มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์   วิทยาเขตปัตตานี   ร่วมกิจกรรมเด่นในรอบปีในงาน  ม.อ. วิชาการ  
ปี  2549  ในหัวข้อ  “40  ปี  ม.อ. ก้าวล้ำนำวิจัย  สานสันติสุขแดนใต้  ร่วมใจภักดิ์ครองราชย์  60  ปี”  
เปิดทุกคณะและหน่วยงานสู่ชุมชน  ระหว่างวันที่  17 – 19  สิงหาคม  2549  เพื่อให้มหาวิทยาลัย
เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง  โดยเปิดให้ชุมชนเข้าร่วมกิจกรรมทางวิชาการกับมหาวิทยาลัย
         ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมปอง  ทองผ่อง  รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต
ปัตตานี  กล่าวว่ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มีพันธกิจที่ต้องกระจายโอกาสทางการ
ศึกษาสู่ภาคใต้  เพื่อยกระดับมาตรฐานการศึกษาในท้องถิ่น  สนับสนุนภูมิภาคให้เป็นศูนย์กลางการ
ศึกษาและมีความเป็นเลิศทางวิชาการ  สามารถตอบสนองความต้องการของภาคใต้อย่างแท้จริง  โดยได้
ดำเนินภารกิจทางการศึกษามาเป็นเวลา  38  ปี  จึงถือได้ว่าเป็นแหล่งให้การศึกษา  บริการวิชาการ  และ
สร้างสรรค์วิทยาการใหม่  ๆ  ให้แก่ท้องถิ่นและประเทศชาติ  และทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรมของชาว
ท้องถิ่นภาคใต้  ในปัจจุบันสังคมคาดหวังที่จะเห็นผลงานทางวิชาการของมหาวิทยาลัยปรากฏต่อ
สายตาของประชาชนมากขึ้น  มีบทบาทช่วยสร้างความเข้มแข็งและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของชุมชน
         ดังนั้นมหาวิทยาลัยฯ จึงเห็นความจำเป็นในการที่จะสื่อให้สังคมเข้าใจและรับรู้การปฏิบัติภารกิจของ
มหาวิทยาลัยฯ  มากขึ้น  จึงได้จัดกิจกรรมงาน  ม.อ. วิชาการ  ปี  2549  ในหัวข้อ  “40  ปี  ม.อ. ก้าวล้ำ
นำวิจัย  สานสันติสุขแดนใต้  ร่วมใจภักดิ์ครองราชย์  60  ปี”  ระหว่างวันที่  17 – 19  สิงหาคม  2549  เพื่อให้
มหาวิทยาลัยเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง  โดยเปิดให้ชุมชนเข้าร่วมกิจกรรมทางวิชาการกับมหาวิทยาลัย
         รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  ได้กล่าวถึงการจัดงาน  ม.อ.
วิชาการว่าถือเป็นการเปิดโอกาสให้ชุมชนได้ทราบถึงศักยภาพของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  
วิทยาเขตปัตตานี  ในด้านต่าง  ๆ  ในงานประกอบด้วยการแสดงผลงานวิจัย  ผลงานวิชาการ  การบริการวิชาการ  
ประชุมอบรมสัมมนา  การคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ต่าง  ๆ  การเผยแพร่วิทยาการและเทคโนโลยี  และการส่งเสริม
ศิลปะและวัฒนธรรมของคณะและหน่วยงานต่าง  ๆ  ในมหาวิทยาลัย  การจัดนิทรรศการของส่วนราชการ
ต่าง  ๆ  และการออกร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและสินค้า  OTOP  ที่มีชื่อเสียง  โดยให้มีกิจกรรมหลากหลาย
รูปแบบในการที่จะสื่อสารกับสังคมและชุมชน  ทั้งนี้จะส่งผลให้มหาวิทยาลัยมีความใกล้ชิดและเกิดสัมพันธภาพ
อันดีกับชุมชนมากขึ้น

                                                      ***********************************