องค์การบริหารองค์การนักศึกษา จัดโครงการไบค์ทัวร์ตอนสำนึกรักธรรมชาติ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบประหยัดและแนะนำ
ให้นักศึกษาใหม่ได้รู้จักจังหวัดปัตตานีมากขึ้น โดยมีนักศึกษาทุกชั้นปีเข้าร่วมกิจกรรมปั่นแบบไร้มลพิษกว่า 300 คน ด้านผู้เข้าร่วมโครงการระบุ
ทำให้รู้จักปัตตานีในแง่มุมใหม่ ๆ โดยเฉพาะความหลากหลายทางวัฒนธรรมในสังคมปัตตานี
เมื่อวันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม ที่ผ่านมา องค์การบริหารองค์การนักศึกษา ได้จัดโครงการไบค์ทัวร์ขึ้นซึ่งเป็นกิจกรรมที่ให้ผู้เข้าร่วม
โครงการปั่นจักรยานท่องเที่ยวไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งในจังหวัดปัตตานี นายอับดุลเราะห์มัน มาหามะ นายกองค์การบริหารองค์
การนักศึกษา กล่าวว่าโครงการไบค์ทัวร์ในปีนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักศึกษาได้รู้จักจังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นจังหวัดที่นักศึกษาต้องใช้ชีวิตอยู่ให้มาก
ขึ้น รวมถึงให้นักศึกษาได้เรียนรู้ความหลากหลายทางวัฒนธรรมของจังหวัดปัตตานี สำหรับปีนี้มีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวนกว่า 300 คน มีทั้ง
นักศึกษาปี 1 - 4 ซึ่งมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา นับว่านักศึกษาให้ความสนใจอย่างมากและปีนี้ได้ให้ความรู้เรื่องประวัติศาสตร์ของสถานที่ท่องเที่ยว
ต่าง ๆ แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมด้วย นอกจากนี้ยังมีตัวแทนจากชมรมรถจักรยานโบราณจังหวัดปัตตานีมาร่วมกิจกรรมด้วย โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรม
ได้เริ่มปั่นจักรยานตั้งแต่เช้าที่หน้าองค์การนักศึกษา ไปทางด้านหน้ามหาวิทยาลัย เพื่อรณรงค์การใช้จักรยานในเขตเทศบาลเมือง ซึ่งสถานที่ท่อง
เที่ยวแห่งแรกที่ขบวนไบค์ทัวร์เที่ยวชมคือ บ้านเลขที่ 1 ของจังหวัดปัตตานี และศาลเจ้าเล่งจูเกียง (ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว) บริเวณดังกล่าวเป็น
ชุมชนดั้งเดิมของชาวจีนในปัตตานี
นายวิจิตร นิลแก้ว นักศึกษาชั้นปีที่ 1 วิชาเอกจิตวิทยา คณะศึกษาศาสตร์ กล่าวว่าศาลเจ้าเล่งจูเกียงและชุมชนชาวจีนในบริเวณนี้
มีความน่าสนใจมากในการศึกษาทางด้านประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ทำให้เข้าใจถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมของปัตตานีและผู้คนที่ต่างวัฒนธรรม
ก็สามารถอยู่กันได้อย่างสงบสุข และถ้ามีโอกาสก็จะไปเที่ยวอีก
หลังจากนั้นขบวนไบค์ทัวร์ได้ปั่นจักรยานต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งคือ มัสยิดกรือเซะและฮวงซุ้ยเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว
ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษมใน ต. ตันหยงลูโล๊ะ อ. เมือง จ. ปัตตานี คณะไบค์ทัวร์ได้รับเกียรติจากกำนันตำบลตันหยงลูโล๊ะ มาเล่าประวัติความเป็น
มาของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ทั้งสองแห่ง ซึ่งได้รับความสนใจจากนักศึกษาอย่างมาก เนื่องจากยังไม่เคยทราบเรื่องราวของสถานที่ดัง
กล่าวมาก่อน กระทั่งในเวลาประมาณ 11.00 น. ได้เดินทางถึงศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนยะหริ่ง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่า
ชายเลนยะหริ่ง มาบรรยายถึงการเกิดและความสำคัญของป่าชายเลนยะหริ่ง หลังจากนั้นจึงได้เข้าไปศึกษาความหลากหลายของป่าชายเลนดังกล่าว
นายพิสิฐพงษ์ หมื่นประเสริฐดี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 วิชาเอกเคมี - ชีววิทยา กล่าวถึงความประทับใจว่าป่าชายเลนยะหริ่งมีพืชป่า
ชายเลนหลากหลายมากและบางชนิดก็ไม่เคยเห็นมาก่อน จึงนับว่าน่าเสียดายถ้าหากนักท่องเที่ยวและหน่วยงานต่าง ๆ ไม่ช่วยกันดูแลรักษา เพราะ
ในอนาคตป่าแห่งนี้จะเป็นมรดกทางธรรมชาติที่สำคัญของประเทศ
ส่วนนางสาวกันยามาศ อุดมสิน นักศึกษาชั้นปีที่ 1 วิชาเอกอังกฤษ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ กล่าวเช่นกันว่าในระหว่าง
เส้นทางการเดินทาง นอกจากจะได้ออกกังกายแล้วยังได้สังเกตเห็นวัฒนธรรมของชุมชนท้องถิ่นเช่น ลักษณะการสร้างบ้านเรือนที่เป็นเอกลักษณ์และ
เด็ก ๆ ในชุมชนก็น่ารัก ให้ความสนใจในกิจกรรมอย่างมาก
เวลาประมาณ 12.30 น. คณะได้เดินทางถึงชายหาดตะโล๊ะกาโปร์ อ. ยะหริ่ง จ. ปัตตานี ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งสุดท้ายที่
ขบวนไบค์ทัวร์ได้เยี่ยมชม โดยบริเวณชายหาดดังกล่าวได้มีกิจกรรมสันทนาการ ประกาศรางวัลไบค์ทัวร์ บำเพ็ญประโยชน์ และในเวลาประมาณ
15.30 น. ได้เดินทางกลับยังมหาวิทยาลัย
ด้านนายภีรกาญจน์ ไค่นุ่นนา อุปนายกิจการภายนอกองค์การบริหารองค์การนักศึกษา กล่าวถึงปัญหาในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ว่า
ปัญหาที่พบก็เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น อากาศร้อนเกินไป บางคนก็ประมาท ทำให้รถจักรยานเกี่ยวกันบ้าง รถจักรยานเสียระหว่างการเดินทาง
บ้าง แต่ในด้านการประสานงานกับหน่วยงานภายนอกนั้น ต่างได้รับความร่วมมืออย่างดี ทั้งเจ้าหน้าที่สำนักงานป่าไม้จังหวัดและ อบต. ส่วนเจ้า
หน้าที่ตำรวจ สภอ. เมือง และ สภอ. ยะหริ่ง จ. ปัตตานี ก็มาอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทางการเดินทางทั้งไปและกลับ
ทั้งนี้โครงการไบค์ทัวร์ปีนี้ได้เน้นเรื่องการท่องเที่ยวแบบไร้มลพิษ การเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่นมากขึ้น เพราะจะ
ทำให้นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการได้ท่องเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ อย่างเข้าใจพัฒนาการทางด้านประวัติศาสตร์ของชุมชนท้องถิ่นปัตตานี
*****************
|