มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2546 เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2546
โดยมีการแสดงจากเด็กและเยาวชนจากโรงเรียนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง ทั้งนี้โดยมี ผศ.ดร.อนันต์ ทิพยรัตน์ รองอธิการบดี
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เป็นประธานในพิธีเปิด ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต
ปัตตานี
ผศ.ดร.อนันต์ ทิพยรัตน์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้กล่าวว่าภูมิใจที่ประเทศไทย
ให้ความสำคัญแก่เด็กมาตลอดทุกยุคทุกสมัย เมื่อหลายปีที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีในสมัยนั้นได้ให้คำขวัญแก่เด็กในโอกาสวันเด็กแห่งชาติว่า
เด็กไทยคือหัวใจของชาติ เป็นคำขวัญที่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลให้ความสำคัญแก่เด็กว่าเป็นหัวใจ ซึ่งหมายถึงส่วนที่สำคัญที่สุดของ
ร่างกาย การให้ความสำคัญแก่เด็กเป็นพื้นฐานสำคัญยิ่งในการพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรือง เนื่องจากเด็กเป็นอนาคตของประเทศ
เด็กที่ได้รับความดูแลเอาใจใส่จากผู้ใหญ่ในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเป็นอยู่ การอบรมเลี้ยงดู และการให้การศึกษา จะเป็น
เด็กที่จะเติบโตเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพในภายภาคหน้า การดูแลเอาใจใส่เด็กได้กินดี อยู่ดี เล่นดี และมีการศึกษาดี ก็คือการดูแลและ
เอาใจใส่ต่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ
ในฐานะที่กระผมเป็นผู้บริหารมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มีความรู้สึกดีใจและภูมิใจที่มหาวิทยาลัย
ให้ความสำคัญแก่การจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ เพื่อสนองความต้องการของเยาวชนในท้องถิ่นมาทุกยุคทุกสมัยต่อเนื่องกันมา
ตลอดทุกปี ทั้งนี้เนื่องจากมหาวิทยาลัยตระหนักดีว่าเราเป็นสถาบันอุดมศึกษามีหน้าที่ให้ความช่วยเหลือและให้สิ่งที่ดีงามแก่สังคม
ประกอบกับมหาวิทยาลัยมีความพร้อมในเรื่องกำลังคน งบประมาณ สถานที่ และเครื่องมืออุปกรณ์ รวมทั้งเทคโนโลยีต่าง ๆ พอสมควร
และที่สำคัญยิ่งคือมหาวิทยาลัยมีผลงานทางด้านวิชาการในสาขาต่าง ๆ มากมาย ที่เป็นผลมาจากการประดิษฐ์คิดค้นของบุคลากร
และนักศึกษา ที่จะแสดงหรือสาธิตให้เด็ก ๆ ได้รับความรู้และสนุกสนานในการเรียนรู้ และได้แสดงความสามารถมากมาย กระผม
ดีใจและภูมิใจที่มหาวิทยาลัยของเราได้มอบสิ่งที่ดีงามให้แก่เด็กในท้องถิ่น โดยเฉพาะเด็ก ๆ ในจังหวัดปัตตานีมาตลอด รองอธิการบดี
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าว
ในโอกาสดังกล่าว พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบสารมีความว่า เนื่องในโอกาส วันเด็กแห่งชาติ
ประจำปีพุทธศักราช 2546 ที่เวียนมาบรรจบครบรอบอีกวาระหนึ่ง ในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม ศกนี้ ในนามของรัฐบาลและ
ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ผมขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังเด็ก ๆ ที่น่ารักทุกคน
ในทุกสังคมประชาชนทุกคนต้องมีหน้าที่ของตนเอง รวมทั้งเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติและเป็นกำลังสำคัญ
ส่วนหนึ่งของบ้านเมือง หน้าที่ของเด็กและเยาวชนคือการเคารพเชื่อฟังผู้ใหญ่ มีบิดามารดา บุพการีและผู้มีพระคุณ เป็นต้น เด็ก ๆ
ต้องประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในกรอบแห่งศีลธรรมอันดีงาม รักวัฒนธรรมไทย นิยมไทย และต้องช่วยเหลือครอบครัว ตลอดจน
สังคมตามที่โอกาสจะอำนวย ขณะเดียวกันก็ต้องติดตามข่าวสารของบ้านเมืองและมีส่วนร่วมบำเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนรวม อันถือเป็น
หน้าที่ที่เด็กและเยาวชนควรพึงปฏิบัติ
หน้าที่สำคัญอีกประการหนึ่งของเด็กและเยาวชนคือ การศึกษาหาความรู้อยู่เสมอและตลอดเวลาเพื่อพัฒนาตนเองให้เป็นคนดี
คนเก่ง มีความรู้ความสามารถ มีคุณธรรมจริยธรรม เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติสืบต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะ
ในขณะที่สังคมกำลังก้าวไปสู่การเป็นสังคมข่าวสารและเทคโนโลยี เด็ก ๆ ต้องให้ความสำคัญกับการศึกษาและการแสวงหาความรู้
ตลอดชีวิต ซึ่งจะทำให้เราสามารถก้าวทันข้อมูลข่าวสารที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วทุกด้าน ทุกคนต้องมีความรู้และก้าวทัน
เทคโนโลยี เพราะโลกต่อจากนี้ไปเทคโนโลยีคือปัจจัยสำคัญในการแข่งขัน ผู้ที่มีเทคโนโลยีเหนือกว่าเท่านั้นคือผู้ชนะ ความรู้
เกี่ยวกับเทคโนโลยีระดับสูงกำลังก้าวเข้ามาแทนที่เทคโนโลยีแบบเก่า ๆ ตลอดเวลา หากเราไม่รู้จักเทคโนโลยีหรือก้าวตาม
ไม่ทัน เราก็จะไม่ประสบความสำเร็จหรือไม่สามารถชนะใครได้เลย
นอกจากนี้เด็กและเยาวชนต้องรู้จักมองโลกในแง่ดีและคิดอย่างสร้างสรรค์ การที่บ้านเมืองของเราไม่สามารถก้าวไกลไปกว่า
ที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ ก็เพราะมีคนเป็นจำนวนไม่น้อยที่มองโลกและสังคมในแง่ร้าย ไม่คิดอย่างสร้างสรรค์ แต่กลับคิดวนเวียนอยู่แต่
ในกรอบเดิม ๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการริเริ่มและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่เป็นประโยชน์ การมองโลกในแง่ดีไม่ได้หมายถึงการ
ปล่อยปละละเลยโดยไม่สนใจตรวจสอบ แต่เป็นการมองโลกและสังคมด้วยความเข้าใจและเปิดใจยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง
มองความขัดแย้งในทางสร้างสรรค์ รู้จักการแสวงหาความร่วมมือและการทำงานเป็นทีม เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดทั้งต่อตนเองและ
ส่วนรวม
วันเด็กแห่งชาติปีนี้ ผมได้ให้คำขวัญว่า เรียนรู้ตลอดชีวิต คิดอย่างสร้างสรรค์ ก้าวทันเทคโนโลยี เพื่อให้เด็กและเยาวชน
ตระหนักถึงความสำคัญของการเรียนรู้ตลอดชีวิต การคิดอย่างสร้างสรรค์และการก้าวทันเทคโนโลยี ซึ่งผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเด็ก ๆ
ทุกคนจะนำคำขวัญนี้ไปเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติตนให้เกิดความเจริญก้าวหน้าทั้งต่อตนเองและประเทศชาติบ้านเมืองสืบ
ต่อไป
*********************************
|