: : : รายละเอียดข่าว : : :

ข่าว ปีที่ :ข่าวปีที่ 5 ฉบับที่ 04 ประจำเดือน 04 2545
หัวข้อข่าว : รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ วิทยาเขตปัตตานี เยือนมหาวิทยาลัยในราชอาณาจักรเนปาล
รายละเอียด :
                    ในช่วงการเดินทางไปเยือนถิ่นพุทธภูมิ  (ราชอาณาจักรเนปาล)  วันที่  19-26  มีนาคม  

2545  รองศาสตราจารย์  ดร. ผดุงยศ  ดวงมาลา  รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ  วิทยาเขตปัตตานี  

ได้มีโอกาสไปเยือนและศึกษางานที่มหาวิทยาลัย  2  แห่งในประเทศนั้นคือ  Kathmandu  University  

และ  Tribhuvan  University  โดยได้ไปเยือน  Kathmandu  University  เมื่อวันที่  20  มีนาคม  

2547  และ Tribhuvan  University  เมื่อวันที่  21  มีนาคม  2545  เรื่องที่น่าสนใจของมหาวิทยาลัย  

2  แห่งคือ

         1.  มหาวิทยาลัย  2  แห่งนี้  เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ  คือเป็น  "Non  profit,

non  government  university"  ซึ่งมหาวิทยาลัยของรัฐในประเทศไทยกำลังดำเนินการเพื่อไปสู่

สถานภาพดังกล่าวอยู่ในขณะนี้

         2.  มหาวิทยาลัย  2  แห่ง  มีกลยุทธ์ในการบริหารงานภายใต้ข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ

และกำลังคน  ในขณะที่ความต้องการเข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษาของประชากรมีเพิ่มมากขึ้น  ได้อย่าง

น่าสนใจ

         3.  เดิมราชอาณาจักรมีมหาวิทยาลัยเพียง  1  แห่ง  คือ  Tribhuvan  University  ซึ่ง

ตั้งขึ้นเมื่อปี  พ.ศ. 2502  (ค.ศ. 1959)  มหาวิทยาลัยตรีภูวันนี้จะดูแลเรื่องอุดมศึกษาทั้งประเทศ  มี

วิทยาลัยและสถาบันเฉพาะทางต่าง  ๆ  กระจายอยู่ทั่วประเทศ  แต่จะขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยตรีภูวันนี้

ทั้งสิ้น  ปัจจุบันรัฐบาลเนปาลมีนโยบายให้ตั้งมหาวิทยาลัยขึ้นใหม่ได้  จึงเริ่มมีมหาวิทยาลัยใหม่อีก  

2  แห่ง  คือ  มหาวิทยาลัยกาฎมานฑุ  และมหาวิทยาลัยสันสกฤต  (Sanskrit  University)  

         มหาวิทยาลัยกาฎมานฑุ  (Kathmandu  University)  ตั้งขึ้นเมื่อปี  พ.ศ. 2528  

(ค.ศ. 1985)  ตั้งอยู่ที่เมือง  Dhulikhel  นอกกรุงกาฎมานฑุ  (แต่ยังอยู่ในเขตปริมณฑลของที่ราบ

กาฎมานฑุ)  มหาวิทยาลัยแห่งนี้เริ่มต้นด้วยการบริจาคที่ดินและเงินทุนทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ

เนปาล

         การบริจาคจากภายในประเทศ  ประกอบด้วย

               *  รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรเนปาล

               *  คณะกรรมาธิการอุดมศึกษาแห่งชาติ

               *  เทศบาลเมือง  Dhulikhel  and  Banepa

               *  กองทุนมรดกตระกูล  Rana  Bahadur  Shah

               *  กองทุนมรดกตระกูล  Mohan  Gopal  Khetan

               *  หอการค้าแห่งราชอาณาจักรเนปาล

               การบริจาคจากภายนอกประเทศ

               *  United  Mission  of  Nepal  (UMN)

               *  Yamaji  Fumiko  Culture  Foundation,  Japan

               *  Swiss  Development  Cooperation

               *  NORAD/NHAM  (จากนอร์เวย์และเนเธอร์แลนด์)

               *  German  Technological  Development  Agency  (GTZ)

               *  DANIDA  (เดนมาร์ค)

               *  Royal  Danish  Embassy,  Kathmandu

และยังมีผู้บริจาครายย่อยอื่น  ๆ  จนทำให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีเงินทุนเพื่อนำดอกผลมาใช้ในการบริหาร

งานมหาวิทยาลัยและมีที่ดิน  (จากการบริจาค)  เป็นจำนวนมาก  และในปัจจุบันนี้มหาวิทยาลัยกาฎมานฑุ

ได้รับงบประมาณในรูปเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเนปาลเพียงร้อยละ  10  เท่านั้น

         การบริหารงานของมหาวิทยาลัยกาฎมานฑุ  จะมีสภามหาวิทยาลัย  (University  Senate)  

โดยนายกรัฐมนตรีแห่งเนปาล  เป็นนายกสภามหาวิทยาลัย  รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาและการกีฬา  เป็น

อุปนายกสภา  มีกรรมการสภาจากภายนอกซึ่งประกอบด้วย  ปลัดกระทรวงศึกษาและการกีฬา  ปลัด

กระทรวงการคลัง  นายกเทศมนตรีเมือง  Dhulikhel  and  Banepa  เลขาธิการสภาการวางแผน

แห่งชาติ

         กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา  5  คน  ผู้ทรงคุณวุฒิทางด้าน

อุตสาหกรรม  1  คน  ผู้แทนคณาจารย์  2  คน  ตัวแทนนักศึกษา  1  คน  ผู้แทนจากตระกูล  Rana  

(ผู้บริจาคที่ดินและทรัพย์สิน)  1  คน  ผู้แทนจากตระกูล  Rajendra  Khetan  (ผู้บริจาคที่ดินและ

ทรัพย์สิน)  1  คน  อธิการบดี  เลขาธิการ  คณบดีคณะต่าง  ๆ  อีก  8  คน

         ถัดจากสภามหาวิทยาลัย  จะมีคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย  (University  Executive  

Committee)  จำนวน  5  คน  ประกอบด้วยอธิการบดี  (Vice  Chancellor)  เป็นประธาน  เลขาธิการ  

(Registrar)  ผู้แทนคณาจารย์  1  คน  และผู้แทนคณบดี  จำนวน  2  คน  ร่วมเป็นคณะกรรมการฯ  นี้

         ในปัจจุบันมหาวิทยาลัยกาฎมานฑุจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุปริญญาจนถึงปริญญาเอก  

6  คณะคือ  คณะวิทยาศาสตร์  (School  of  Science)  คณะการจัดการ  (School  of  Management)  

คณะวิศวกรรมศาสตร์  (School  of  Engineering)  คณะศิลปศาสตร์  (Faculty  of  Arts)  คณะ

ศึกษาศาสตร์  (School  of  Education)  และคณะแพทยศาสตร์  (School  of  Medical  Science)  

นอกจากนี้ยังมีสถาบันอุดมศึกษาสมทบ  (Affiliated  Colleges / Institutions)  อีก  7  แห่ง

         มหาวิทยาลัยกาฎมานฑุมีโครงการความร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยภายนอกประเทศ

หลายแห่ง  ทั้งจากสหรัฐอเมริกา  สหราชอาณาจักร  สวิตเซอร์แลนด์  รัสเซีย  นอร์เวย์  แคนาดา  

ออสเตรีย  ออสเตรเลีย  บังคลาเทศ  อินเดีย  ญี่ปุ่น  สถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทยที่มหาวิทยาลัย

กาฎมานฑุมีความร่วมมือทางวิชาการด้วยคือ  สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย  (AIT)

         สำหรับมหาวิทยาลัยตรีภูวัน  (Tribhuvan  University)  นั้น  เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่

ที่สุดในเนปาล  สถาปนาขึ้นโดยใช้พระปรมาภิไธยกษัตริย์ตรีภูวัน  (ผู้ทรงสถาปนาระบอบประชาธิปไตย

ขึ้นในราชอาณาจักรเนปาล)  เป็นชื่อของมหาวิทยาลัย  มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีศูนย์กลางการบริหารอยู่ที่

เมืองกิร์ติปุระ  (Kirtipur)  ซึ่งเป็นเขตปริมณฑลหนึ่งของกรุงกาฎมานฑุ  มหาวิทยาลัยตรีภูวันเป็น

มหาวิทยาลัยของรัฐบาล  แต่มีอิสระในการบริหารดำเนินงาน  (Government  Autonomous  

Institution)  งบประมาณส่วนใหญ่ยังคงได้รับการจัดสรรจากรัฐบาล  มหาวิทยาลัยมีสภาต่าง  ๆ  

ถึง  4  สภา

         1.  สภามหาวิทยาลัย  (University  Council)

         2.  สภาบริหาร  (Executive  Council)

         3.  สภาวิชาการ  (Academic  Council)

         4.  สภาการวางแผน  (Planning  Council)

         สภามหาวิทยาลัยทำหน้าที่กำหนดหรืออนุมัตินโยบายหลักของมหาวิทยาลัย  สภาบริหารมี

หน้าที่นำนโยบายจากสภามหาวิทยาลัยไปดำเนินารให้เกิดผลในทางปฏิบัติ  โดยจะจัดให้มีคณะกรรมการ

ชุดพิเศษหรือคณะทำงานชุดต่าง  ๆ  รับช่วงไปดำเนินการก็ได้  (ตามความเหมาะสม)  สภาวิชาการจะ

เน้นการบริหารหลักสูตร  การเรียนการสอน  การสอบไล่  และการวิจัย  สภาการวางแผนจะดูแลเรื่อง

งบประมาณ  การเงินการคลัง  การรับบริจาค  การจัดหารายได้  การดูแลจัดการทรัพย์สินของ

มหาวิทยาลัย  และการขยาย / การจัดตั้งหน่วยงานของมหาวิทยาลัย

         เนื่องจากมหาวิทยาลัยตรีภูวัน  มีหน้าที่ดูแลการอุดมศึกษาของประเทศมาตั้งแต่แรกตั้ง  

จึงมีวิทยาลัย / ศูนย์ / สำนัก  และสถาบันสมทบกระจายอยู่ทั่วประเทศ  จัดการศึกษาตั้งแต่ระดับ

อนุปริญญาจนถึงระดับปริญญาเอก  มีนักศึกษาทุกระดับรวมประมาณ  20,000  คน  (ไม่นับรวม

ในสถาบันสมทบอีกหลายหมื่นคน)  ประกอบด้วยสถาบันและคณะต่าง  ๆ  ดังนี้

         1.  สถาบันเทคนิค  (Technical  Institute)  มี  5  แห่ง  แต่ละแห่งจะมีคณบดี  (Dean)  

เป็นผู้บริหารสถาบัน  เน้นระดับอนุปริญญาและปริญญาตรี

         2.  สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  (Institute  of  Science  and  Technology)  

จัดการศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอก

         3.  สถาบันวิศวกรรมศาสตร์  (Institute  of  Engineering)  มีฐานอยู่  4  แห่งคือที่  

Lalitpur,  Kathmandu,  Dharan  และที่  Pokhara  (โดยมีคณบดีคนเดียวดูแลทั้ง  4  แห่ง)  

จัดการศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรีจนถึงปริญญาเอก

         4.  สถาบันแพทยศาสตร์  (Institute  of  Medicine)  เช่นเดียวกับสถาบันวิศวกรรม

ศาสตร์  สถาบันแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยตรีภูวัน  จะมีโรงพยาบาล,  ศูนย์,  ภาควิชา  กระจาย

อยู่ทั่วประเทศ  (ภายใต้คณบดีสถาบันเพียงคนเดียว)  ดูแลการให้การศึกษา  การบริการ  และการวิจัย  

ในสาขาการแพทย์  พยาบาล  และสาขา  Ayurved

         5.  สถาบันวนศาสตร์  (Institute  of  Forestry)  จัดการศึกษาระดับอนุปริญญาและ

ปริญญาตรีทางด้านวนศาสตร์  งานเด่นจะอยู่ที่การวิจัยและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของ

ประเทศ

         6.  สถาบันเกษตรและสัตยศาสตร์  (Institute  of  Agriculture  and  Animal  

Sciences)  จัดการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาเกษตรศาสตร์,  สัตยแพทยศาสตร์,  สัตวศาสตร์  

และปริญญาโทในสาขาเกษตรและสัตวศาสตร์

         7.  คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์  (Faculty  of  Humanities  and  Social  

Sciences)  จัดการศึกษาในสาขาทางด้านภาษา  ภาษาศาสตร์  วรรณกรรม  ประวัติศาสตร์  วัฒนธรรม  

สังคมวิทยา  มานุษยวิทยา  บรรณารักษศาสตร์  วารสารศาสตร์  ประชากรศาสตร์  ปรัชญา  จิตวิทยา  

เคหะศาสตร์  ศิลปะ  ดนตรี  เศรษฐศาสตร์  และภูมิศาสตร์  ตั้งแต่ระดับปริญญาตรีจนถึงปริญญาเอก

         ที่น่าสนใจคือ  คณะฯ  มี  International  Language  Campus  ในกรุงกาฎมานฑุ  สอน

วิชาภาษาต่าง  เช่น  ภาษาอังกฤษ  เยอรมัน  ฝรั่งเศส  รัสเซีย  ภาษาธิเบต  สันสกฤต  และภาษาเนปาล  

(Nepal  Bhasa)

         8.  คณะการจัดการ  (Faculty  of  Management)  จัดการศึกษาในสาขา  Business  

Studies,  Travel  and  Tourism,  Hotel  Management,  Business  Administration,  

Public  Administration,  Information  Management

         9.  คณะนิติศาสตร์  (Faculty  of  Law)  จัดการศึกษา  3  ระดับคือ  LL.B.  (3  ปี)  

และ  LL.M.  (2  ปี)  คณะนี้ตั้งอยู่ที่กรุงกาฎมานฑุ  และการอบรมวิชากฎหมายให้ประชาชนโดยตลอด

และได้เปิดสอนระดับปริญญาเอก  (Ph.D.)  เมื่อปี  2539  (ค.ศ. 1996)

         10.  คณะศึกษาศาสตร์  (Faculty  of  Education)  จัดการศึกษาตั้งแต่ระดับ

ประกาศนียบัตร / อนุปริญญา  จนถึงปริญญาเอก  และเป็นศูนย์ในการจัดอบรมครูประจำการทั่ว

ประเทศ  ตลอดจนทำหน้าที่ในด้านการกำกับคุรุจรรยาและประกาศนียบัตรวิชาชีพของประเทศด้วย

         11.  วิทยาเขตและวิทยาเขตสมทบ  (Constituent  and  Affiliated  Campus)  

มหาวิทยาลัยตรีภูวันมีวิทยาเขตที่เรียกว่า  Constituent  Campus  61  แห่ง  และวิทยาเขตสมทบ  

(Affiliated  Campus)  177  แห่ง  กระจายอยู่ทั่วประเทศ  ซึ่งจะทำหน้าที่ทางด้านการสอน  การให้

บริการทางวิชาการ  และเป็นฐานการวิจัยของมหาวิทยาลัย  นอกจากนี้แล้วมหาวิทยาลัยตรีภูวันยังมี

ศูนย์วิจัยและศูนย์ศึกษาเฉพาะทาง  (Research  Centers)  อีกหลายศูนย์  ที่น่าสนใจได้แก่

         1.  ศูนย์เศรษฐศาสตร์พัฒนาและการบริหาร  (Centre  for  Economic  Development  

and  Administration)

         2.  ศูนย์เนปาลและเอเชียศึกษา  (Centre  for  Nepal  and  Asian  Studies)

         3.  ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์และเทคโนโลยี  (Research  Centre  for  Applied  

Science  and  Technology)

         4.  ศูนย์วิจัยนวัตกรรมศึกษาและการพัฒนา  (Research  Centre  for  Educational  

Innovation  and  Development)

         5.  ศูนย์วิเทศสัมพันธ์  (Centre  for  International  Relations)  ความร่วมมือกับ

มหาวิทยาลัยในระดับนานาชาติ

         มหาวิทยาลัยตรีภูวันได้มีความร่วมมือทางด้านวิชาการ  กึ่งวิชาการ  และความร่วมมือทาง

ด้านอื่น  ๆ  กับมหาวิทยาลัย  66  แห่ง  จาก  24  ประเทศในทุกภูมิภาคของโลก  เฉพาะประเทศไทย  

มหาวิทยาลัยตรีภูวันมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  มหาวิทยาลัย

รามคำแหง  และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย  (AIT)

         อธิการบดีมหาวิทยาลัยตรีภูวัน  (Prof. Naveen  Prakash  Jung  Shah)  ได้ปรารภ

ว่าถ้าจะมีโครงการความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยตรีภูวันและมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

เพิ่มขึ้น  ก็จะเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง



                                                        *************************
โดย : 192.168.148.54 * [ วันที่ 2004-08-26 14:35:12 ]