รศ.ดร. ปรีชา นุ่นสุข อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ที่ได้รับ
คัดเลือกจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ให้เป็นผู้ผลิตผลงานวิจัยดี
มีคุณภาพและได้รับโล่เกียรติคุณ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ผลงานวิจัยที่ได้รับรางวัลดังกล่าวคือเรื่อง ประวัติศาสตร์
พุทธศาสนาในคาบสมุทรภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพัฒนาการทางประวัติศาสตร์และ
อิทธิพลของพุทธศาสนาในคาบสมุทรภาคใต้ของประเทศไทย โดยคาดหวังว่าผลการศึกษาวิจัยนี้จะเป็นองค์ความรู้ใหม่
ที่เป็นประโยชน์ทางวิชาการในด้านประวัติศาสตร์ สังคมและวัฒนธรรม โดยเฉพาะภาคใต้
ผลการศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นการเสนอภาพรวมของพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของพุทธศาสนาในคาบสมุทร
ภาคใต้ของประเทศไทยเป็นครั้งแรก และถือเป็นงานวิจัยชิ้นบุกเบิกชิ้นหนึ่งที่สามารถจัดลำดับช่วงเวลาแห่งพัฒนาการ
ทางประวัติศาสตร์ของพุทธศาสนาในคาบสมุทรภาคใต้ได้เป็น 3 ช่วงคือ ช่วงต้น อยู่ในช่วงเวลาประมาณพุทธศตวรรษ
ที่ 2- 12 ช่วงกลาง อยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 13 19 และช่วงปลาย ประมาณพุทธศตวรรษที่ 17 จนถึงปัจจุบัน
พุทธศาสนาได้แผ่อิทธิพลในดินแดนแห่งนี้อย่างแนบสนิทในหลายด้านเช่น ด้านระบบความเชื่อ ด้านประติมากรรม
ด้านสถาปัตยกรรม ด้านจิตรกรรม และด้านพิธีกรรม ซึ่งเป็นกระแสวัฒนธรรมที่ดำรงความเป็นเอกลักษณ์ของ
วัฒนธรรมของคาบสมุทรภาคใต้ของประเทศไทยสืบมาจนกระทั่งปัจจุบัน
รศ.ดร. ปรีชา นุ่นสุข อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัย
สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวว่าขณะนี้มีผลงานวิจัยอีก 1 เรื่องที่กำลังจะตีพิมพ์เผยแพร่คือเรื่อง
การศึกษาอิทธิพลของศาสนาพราหมณ์ในลุ่มน้ำปัตตานี ในระหว่างพุทธศตวรรษที่ 11 16 และต้นปีงบ
ประมาณ 2547 นี้ จะมีงานวิจัยใหม่อีก 2 เรื่องคือ เรื่อง การศึกษาพัฒนาการของชุมชนโบราณบ้านบานา
อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เป็นโครงการวิจัยเดี่ยว และเรื่อง การศึกษาศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยวเชิง
ประวัติศาสตร์ของจังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นโครงการวิจัยกลุ่มทำร่วมกับอาจารย์ของภาควิชาประวัติศาสตร์สองท่าน
ส่วนปีงบประมาณ 2548 รศ.ดร. ปรีชา นุ่นสุข จะเริ่มทำโครงการวิจัยอีก 1 เรื่องคือ การศึกษาประวัติศาสตร์ศิลปะ
ของคาบสมุทรไทย คาดว่าจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เช่นกัน
รศ.ดร. ปรีชา นุ่นสุข ได้ให้ทรรศนะว่าจากวิสัยทัศน์และแผนกลยุทธ์ของมหาวิทยาลัย ที่จะเป็นมหาวิทยาลัย
เน้นการวิจัยนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องและน่ายินดียิ่ง เพราะมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของโลกจะต้องเป็นมหาวิทยาลัยแห่ง
การวิจัย โดยมีผลการวิจัยที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมออกมาอย่างต่อเนื่อง และการวิจัยก็ช่วยสร้างองค์ความรู้ใหม่ที่
ทันสมัยให้เกิดขึ้น
***********************************
|