สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้จัดงาน
มหกรรมศิลปวัฒนธรรม ครั้งที่ 11 เมื่อวันที่ 2 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยมี รศ.ดร.ประเสริฐ ชิตพงศ์
อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน รศ.ผดุงยศ ดวงมาลา รองอธิการบดี
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวรายงาน นายสมพร ใช้บางยาง ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี
ได้กล่าวถึงนโยบายและการดำเนินงานด้านวัฒนธรรมของจังหวัดปัตตานี สำหรับกิจกรรมที่จัดให้มีในงาน
มหกรรมศิลปวัฒนธรรมครั้งนี้ประกอบด้วย การจัดนิทรรศการวิชาการเรื่องปัตตานีศึกษา การจัดนิทรรศการ
ภาพถ่ายโบราณเมืองปัตตานี การสาธิตภูมิปัญญาและหัตถกรรมพื้นบ้าน การสาธิตอาหารพื้นบ้าน การแสดง
นาฏศิลป์พื้นบ้าน นาฏศิลป์ไทย การแสดงนาฏศิลป์จากต่างประเทศ ศิลปะการแสดงบนเวทีกลาง เวทีลาน
วัฒนธรรม การละเล่นพื้นบ้าน การออกร้านจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ มหรสพ และการละเล่น
ต่าง ๆ นอกจากนั้นยังเป็นการรวบรวมสิ่งล้ำค่ามาแสดงให้ประชาชนได้เห็นคุณค่า นอกจากจะปลุกจิตสำนึก
ในด้านสืบสานศิลปวัฒนธรรมแล้ว ยังเป็นการอนุรักษ์และใช้ศิลปวัฒนธรรมเป็นตัวประสานความเข้าใจอันดี
ระหว่างกลุ่มชนในท้องถิ่นปัตตานี จังหวัดใกล้เคียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดชายแดนภาคใต้
รศ.ผดุงยศ ดวงมาลา รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวว่า
ศิลปวัฒนธรรมมีความสำคัญยิ่งต่อการดำรงความเป็นชาติ เพราะชาติที่เป็นอารยะย่อมมีสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์
ของตัวเอง ฉะนั้นสถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา จึงได้มีการอนุรักษ์ ส่งเสริม และเผยแพร่
ศิลปะประเพณีและวัฒนธรรมของชาติ ซึ่งเป็นงานหลักหนึ่งในสี่ของหน้าที่ที่กำหนดไว้ของมหาวิทยาลัยสงขลา
นครินทร์ การรวบรวมศิลปวัฒนธรรมของชาติเผยแพร่นับเป็นหน้าที่ที่สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา
ถือเป็นงานสำคัญ จึงได้จัดงาน มหกรรมศิลปวัฒนธรรม ขึ้น ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 11 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่
2 10 กรกฎาคม 2546 เป็นเวลา 9 วัน 9 คืน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ศิลปวัฒนธรรมในการสร้าง
ภาพพจน์ที่ดีในสายตาของชาวไทยทั่วประเทศให้เห็นคุณค่าทางความงามแห่งศิลปะและวัฒนธรรมและเพื่อ
การดำรงอยู่ในสังคมของภาคใต้และภาคอื่น ๆ ส่งผลให้เกิดการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดชายแดน
ภาคใต้อีกด้วย ประกอบกับเป็นการอนุรักษืและเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของภาคใต้และ
ภาคอื่น ๆ สู่สังคมและเผยแพร่ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมแก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป เพื่อ
ป้องกันการเสื่อมสลายของศิลปะการแสดงและดนตรีพื้นบ้าน ภูมิปัญญาพื้นบ้าน ตลอดถึงหัตถกรรมพื้นบ้าน
อันเป็นเอกลักษณ์ของภาคใต้และของชาติ
รศ.ดร.ประเสริฐ ชิตพงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยว่ามหาวิทยาลัย
ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการอนุรักษ์และส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของชาติ จึงได้สนับสนุน
ให้หน่วยงานต่าง ๆ จัดกิจกรรมด้านวัฒนธรรมเพื่อสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมไทยมาโดยตลอด โดย
เฉพาะอย่างยิ่งสถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา เป็นหน่วยงานหลักในการรับผิดชอบงานด้านนี้ นอกจากนี้
การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมของชาติ ถือว่าเป็นภารกิจหนึ่งในสี่ภารกิจของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ซึ่งเป็นหน้าที่หลักของสถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนาที่จะต้องส่งเสริม อนุรักษ์ ทำนุบำรุง สืบสาน
ถ่ายทอดไปสู่เยาวชนของชาติเพื่อการสืบสานสืบไป
วัฒนธรรมคือวิถีชีวิตแห่งมนุษย์ ศิลปะคือสิ่งสวยงามที่มนุษย์ต้องการวิถีชีวิตที่อยู่ท่ามกลาง
ความสวยงามอันล้ำค่าคือ สิ่งบ่งบอกความเป็นผู้มีรสนิยมและความมีจิตใจสูงของมนุษย์ โดยเฉพาะของ
ประชาชนคนไทยที่อยู่กับสิ่งเหล่านี้มาโดยตลอด ผมขอร่วมแสดงความยินดีต่อการจัดงานมหกรรมศิลป
วัฒนธรรมครั้งนี้เป็นการจัดงานที่ส่งเสริม เผยแพร่ อนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ซึ่งสำคัญยิ่งของชาติ
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าศิลปวัฒนธรรมของชาติจะเป็นตัวประสานความเข้าใจอันดีระหว่างกลุ่มชนในชาติ
ซึ่งนอกจากจะก่อให้เกิดความผาสุกในการอยู่ร่วมกันแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงและภาพลักษณ์อันดี
ให้แก่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จังหวัดใกล้เคียง และประเทศเพื่อนบ้าน รศ.ดร.ประเสริฐ ชิตพงศ์ กล่าว
นายสมพร ใช้บางยาง ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้กล่าวถึงนโยบายและการดำเนินงานด้านวัฒนธรรม
ของจังหวัดปัตตานีว่า ในฐานะที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลที่คอยควบคุมดูแลการบริหารงานภาครัฐให้เป็นไปตาม
นโยบายของรัฐบาลรู้สึกยินดี ภูมิใจที่ได้มาปฏิบัติงานในจังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีประวัติความเป็นมา
ที่ยาวนาน ผู้ศึกษาประวัติจังหวัดปัตตานีย่อมทราบดีว่า จังหวัดปัตตานีในอดีตเป็นศูนย์กลางการค้าขาย
แลกเปลี่ยนสินค้าในภูมิภาคเอเซีย สถานที่ที่เคยเป็นศูนย์กลางการติดต่อย่อมเป็นแหล่งพักพิงของคน
หลายเชื้อชาติหลายศาสนา ภาษา วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี นั่นคือที่ว่าของความหลากหลาย
ทางวัฒนธรรมของจังหวัดปัตตานี การจัดตั้งสถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
วิทยาเขตปัตตานี เพื่ออนุรักษ์ ส่งเสริม ฟื้นฟู เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศเพื่อให้
ชาวไทยและชาวโลกรับรู้ สอดคล้องกับนโยบายของจังหวัดที่ต้องการคงไว้ซึ่งทุนทางสังคมอันประมาณค่ามิได้
ของความหลากหลายของวัฒนธรรม ซึ่งดำเนินมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน การจัดงานของสถาบันที่จัดต่อเนื่อง
กันมาปีนี้เป็นปีที่ 11 แสดงให้เห็นถึงความแน่วแน่ของสถาบันที่ต้องการอนุรักษ์ สืบค้น เผยแพร่วัฒนธรรม
ของจังหวัดและของภาคใต้ให้คงอยู่เป็นทุนที่จะชักนำให้นักท่องเที่ยวได้มาศึกษามาเที่ยวจังหวัดปัตตานี
กิจกรรมที่จัดนี้ถือเป็นกิจกรรมที่สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่จังหวัด ซึ่งเป็นนโยบายหลักของจังหวัดปัตตานี
ซึ่งนับแต่ผมได้มาบริหารงานในจังหวัด ผมได้จัดกิจกรรมที่มีอยู่เดิมให้ยิ่งใหญ่ เพื่อให้ประชาชนในและ
ต่างจังหวัดมาเที่ยว มาสัมผัส แล้วนำความรู้สึกที่ดีเหล่านั้นไปบอกต่อ เพื่อให้คนที่ได้รับข่าวในทางไม่ดี
ได้เข้าใจข้อเท็จจริงที่แท้จริงแล้วมาเที่ยว กิจกรรมที่ดำเนินการมานับจากการจัดการแข่งขันกีฬาโรงเรียน
สาธิตทั่วประเทศ งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนในภาคใต้ งานแสดง แสง สี เสียงเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว งาน
กาชาด รวมทั้งการออกกำลังไท้เก๊กชี่กง ซึ่งจัดต่อเนื่องทุกเดือน สมกับคำกล่าวที่ว่า เที่ยวปัตตานี เที่ยวได้
ทุกเดือน
ผมขอย้ำถึงความภาคภูมิใจที่ได้มาปฏิบัติงานในจังหวัดที่มีวัฒนธรรมหลากหลายและผมเชื่อว่า
ประชาชนชาวปัตตานีทุกคนคงภาคภูมิใจเช่นเดียวกัน ขอให้การจัดกิจกรรมด้านศิลปวัฒนธรรมของสถาบัน
คงอยู่คู่กับมหาวิทยาลัยและจังหวัดปัตตานีต่อไป และผมหวังว่าครั้งต่อไปคงจะเห็นกิจกรรมวัฒนธรรมที่
หลากหลายมากกว่านี้ มีประชาชน กลุ่มบุคคลเข้ามาร่วมเพิ่มมากขึ้นทุกปี ขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
ทุกคนที่มีส่วนร่วมในการสรรสร้าง จรรโลง อนุรักษ์ พัฒนา ศิลปวัฒนธรรมของจังหวัดปัตตานีให้
คงอยู่ตลอดไป จังหวัดปัตตานีถือเป็นนโยบายสำคัญในการพัฒนาอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของจังหวัด เหมือน
กับคำกล่าวที่ว่า สังคมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เป็นสังคมที่เจริญ นายสมพร ใช้บางยาง
กล่าวทิ้งท้าย
*************************************
|