ฯพณฯ  รัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย  นายสุธรรม  แสงประทุม  ให้สัมภาษณ์กองบรรณาธิการข่าวศรีตรัง  ในโอกาสเดินทาง

มาเป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมศิลปวัฒนธรรม  ครั้งที่  9  เมื่อวันที่  2  กรกฎาคม  2544  ณ  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขต

ปัตตานี  ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้

         ถาม      ทบวงมีนโยบายให้แต่ละมหาวิทยาลัยส่งเสริมและทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างไร

         ตอบ     ภารกิจหลักประการหนึ่งของมหาวิทยาลัยคือ  การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม  ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่ควรจะนำมาเผยแพร่ขยาย

ผล  ซึ่งในภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจ  สังคม  ที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้  สังคมนั้นจะต้องมีเอกลักษณ์มีภูมิปัญญาของตนเอง  ศิลปวัฒนธรรม

เป็นองค์ความรู้ดั้งเดิมที่ทบวงจะพยายามขยายภารกิจให้มหาวิทยาลัย  เข้าไปเชื่อมต่อกับองค์ความรู้ภูมิปัญญาเดิมหรือศิลปวัฒนธรรมให้มากกว่า

เดิม  โดยได้จัดสรรงบประมาณสนับสนุนแผนงาน  ในส่วนของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  ก็ได้ปฏิบัติภารกิจนี้อยู่แล้วและได้มีการขยายงานด้าน

นี้ออกมาเป็นสถาบัน  ซึ่งทบวงรับที่จะผลักดันให้ออกมาโดยถูกต้องตามกฎหมายเพื่อจะรองรับภารกิจนี้ได้

         นอกจากนี้ทบวงมหาวิทยาลัยก็ได้จัดสรรงบประมาณสนับสนุนด้านกิจกรรม  เพื่อจะนำมหาวิทยาลัย  บุคลากร  และนักศึกษา  ไปสัมผัส

เพื่อขยายผลให้กว้างขวางต่อไป

         ในขณะเดียวกัน  ทบวงมีโครงการเชิดชูครูแผ่นดินศิลปินแห่งชาติ  ในเรื่องบุคคลที่สะสมองค์ความรู้จนได้รับการยกย่องว่าเป็นปราชญ์

ของแผ่นดินในแต่ละสาขา  เราพยายามนำงานของท่านเหล่านี้มาเผยแพร่สู่บุคคลรุ่นหลัง  นำศิลปินแห่งชาติมาเป็นวิทยากร  เป็นอาจารย์พิเศษ  เพื่อถ่าย

ทอดสู่คนรุ่นใหม่และใช้มหาวิทยาลัยในทุกภูมิภาค  ไปเชื่อมต่อองค์ความรู้ในด้านศิลปวัฒนธรรม  เพื่อให้ความรู้เหล่านี้เป็นสมบัติของแผ่นดินให้ชาว

โลกมีสิทธิ์มาชื่นชม

         ถาม     ขอทราบความคืบหน้าของการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับ

         ตอบ    ขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้วขั้นหนึ่ง  ในปัจจุบันก็มีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี  มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์  มหาวิทยาลัยแม่ฟ้า

หลวง  และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี  ที่เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐและมติ  ครม.  ก็ออกมาแล้วว่าให้มหาวิทยาลัยของรัฐเป็น

มหาวิทยาลัยในกำกับภายในปี  2545  แต่ทั้งนี้ท่านนายกก็ได้ให้แนวทางไว้ว่า  อยากให้ดำเนินการไปตามความพร้อมของแต่ละสถาบัน  ไม่อยากใช้

กรอบของกฎหมายมาบังคับและให้เน้นการสร้างความเข้าใจร่วมกันเป็นสำคัญ  เพราะการเปลี่ยนแปลงโดยกฎหมาย  แต่ชีวิตจิตใจไม่เปลี่ยน จะทำให้

เจตนารมณ์ที่วางไว้ไม่ปรากฏผลในทางปฏิบัติ



                                                                                          ******************