รายละเอียด :
|
นักวิชาการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ศึกษาความต้องการของประชาชน
จังหวัดชายแดนภาคใต้พบว่าประชาชนต้องการการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ต้องการการยอมรับ
ในความแตกต่าง และความหลากหลายทางวัฒนธรรมของพื้นที่ ตลอดจนความเป็นธรรมและเท่าเทียมกัน
ในสังคม
จังหวัดชายแดนภาคใต้ประกอบด้วยจังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส มีพื้นที่ 10,936 ตาราง
กิโลเมตร ประชากร 1.78 ล้านคน ประชาชนส่วนใหญ่มีลักษณะพิเศษเป็นของตนเองเป็นการเฉพาะ
เพราะส่วนใหญ่เป็นชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม มีวิถีดำเนินชีวิตที่แตกต่างไปจากประชาชนส่วนใหญ่
ของประเทศทั้งในด้านศาสนา ภาษา และวัฒนธรรม รวมทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน จากความ
แตกต่างดังกล่าวนี้ได้กลายเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ผู้ก่อความไม่สงบนำมาอ้าง เพื่อปลุกกระแสให้เกิดการ
ต่อต้านอำนาจรัฐและการก่อความไม่สงบในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะมาจากกลุ่มขบวนการต่าง ๆ
กลุ่มผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น กลุ่มอิทธิพลการเมือง และการไม่สามารถแก้ปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้น
ซ้ำซาก
ผศ. ดร. อิบราเฮ็ม ณรงค์รักษาเขต คณะวิจัยความต้องการของประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้
และหัวหน้าภาควิชาอิสลามศึกษา วิทยาลัยอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
กล่าวว่ารัฐบาลทุกสมัยได้มุ่งเน้นให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดและได้กำหนดเป็นนโยบายความมั่นคงแห่งชาติ
ทั้งในด้านการเมือง การทหาร การเศรษฐกิจ และสังคมวิทยาสำหรับพื้นที่ดังกล่าวไว้เป็นการเฉพาะ เริ่ม
ตั้งแต่นโยบายความมั่นคงแห่งชาติเกี่ยวกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ ฉบับที่ 1 เพื่อสร้างความสงบเรียบร้อย
ในพื้นที่ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและส่งเสริมการพูดและการใช้ภาษาไทย ต่อมาได้จัดระบบบริหาร
เพื่อแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยพัฒนาระบบราชการ และยังมีใช้นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ
อีกหลายฉบับ ซึ่งเน้นความสามัคคี ความสงบ และความอยู่ดีมีสุข สร้างความเข้าใจลดความหวาดระแวง
ด้วยการยอมรับในความแตกต่าง เน้นการดำเนินงานมวลชนให้ผู้นำมุสลิมมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาและ
พัฒนาสังคมใช้แนวทางสันติวิธี ในขณะที่การเมืองนำการทหารในการรักษาความสงบ จนกระทั่งปี 2545
ได้มีการปรับปรุงการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยใช้ระบบบริหารราชการจังหวัดแบบ
บูรณาการ โดยให้มีคณะกรรมการนโยบายเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
ทำหน้าที่กำหนดนโยบายและแก้ปัญหาและพัฒนาในภาพรวม เพื่อให้การแก้ปัญหาและพัฒนา 3 จังหวัด
ชายแดนภาคใต้ ตรงตามความต้องการของประชาชนและเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
แม้ว่ารัฐบาลพยายามที่จะใช้นโยบายในการดำเนินงานเพื่อแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
แต่ปัญหาก็ยังคงอยู่ เพราะพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากภูมิภาคอื่น จึงทำให้
เกิดความหวาดระแวงและความไม่ไว้วางใจ กอปรกับความรู้สึกต่ออำนาจรัฐที่ถูกสะสมมานาน ทำให้ปัญหา
ถูกโยงกับปัญหาจิตวิทยา ทำให้สถานการณ์มีความรุนแรงมากขึ้นนำไปสู่ปัญหาด้านความมั่นคง
จากการศึกษาปัญหาพื้นฐานของจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส พบว่าปัญหาเศรษฐกิจ
สังคม การศึกษา และกลไกของรัฐ เกิดจากการกำหนดนโยบายที่ไม่ได้มาจากการสำรวจปัญหาและความ
ต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ทำให้การแก้ปัญหาไม่ประสบผลสำเร็จ ดังนั้นการนำนโยบายไป
ปฏิบัติในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้บรรลุผลนั้น จะต้องให้ความสำคัญต่อปัจจัยด้านความยึดมั่นในวัฒนธรรม
ปัจจัยด้านลักษณะนโยบายที่สอดคล้องกับปัญหาท้องถิ่นและปัจจัยด้านข้าราชการ ซึ่งทั้งภาครัฐและภาค
ประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายหรือวางแผนพัฒนา โดยตระหนักถึงความต้องการของ
ประชาชนเป็นหลัก จะทำให้การกำหนดนโยบายและแก้ปัญหาตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของ
ประชาชน ดังนั้น วิทยาลัยอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จึงได้มีการ
ศึกษาวิจัยความต้องการที่แท้จริงของประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้เป็นข้อมูลพื้นฐานใน
การกำหนดนโยบายและการวางแผนพัฒนาและแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คณะผู้วิจัยได้เสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาและพัฒนาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดย
สนองความต้องการของประชาชนในภาพรวมของแต่ละด้านตามข้อค้นพบจากงานวิจัย ในการกำหนด
นโยบาย แผนงาน และโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ ควรคำนึงถึงมิติของการมีส่วนร่วม การยอมรับ
เอกลักษณ์และความหลากหลายทางวัฒนธรรม ความเป็นธรรมและความเท่าเทียมกันในสังคม นอกจากนี้
ควรเร่งสร้างความเข้าใจของทุกภาคเกี่ยวกับวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อลดความอ่อนไหวทางวัฒนธรรมที่อาจนำ
ไปสู่เงื่อนไขความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผลักดันสถาบันทางสังคมของชุมชนให้มี
บทบาทในการแก้ไขปัญหาและเป็นตัวขับเคลื่อนในการพัฒนา ภาครัฐควรทบทวนโครงการที่ขัดแย้ง
ความรู้สึกและหลักความเชื่อของประชาชนในพื้นที่ มีการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ผู้บริหารทุกองค์กร
ทั้งภาครัฐและเอกชนให้ยอมรับความหลากหลายในเรื่องของความเชื่อ ความแตกต่าง และความ
หลากหลายทางวัฒนธรรม ตลอดจนให้มีการผลักดันนโยบาย แผนงาน โครงการจากโครงการวิจัยนำ
ไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และปรับปรุงรูปแบบและวิธีการเผยแพร่ข่าวสาร
ข้อมูลของภาครัฐให้ถึงประชาชนอย่างทั่วถึง
*********************************
|