: : : รายละเอียดข่าว : : :

ข่าว ปีที่ :ข่าวปีที่ 4 ฉบับที่ 09 ประจำเดือน 09 2544
หัวข้อข่าว : เรือนขนมปังขิง : การผสมผสานวัฒนธรรมตะวันตก - ไทย สู่สถาปัตยกรรมชิ้นเอกของภาคใต้
รายละเอียด :
                    ภาคใต้ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีที่หลากหลาย  ทั้งนี้ส่วนหนึ่งนั้นได้รับอิทธิพลมาจาก

ประเทศเพื่อนบ้านและจากการนับถือศาสนาที่แตกต่างกันของประชาชนในพื้นที่  เช่น  ได้รับอารยธรรมจากจีนและอินเดีย  เป็นต้น  แม้ว่า

จะมีความหลากหลายวัฒนธรรม  แต่ชาวใต้ก็สามารถที่จะคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมดั้งเดิมของตนและผสมผสานวัฒนธรรมอื่นเข้าไว้กับของที่มี

อยู่เดิมได้เป็นอย่างดี  จนเป็นที่ยอมรับว่าเป็นดินแดนที่มีความสมบูรณ์ทางด้านมรดกวัฒนธรรมแห่งหนึ่งของเอเชียอาคเนย์

         การผสมผสานวัฒนธรรมดังกล่าว  จะเห็นได้ชัดในเรื่องของสถาปัตยกรรมเช่น  สิ่งก่อสร้าง  อาคาร  บ้านเรือนต่าง  ๆ  ซึ่ง

ได้รับอิทธิพลจากชาวมลายู  ชาวไทยเชื้อสายจีน  และอารยธรรมตะวันตกจากพ่อค้าวาณิชที่เข้ามาติดต่อค้าขาย  หรือล่าอาณานิคมในอดีต

จนออกมาในรูปแบบของสถาปัตยกรรมในรูปแบบที่แปลกตาไปจากสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของแต่ละท้องถิ่น

         แต่ปัจจุบันสถาปัตยกรรมท้องถิ่นเหล่านี้กำลังจะสูญหายไป  โดยเฉพาะสถาปัตยกรรมที่สร้างด้วยไม้ซึ่งผุพังได้ง่าย  รวมไป

ถึงช่างฝีมือพื้นบ้านที่กำลังสูญหายไปอย่างรวดเร็ว  มีการเปลี่ยนการใช้วัสดุสมัยใหม่ที่มีความสะดวกกว่าตามอิทธิพลของสถาปัตยกรรม

สมัยใหม่  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  ได้เล็งเห็นถึงปัญหาและคุณค่าความสำคัญของสถาปัตยกรรมท้องถิ่นดังกล่าว  จึงได้ร่วมมือกับ

กลุ่มนักวิจัยชาวฝรั่งเศสจากสถาบันการวิจัยเอเชียอาคเนย์  (THE  SOUTHEAST  ASIAN  RESEARCH  INSTITUTE)  

จัดทำโครงการหอวัฒนธรรมนิทัศน์ขึ้น  เพื่อรวบรวมเอาสถาปัตยกรรมรูปแบบต่าง  ๆ  มาก่อสร้างเป็นหมู่บ้านจำลอง  เป็นการจัดพิพิธภัณฑ์

กลางแจ้ง  เพื่อแสดงกิจกรรมทางวัฒนธรรมเป็นการแสดงถึงความสัมพันธ์ของสิ่งที่นำมาแสดงและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องในชีวิตประจำวัน

         โครงการหอวัฒนธรรมนิทัศน์จะประกอบด้วย  เรือนไทยที่ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมตะวันตกศาลาไทย  2  หลัง  บ้าน

เยาวชน  หมู่บ้านไทยมุสลิมและไทยเชื้อสายจีน  เรือนข้าว  ช่างตีเหล็ก  สะพาน  เรือนสวนพฤกษศาสตร์  โดยเรือนหลังแรกที่ได้สร้างขึ้นมา

คือ  "เรือนขนมปังขิง"  หรือ  "บ้านโบราณของอำมาตย์โทพระยาพิบูลพิทยาพรรค"  เป็นเรือนไม้หลังใหญ่ที่สะท้อนให้เห็นถึงความ

สามารถของเจ้าของบ้านและช่างในการผสานวัฒนธรรมไทยและตะวันตกได้อย่างกลมกลืนในรูปแบบของโคโลเนียนสไตล์

         ผู้สร้างบ้านหลังนี้คือ  อำมาตย์โทพระยาพิบูลพิทยาพรรค  (ทอง  คุปตาสา)  เป็นชาวจังหวัดสิงห์บุรี  ในขณะดำรงตำแหน่ง

เป็นธรรมการมณฑลปัตตานี  เมื่อปี  2453  โดยช่างชาวจีน  ซึ่งคาดว่าก่อสร้างเสร็จประมาณปี  2476  อันเป็นปีที่พระยาพิบูลพิทยาพรรค

ออกจากราชการ  เมื่อมีพระราชบัญญัติยุบเลิกมณฑลทั่วราชอาณาจักร  เดิมตั้งอยู่ที่เลขที่  3  ถนนสฤษดิ์  เยื้องกับโรงพยาบาลปัตตานีเก่า  

ทิศตะวันตกจดคลองสามัคคี  ด้านหลังบ้านติดถนนโรงเหล้าสาย  ข  มีเนื้อที่ประมาณ  20  ไร่  ซึ่งพระยาพิบูลพิทยาพรรคใช้ปลูกพืชผัก  

ผลไม้  ดอกไม้นานาชนิด  จนชาวบ้านทั่วไปรู้จักกันในนาม  "บ้านสวน"

         ลักษณะบ้านเป็นเรือนไม้  2  ชั้น  สูงจากพื้นดินประมาณ  170  ซม.  มีหลังคารวมทั้งลวดลายแกะสลักตกแต่งเป็นไปตาม

ลักษณะของบ้านแบบยุโรป  ที่เริ่มการสร้างกันในประเทศไทยตั้งแต่ปลายสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่  4  แห่ง

กรุงรัตนโกสินทร์  มีหน้าต่างแคบยาว  ตีไม้เป็นบานเกล็ดตายตัว  แต่มีหน้าจั่วเพิ่มมาด้านหน้า  ตัวบ้านทาสีฟ้าอ่อน  ตัดขอบด้วยสีฟ้าเข้ม  

ที่น่าสังเกตคือไม่มีการติดกุญแจที่ประตู  มีเฉพาะกลอนภายในเป็นบางห้องเท่านั้น  ผู้ที่เคยอาศัยภายในบ้านหลังนี้กล่าวว่าไม่เคยปรากฏว่า

มีขโมย  ทั้ง  ๆ  ที่มีบริเวณกว้างขวาง  ไม่มีรั้วบ้าน  และติดถนนสองด้าน  ทั้งนี้อาจเป็นเพราะพระยาพิบูลพิทยาพรรคเป็นคนดีมีความ

เด็ดขาด  เป็นที่เคารพยำเกรงของบุคคลทั่วไปและชาวบ้านมุสลิมที่อยู่รอบ  ๆ

         ภายในบ้านมีการตกแต่งเรียบ  ๆ  ส่วนใหญ่เป็นเกียรติบัตร  เหรียญ  และเครื่องหมายสำหรับเครื่องแบบโอกาสต่าง  ๆ  ของ

พระยาพิบูลพิทยาพรรค  มีตู้และชั้นหนังสือเป็นหลัก  เนื่องจากเจ้าของบ้านเป็นผู้ที่รักการอ่านหนังสือและการประพันธ์คำกลอน

         หลังจากที่พระยาพิบูลพิทยาพรรคถึงแก่กรรมในปี  2509  และคุณหญิงสิน  (ภรรยา)  ได้ย้ายเข้ากรุงเทพฯ  บ้านหลังนี้จึง

อยู่ในการครอบครองดูแลคือ  คุณเกียรติราช  ซึ่งเป็นหลานและใช้เป็นที่พักนักศึกษา  จนถึงปี  2519  จึงมีการเปลี่ยนอีกครั้ง  ผู้สืบทอดต่อมา

คือ  ว่าที่  ร.ต. ปราโมทย์  และอาจารย์จีรพรพิชญ์  เชาวน์วาณิชย์  และได้ทำการบูรณะอีกครั้งให้อยู่ในสภาพที่ดี  โดยมีเจ้าหน้าที่ของ

ธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ดูแล

         ต่อมาว่าที่  ร.ต. ปราโมทย์  เกรงว่าบ้านที่พระยาพิบูลพิทยาพรรคสร้างซึ่งมีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์  

อาจได้รับความเสียหายจากการที่ตั้งตัวบ้านอยู่ในสภาพที่เป็นแอ่ง  เพราะที่ดินโดยรอบได้กลายเป็นที่ตั้งของตึกแถวและบ้านพักอาศัย  จึง

ได้แจ้งต่ออาจารย์ปัญญ์  ยวนแหล  อดีตรองอธิการบดี  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  ว่ามีความประสงค์จะบริจาคให้

กับมหาวิทยาลัยได้ใช้ประโยชน์เพื่อการศึกษาวิจัยต่อไป

         ในเดือนกันยายน  2535  ผู้ช่วยศาสตราจารย์ผดุงยศ  ดวงมาลา  อดีตรองอธิการบดี  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยา

เขตปัตตานี  ได้รับหนังสือแจ้งความจำนงการบริจาคบ้านจาก  นายสมยศ   ฉันทวานิช  จึงได้นำนายเอริค  บ็อกด็อง  สถาปนิกชาวฝรั่งเศส  

เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการเคลื่อนย้ายบ้านหลังนี้  นายบ็อกด็อง  ใช้เวลา  20  วัน  สำหรับการแกะแบบและถอดชิ้นส่วนบ้าน  ต่อมา

ในเดือนมีนาคม  2537  จึงได้ลงมือประกอบบ้านโดยใช้ช่างมุสลิมท้องถิ่นประมาณ  10  คน  และประกอบแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม  

2538  การรื้อบ้านโบราณและประกอบใหม่หลังนี้เป็นหนึ่งในการย้ายอาคารหลังใหญ่เพียงไม่กี่แห่งทั่วโลก  และสำหรับบ้านที่มีหลังคา

และจั่วเช่นบ้านพระยาพิบูลพิทยาพรรคหลังนี้ไม่เคยมีมาก่อน  สถาปนิกและช่างต้องใช้ความพิถีพิถันในการทำงาน  เพื่อให้อยู่สภาพเดิม

มากที่สุด

         อย่างไรก็ดีในส่วนที่ต่างไปจากเดิมคือ  เพิ่มชายคาลายฉลุชั้นนอกของบ้านให้เข้ากับที่มีอยู่ในชั้นใน  เปลี่ยนหลังคาจาก

กระเบื้องซีเมนต์เป็นหลังคากระเบื้องดินเผา  โดยว่าจ้างผู้ผลิตซึ่งเหลืออยู่เพียงรายเดียวในอำเภอเมืองปัตตานี  ส่วนสีบ้านได้เปลี่ยนจาก

สีฟ้ามาเป็นสีขาว  และกระจกช่องแสงใช้แบบลายแทนแบบฝ้าของเดิม  นอกจากนี้ได้เพิ่มบันไดสองข้างหน้าระเบียงที่ยื่นออกมาเฉลียง

         ปัจจุบันโครงการจัดตั้งสถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา  ได้ใช้ห้องหนึ่งของบ้านหลังนี้เป็นที่ทำการของสถาบัน  

ส่วนอื่น  ๆ  ใช้จัดเป็นนิทรรศการชีวิตความเป็นอยู่ของชนชั้นร่วมสมัยของพระยาพิบูลพิทยาพรรค

         วันนี้  เรือนขนมปังขิง  บ้านไทยโคโลเนียนสไตล์  ได้ตั้งเด่นเป็นสง่าโชว์ความเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของชาวใต้ที่ผสม

ผสานวัฒนธรรมตะวันตก - ไทย  อยู่ภายในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี



                                                                                           *****************

โดย : 192.168.148.31 * [ วันที่ 2003-01-20 14:23:05 ]