มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ระดมนักวิชาการ หอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรม
สมาพันธ์ครู ผู้นำท้องถิ่น และผู้นำศาสนา ร่วมกันเสวนาเพื่อหาแนวทางสำหรับการแก้ปัญหา 3 จังหวัด
ชายแดนภาคใต้ โดยประมวลข้อคิดเห็นจากผู้ร่วมเสวนาเพื่อนำเสนอภาครัฐและผู้เกี่ยวข้อง เมื่อวันอังคารที่ 3
กุมภาพันธ์ 2547 ณ ห้องประชุมสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
ผู้ช่วยศาสตราจารย์วรวิทย์ บารู รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและชุมชน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
วิทยาเขตปัตตานี และประธานการเสวนาฯ เปิดเผยว่าเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัด
ชายแดนภาคใต้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสังคมในพื้นที่ทุกระดับ เกิดความสับสนและความหวาดระแวงในสังคม
อย่างกว้างขวาง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ในฐานะสถาบันการศึกษาในพื้นที่ จึงได้เชิญ
ประชาคมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระดมแนวคิดเพื่อหาแนวทาง
ที่เหมาะสมในการแก้ปัญหาในพื้นที่
โดยมีนักวิชาการ หอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรม สมาพันธ์ครู ผู้นำ
ท้องถิ่น ผู้นำศาสนา และผู้สนใจ
รวมประมาณ 50 คน ร่วมเสวนา สำหรับประเด็นที่มีการเสวนาได้แก่
สถานการณ์ทั่วไปในพื้นที่ ผลกระทบ
ต่อเหตุการณ์ และแนวทางแก้ปัญหา ทั้ง 3 หัวข้อที่นำเสนอในครั้งนี้ มหาวิทยาลัยฯ จะทำหน้าที่ประมวล
ข้อมูลและแนวทางแก้ปัญหาจากประชาคม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลและหน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้องนำไปพิจารณาในการแก้ปัญหาต่อไป
ผู้ช่วยศาสตราจารย์วรวิทย์ บารู ได้เปิดเผยข้อสรุปจากการเสวนาในเบื้องต้นว่าสภาพปัญหาจังหวัด
ชายแดนภาคใต้เป็นปัญหาที่เรื้อรังมานาน เกิดขึ้นบ่อยครั้งและเป็นประจำ ซับซ้อนและละเอียดอ่อน เป็นปัญหา
ที่มาจากพฤติกรรมของบุคคลที่ชอบใช้ความรุนแรงและอาศัยพื้นที่ดังกล่าวเป็นเวทีประลอง เหตุการณ์ความ
ไม่สงบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องแยกให้ออกเป็นกรณี ๆ ไป อย่าเหมารวมเป็นอันขาด
ว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะ เพราะปัญหาในพื้นที่เป็นปัญหาที่ถูกปล่อยปละมานานและมีการแก้
ปัญหาอย่างไม่ตรงจุดมาตลอด จนส่งผลให้เกิดความแตกแยกของคนในพื้นที่ ผู้ร่วมเสวนาได้มองแนวทาง
การแก้ปัญหาในพื้นที่ตรงกันว่า ภาครัฐควรมองจังหวัดชายแดนอย่างถูกต้อง ตรงจุด ยุทธวิธีการแก้ปัญหา
ไม่ควรแก้ปัญหาแบบไฟไหม้ฟางเช่นที่ทำกันแบบปัจจุบัน ควรใช้สติมากกว่าความรู้สึกในการแก้ปัญหา
แก้ปัญหาด้วยความจริงใจและจริงจัง ไม่ใช่มีปัญหาครั้งหนึ่งก็แก้กันที นอกจากนี้ภาครัฐควรมองถึงคุณภาพ
ชีวิตของประชาชนด้วย ที่ผ่านมามักจะไปให้ความสำคัญเกี่ยวกับปัญหาการใช้ความรุนแรงหรือความไม่สงบ
เพียงด้านเดียว โดยละเลยการแก้ปัญหาปากท้องของชาวบ้าน เมื่อภาครัฐมองจังหวัดชายแดนอย่างถูกต้อง
ตรงจุด เชื่อว่าจะเป็นคำตอบของการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในพื้นที่ได้อย่างถูกต้องและยั่งยืน
***************************************
|