาทของสื่อและความสัมพันธ์ของปัจจัยเหล่านั้น นำไปสู่การ
แสวงหาแนวทางสำหรับการแพร่กระจายข่าวสารผ่านสื่อมวลชน สื่อชุมชน และการสื่อสารประเภทอื่น ๆ
รวมทั้งแนวทางการบริหารจัดการองค์กรที่เกี่ยวข้องกับข่าวสารและการสื่อสารในสังคมจังหวัดชายแดน
ภาคใต้ที่เอื้อต่อการสร้างสังคมสันติสุข การศึกษาวิจัยในครั้งนี้ยังเป็นแนวทางการพัฒนาระบบด้าน
เทคโนโลยีสารสนเทศที่ช่วยสนับสนุนการสร้างสังคมสันติสุข ซึ่งนำมาสู่การนำเสนอรูปแบบการจัด
กระบวนการสื่อสารเพื่อสร้างสังคมสันติสุข ซึ่งมีพื้นฐานมาจากข้อค้นพบ 4 ประเด็น ดังนี้
1. พื้นที่และวาระการสื่อสารในบริบทสังคมชายแดนภาคใต้ ที่พบว่าประชาชนในจังหวัดชายแดน
ภาคใต้มีการบริโภคข่าวสารทางสื่อโทรทัศน์มากที่สุด รองลงมาคือการสื่อสารระหว่างบุคคล ทั้งบุคคล
ในครอบครัว เพื่อนบ้าน และเพื่อนร่วมงาน และตามด้วยสื่อวิทยุ โดยข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์
จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่รับรู้มากที่สุดคือ ข่าวฆ่ารายวัน รองลงมาคือข่าวที่เกี่ยวกับ
การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ข่าวการแก้ปัญหาและพัฒนาการศึกษาของเยาวชน สำหรับเนื้อหาข่าวสาร
ที่ประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องการได้แก่ ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จำเป็นต้อง
ได้รับการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน รองลงมาคือทิศทางการพัฒนาการศึกษาแก่เยาวชน 3 จังหวัดชายแดน
ภาคใต้ และการติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษ
2. ข้อมูลข่าวสารกับการรับรู้และผลกระทบของการนำเสนอข่าวสถานการณ์ความไม่สงบที่พบว่า
หนังสือพิมพ์กลุ่มตัวอย่างทุกฉบับเน้นหนักการนำเสนอข่าวความรุนแรงของสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่
โดยใช้ถ้อยคำและภาษาที่รุนแรง เกินจริง บิดเบือน ปราศจากการวิเคราะห์ ส่งผลให้เกิดผลกระทบ
ด้านภาพลักษณ์ของพื้นที่ สร้างความหวาดระแวง นอกจากนี้มีการนำเสนอข่าวโดยเลือกให้ความสำคัญ
กับมุมมองของฝ่ายรัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐในการนิยามความหมายหรือสาเหตุของปัญหา รวมถึง
สถานการณ์โดยทั่วไปของจังหวัดชายแดนภาคใต้
3. สื่อชุมชนและสื่อมวลชนกับความเป็นสื่อเพื่อสันติภาพ ที่พบว่าโอกาสและความเป็นไปได้
ในการพัฒนาสื่อเพื่อสันติภาพในบริบทของสังคมไทยนั้น จะต้องเริ่มจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการทบทวน
ออกแบบ โดยองค์กรสื่อต้องตระหนักถึงเป้าหมายที่มุ่งมั่นเป็นสื่อเพื่อสันติภาพ ซึ่งต้องมีปัจจัย
เกื้อหนุนทางสังคมทั้งภาควิชาการ ภาคประชาชน และภาครัฐ จะต้องให้ความสำคัญกับกฎหมายซึ่ง
เกื้อหนุนให้เกิดมิติความเท่าเทียมกันในการสื่อสาร ตลอดจนเปิดโอกาสให้ชุมชนผู้รับสารเข้ามามี
ส่วนร่วมในกระบวนการสื่อสาร เพื่อนำไปสู่การเป็นสื่อเพื่อสันติภาพอย่างแท้จริงและยั่งยืน
4. เทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อใหม่กับบทบาทเพื่อสันติภาพ ที่พบว่าการให้บริการ
อินเตอร์เน็ตตำบลในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขาดความพร้อมในการให้บริการทั้งในด้านบุคลากร
ด้านคุณภาพ ระบบเครือข่ายที่อยู่ในระดับต่ำ ด้านปริมาณเครื่องคอมพิวเตอร์มีไม่เพียงพอ ประกอบกับ
ประชาชนส่วนใหญ่ขาดความรู้ในการใช้อินเตอร์เน็ต
ส่วนผลงานที่เป็นรูปธรรมของการวิจัยเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศที่คณะผู้วิจัยได้
พัฒนาคือ มีการจัดทำเว็บไซต์เทคโนโลยีสารสนเทศและนิเทศศาสตร์เพื่อสันติสุขของชาติ เพื่อเป็น
ช่องทางการสื่อสารในการสร้างเสริมความรู้ความเข้าใจและแลกเปลี่ยนทัศนะเกี่ยวกับแนวทางการ
สร้างสังคมสันติสุข และการพัฒนาฐานข้อมูลวิจัยจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งรูปแบบการเข้าถึง
ข้อมูลข่าวสารในชุมชน 5 รูปแบบ
ผศ. อิ่มจิต เลิศพงษ์สมบัติ กล่าวว่าผลการศึกษาวิจัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและ
นิเทศศาสตร์เพื่อสันติสุขของชาติ ที่นำไปสู่การนำเสนอรูปแบบ สาร สื่อ สู่สันติ มาจากการ
สังเคราะห์ผลการวิจัย 9 โครงการย่อย ได้แก่ การศึกษาพัฒนาการข่าวสารสถานการณ์ใน 3 จังหวัด
ชายแดนภาคใต้ โดยอาจารย์จารียา อรรถอนุชิต การศึกษาภาพสะท้อนเหตุการณ์ อุดมการณ์ และ
วาทกรรมเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่นำเสนอผ่านสื่อมวลชน โดย
อาจารย์สากีเราะ แยนา การศึกษาผลกระทบของการสื่อสารมวลชน : ทัศนคติของประชาชนในสาม
จังหวัดชายแดนใต้ต่อการเสนอข่าวเหตุการณ์ความไม่สงบ โดย ดร. นุวรรณ ทับเที่ยง การศึกษา
แบบแผนการสื่อสาร การเปิดรับสื่อ และความต้องการข่าวสารของประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์
ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอาจารย์อรุณีวรรณ บัวเนี่ยว และอาจารย์จารียา อรรถอนุชิต การศึกษา
สื่อเพื่อสันติภาพ : จริยธรรม การจัดการ และข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนา โดย ผศ. วลักษณ์กมล
จ่างกมล การศึกษาการให้บริการและการใช้อินเตอร์เน็ตตำบลในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ : ปัตตานี
ยะลา และนราธิวาส โดย ผศ. อิ่มจิต เลิศพงษ์สมบัติ การศึกษาเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อการ
จัดการเครือข่ายสารสนเทศของชุมชน โดยอาจารย์จรุงวิทย์ บุญเพิ่ม การพัฒนาฐานข้อมูลและช่องทาง
การสื่อสารเพื่อเสริมสร้างสังคมสันติสุข โดย ดร. ศริยา บิลแสละ การออกแบบระบบป้องกันและเตือนภัย
คุกคามจากอินเตอร์เน็ตแบบร่วมด้วยช่วยกัน โดย ผศ. ดร. ศักดิ์ชัย ปรีชาวีรกุล และคุณวิภัทร ศรุติพรหม
ผลการศึกษาวิจัยทั้ง 9 โครงการย่อยนั้น นำมาสู่การนำเสนอกลยุทธ์ที่จะนำไปสู่หนทางปฏิบัติ
ของการสื่อสารเพื่อสันติภาพในสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วยกลยุทธ์เพื่อการพัฒนาพื้นที่การ
สื่อสารและสื่อ เช่น ส่งเสริมการสานเสวนาในร้านน้ำชา พัฒนาทักษะการสื่อสารสันติภาพของผู้นำศาสนา
พัฒนาหอกระจายข่าวด้วยการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน พัฒนาบทบาทองค์การสื่อสารภาครัฐ
ให้เป็นอิสระและกำหนดนโยบายเชิงรุก จัดตั้งองค์กรสื่อสารหรือศูนย์ข่าวภาคประชาชน การพัฒนา
อินเตอร์เน็ตตำบลให้เป็นพื้นที่การสื่อสารของประชาชนอย่างแท้จริง เป็นต้น กลยุทธ์เพื่อการพัฒนา
เนื้อหาสาร เช่น การใช้คำที่เหมาะสมในเนื้อหาผ่านสื่อ การพัฒนาเนื้อหาสารที่เหมาะสมกับกลุ่มต่าง ๆ
และการพัฒนาเนื้อหาสารที่ชุมชนต้องการสื่อสารสู่สาธารณะ กลยุทธ์เพื่อการพัฒนาปัจจัยสนับสนุน เช่น
การจัดทำคู่มือการรายงานข่าวความขัดแย้งเพื่อสร้างมาตรฐานการปฏิบัติงานของสื่อมวลชน การจัดทำคู่มือ
บริโภคข่าว ความขัดแย้งเพื่อสร้างแนวทางการรับ คัดเลือก กลั่นกรอง และรู้เท่าทันข่าวสาร การจัดตั้ง
องค์กรตรวจสอบ เฝ้าระวังสื่อและข่าวสารความรุนแรง การพัฒนาองค์กรอิสระเพื่อพัฒนาสื่อและกฎหมาย
ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อชุมชน
ผลการวิจัยดังกล่าวสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงในทางปฏิบัติในหลายหน่วยงาน เช่น
กองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ หน่วยงานรัฐบาลด้านความมั่นคง หน่วยงานภาครัฐ
ด้านการพัฒนาสังคม รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรเอกชนต่าง ๆ ที่ทำงานเกี่ยวข้อง
กับบริบทจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นต้น
******************************
|