มนุษย์เป็นสัตว์โลกที่มีความคิดมีความฉลาดหลักแหลม มีความคิดสร้างสรรค์รู้จักนำเอาสิ่งต่าง ๆ รอบตัวมาเป็นเครื่องมือ
อำนวยความสะดวก เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของมนุษย์เอง อันเนื่องมาจากมนุษย์ไม่มีเขี้ยวเล็กแหลมคมอย่างสัตว์ทั้งหลาย จึงต้องสรรหา
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกเป็นเครื่องมือทุ่นแรง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลตามที่มนุษย์ต้องการเพื่อความอยู่รอดของ
มนุษย์เอง โดยเฉพาะการได้มาซึ่งอาหารในการเลี้ยงชีพ ซึ่งเป็นปัจจัยส่งเสริมให้มนุษย์ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด หลังจากที่รู้จักนำเอา
โลหะมาใช้ประโยชน์ได้แล้ว มนุษย์ก็เริ่มสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขึ้นมามากมายที่เรียกว่าเครื่องมือเครื่องใช้ ตลอดจนอาวุธ โดย
เฉพาะเมื่อมนุษย์ค้นพบโลหะเหล็กอันเป็นโลหะที่สามารถสร้างสรรค์เครื่องมือให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานมากขึ้น ในรูปแบบที่มี
ลักษณะตามความต้องการใช้งานและความเชื่อของแต่ละยุค แต่ละสมัย แต่ละท้องถิ่นขึ้นมากมายในท้องถิ่นจังหวัดชายแดนภาคใต้
อันได้แก่ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ผู้คนในแถบนี้ก็เหมือนกับท้องถิ่นวัฒนธรรมที่อื่น ๆ ได้คิดสร้างสรรค์อาวุธ เครื่องมือ
เครื่องใช้ขึ้นตามปัจจัยตาง ๆ ที่แวดล้อมเช่น ทรัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรบุคคล และทรัพยากรภูมิปัญญาขึ้นมาหลากหลาย
รูปแบบ เพื่อการดำรงชีวิต การจัดการสังคม การสั่งสมและพัฒนาเทคนิควิธีในการสร้างเครื่องมือเครื่องใช้เพื่อความอยู่รอดและ
อยู่ได้ ตามขีดความสามารถของภูมิปัญญาทางเทคโนโลยีของกลุ่มชนนั้น ๆ
ความเป็นดินแดนเชื่อมผ่านเป็นรัฐชายขอบและเป็นสังคมเปิด จึงมีผู้คนหลายเชื้อชาติเข้ามามีปฏิสัมพันธ์และอาศัยอยู่ร่วมกันเช่น
สยาม มลายู ชวา อินเดีย อาหรับ จีน จำปา เป็นต้น ซึ่งเป็นเหตุให้วัฒนธรรมของกลุ่มชนนั้น ๆ เข้ามาผสมผสานและการนำศาสนา
ต่าง ๆ เข้ามาเผยแพร่เช่น ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู พุทธ และอิสลาม โดยเฉพาะ ปตานี เคยรุ่งเรืองทั้งทางด้านเศรษฐกิจ
การค้า การปกครอง และการศาสนา จึงทำให้วัฒนธรรมความเชื่อมีลักษณะเข้มแข็งและเด่นเฉพาะ โดยเฉพาะวัฒนธรรมฮินดู ศาสนา
พราหมณ์ลัทธิไศวนิกายและไวษราพนิกาย วัฒนธรรมฮินดู ชวา และพุทธ ก่อนที่ศาสนาอิสลามจะแพร่เข้ามาสู่บริเวณนี้
ผลจากการศึกษาศาสตราวุธจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) สามารถสรุปเกี่ยวกับประเด็น
ความเชื่อในการใช้ศาสตราวุธของผู้คนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ออกได้เป็น 4 กลุ่มคือ
1. คติความเชื่อในเรื่องของศาสตราวุธที่มีกั่น
ชาวใต้ในอดีตเชื่อกันว่าศาสตราวุธทั้งหลายประเภทที่มีกั่น (ชาวใต้จะเรียกอาวุธที่มีกั่นว่า มีดพร้ามีกัน หรืออาวุธมีกัน ซึ่งคำว่า
กัน มีความหมายตรงกับคำว่า ป้องกัน ในลักษณะของคติเรื่องของการตัดไม้ข่มหนาม) จะเป็นตัวแทนหรือสมมุติเทพแห่งองค์พระ
พิษณุกรรม หรือพระวิษณุกรรม หรือพระวิศวกรรม (ทั้งสามชื่อนั้นแทนองค์เดียวกันและจะเรียกอาวุธที่มีกันหรือมีกั่นทั้งหมดว่า เพ็ด
สะหนูกัน) อาวุธเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นมีด พร้า ขวาน ไต กริช หอก ดาบ และสิ่งสามารถที่จะใช้ได้ทั้งในรูปของศาสตราอาวุธและเป็นทั้ง
เครื่องมือเครื่องใช้ในการก่อสร้าง การช่างทั้งปวงได้ด้วย จากคติฮินดูที่ว่าพระวิษณุกรรมหรือพระวิศวกรรมเป็นเทพการช่างการก่อสร้าง
ทั้งปวง คตินี้จึงสมมุติให้มีด พร้า ขวาน ไต และสิ่ว เป็นสมมุติแห่งองค์พระวิษณุกรรมหรือเวดสะหนูกันก็มีที่มาจากเหตุดังกล่าวนี้เอง
เพราะการจะเหลา จะถาก จะตัด จะเกลาไม้ให้เป็นรูปแบบและขนาดได้ตามต้องการ ก็ต้องใช้อำนาจและอิทธิฤทธิ์แห่งพระเพ็ดสะหนูหรือ
มีดพร้าทั้งหลายนั่นเอง จึงมีข้อห้ามมิให้มีการเดิมข้ามหรือเหยียบย่ำ หรือวางเพ็ดสะหนูกันไว้ในที่ต่ำ จะเป็นอัปมงคลแก่ผู้นั้นได้
นอกจากนี้ชาวใต้ยังเชื่อกันว่าอาวุธที่มีกั่น (กัน) ทั้งหลายสามารถใช้ป้องกันอาถรรพ์และสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ ได้ ดังนั้นในการประกอบ
พิธีกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องไสยศาสตร์ทั้งหลาย ผู้ประกอบพิธีหรือพ่อหมอจะต้องพกศาสตราวุธที่มีกั่นติดตัวเอาไว้ขณะประกอบ
พิธีกรรม มิฉะนั้นผู้ประกอบพิธีกรรมจะโดนอาถรรพ์หรือสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ เข้ากับตนเองได้ ซึ่งในท้องถิ่นจะเรียกว่า ถูกเสนียดจัญไร ซึ่ง
จะทำให้ผู้นั้นมีอันเป็นไปต่าง ๆ นานาในภายหลังได้เช่น เจ็บป่วยหรือเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุหรือวิกลจริยได้ ดังนั้นจึงพบว่าการ
ประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์ของชาวภาคใต้เช่น การตัดผม ตัดจุก ไหว้พระภูมิเจ้าที่ พิธีกรรมเกี่ยวกับศพ ฯลฯ
ผู้ทำพิธีจะต้องพกมีดหรือกริชหรือพระขรรค์ติดตัว
2. คติความเชื่อในเรื่องของศาสตราวุธที่ทำมาจากเหล็กประสม
ชาวใต้ในอดีตเชื่อว่าถ้าใบมีดที่ทำเป็นศาสตราวุธนั้น ๆ ทำขึ้นมาจากเหล็กประสมหลาย ๆ อย่าง ซึ่งแต่ละอย่างเชื่อว่ามีคุณ
วิเศษแตกต่างกัน ดังเช่นเหล็กขอช้างเป็นมงคลในด้านอำนาจและบริบูรณ์ในทุก ๆ สิ่ง เหล็กสมอเรือมีคุณในด้านการเป็นหมอไสยศาสตร์
และหมอยารักษาโรคที่ดี เหล็กโซ่จะทำให้ผู้เป็นเจ้าของศาสตราวุธนั้นมีความกล้าหาญสู้ในทุก ๆ สิ่งที่เป็นอุปสรรค เหล็กกั่นอาวุธที่หักขาด
ติดอยู่ในด้าม จะป้องกันภัยอันตรายรอบด้านได้อย่างเด็ดขาดและชะงัดยิ่งนัก ฯลฯ
ดังนั้นใบมีดหรือใบศาสตราวุธใดที่ทำขึ้นมาจากเหล็กที่มีคุณวิเศษ ตามคติความเชื่อมากชนิดมากอย่างเท่าใดยิ่งเชื่อว่าศาสตราวุธ
เล่มนั้น ๆ ยิ่งมีความขลังความศักดิ์สิทธิ์มากยิ่ง ๆ ขึ้นไป ยิ่งเป็นอาวุธที่มีกั่นอยู่แล้วมาผนวกกับการทำขึ้นมาจากเหล็กประสบที่มีคุณวิเศษ
หลากหลายชนิดด้วยแล้ว คติความเชื่อในเรื่องของความขลังยิ่งมีมากขึ้นเป็นทวีคูณ จากการสำรวจพบว่าศาสตราวุธโบราณชนิดต่าง ๆ
ของชาวใต้ในอดีตจะเป็นศาสตราวุธที่มีกั่นและเป็นเหล็กประสมเสียเป็นส่วนใหญ่ อาทิ มีด พร้า กริช หอก และดาบ เป็นต้น ทั้งนี้อันเนื่อง
มาจากคติความเชื่อดังที่กล่าวมานี้
3. คติความเชื่อในเรื่องของลายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในใบของศาสตราวุธที่มีกั่นและเป็นเหล็กประสมชนิดต่าง ๆ จะเกิดเป็นเหล็ก
รูปแบบใหม่ที่มีลายที่เกิดขึ้นในเนื้อไม้ อันเนื่องมาจากเนื้อเหล็กต่างชนิดต่างคุณสมบัติ จึงทำให้เกิดสีแตกต่างจนเป็นลายขึ้นมาให้
เห็นในเนื้อเหล็กที่ทำเป็นใบศาสตราวุธ ต่อมาช่างผู้ผลิตได้ศึกษาและพัฒนาให้เกิดเป็นลายรูปแบบต่าง ๆ ขึ้นหลากหลาย อาทิ ลายก้นหอย
จะทำให้เจ้าของมีความสวัสดิมงคล ลายตีนช้าง (ตาเป๊าะกาเยาะห์) จะทำให้ผู้เป็นเจ้าของมีความอุดมสมบูรณ์ในทุก ๆ อย่าง ลาย
รวงข้าวจะทำให้ผู้เป็นเจ้าของได้ดีในทางเกษตรกรรมและปศุสัตว์ ดังนั้นมีดหรือศาสตราวุธเล่มใดที่เป็นทั้งอาวุธที่มีกั่น เป็นทั้งอาวุธ
เหล็กประสมและมีทั้งลายมงคลตามตำรา อาวุธเล่มนั้น ๆ ยิ่งมีความขลังและมีค่ายิ่ง ๆ ขึ้นไป
4. คติความเชื่อในเรื่องรอยตำหนิที่เกิดขึ้นบนใบของศาสตราวุธ
ชาวใต้ในอดีตเชื่อว่าถ้าใบมีดหรือใบของศาสตราวุธใด ๆ มีรอยแตกลายบนใบมีดคล้ายดินแตกระแหงก็ดี สันของใบมีดมีรอย
แตกร้าวก็ดี ใบมีดมีรอยแตกทะลุจากด้านหนึ่งก็ดี เชื่อว่ามีดลักษณะนั้นเป็นมีดดีเป็นมีดนำโชค ซึ่งภาษามลายูจะเรียกว่ามีดตูวะห์ ถ้ามีไว้
ในครอบครองหรือพกพาติดตัวไปจะช่วยให้เจ้าของปลอดภัยและแคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง ถ้าใช้ทำเป็นมีดหมอจะดีนักแล ผู้คน
เลื่อมใสศรัทธายิ่งนัก โดยเฉพาะใบมีดที่แตกทะลุจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งจะเรียกว่า แตกชื่อผี ใครพกพาติดตัวไปภูตผีทั้งหลาย
จะกลัวและไม่กล้าเข้าใกล้ผู้นั้นเลย แต่ถ้ามีดหรือศาสตราวุธเล่มใดก็ตามที่ปลายแหลมของใบมีดแตกแยกตัวออกเป็นสองแฉกดังเช่นลิ้นงู
หรือลิ้นตะกวด มีดเล่มนั้นจะเป็นมีดอุบาทว์เป็นมีดอัปมงคล ผู้ใดมีไว้ในครอบครองหรือพกพาติดตัวไปจะเกิดโทษและภัยพิบัติ ตลอด
จนความเดือดร้อนต่าง ๆ มาสู่ผู้เป็นเจ้าของอยู่ตลอดทุกเมื่อ แก้ไขได้โดยการนำไปทิ้งทะเลหรือทิ้งในแม่น้ำลำคลองเสีย ความเป็น
อัปมงคลต่าง ๆ ก็จะหมดไป อย่านำไปทิ้งในที่ทางของผู้อื่นเพราะเจ้าของที่จะเกิดอัปมงคลขึ้นมาได้เช่นกัน จะเป็นบาปแก่ผู้ที่นำ
ไปทิ้งต่อติดกันมา
ดังนั้นถ้ามีดเล่มใดหรือศาสตราวุธเล่มใดที่ท่านมีอยู่ในครอบครอง มีคุณสมบัติครบถ้วนทั้งสี่ประการดังที่กล่าวมานี้ มีดหรือ
ศาสตราวุธเล่มนั้นจะเป็นมีดดีมีมงคลหาค่าหรือประมาณค่ามิได้เลย ตามคติความเชื่อของบรรพชนในท้องถิ่นเมื่อครั้งอดีต ถ้ามีดเล่มใด
มีรอยแตกรอยแยกก็ขอความกรุณาอย่าได้นำทิ้งทะเลเลย ขอให้ท่านนำไปมอบไว้ให้กับพิพิธภัณฑ์ใดก็ได้ที่อยู่ใกล้บ้านท่าน เพื่อประโยชน์
ในการศึกษาทางคติชนวิทยาแก่ลูกหลานท่านในรุ่นหลังสืบต่อไป
***********************************
|