สมาพันธ์ปันจักสีลัตแห่งประเทศไทย ได้ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2534 ซึ่งก่อนหน้านี้ปี พ.ศ. 2530 ได้มีการจัดและดำเนินการ
เกี่ยวกับกีฬาปันจักสีลัต โดยมีคณะทำงานประกอบด้วยบุคลากรจากกองทัพบก ภาคที่ 4 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และวิทยาลัย
พลศึกษาจังหวัดยะลา ปัจจุบันบุคลากรมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ก็ยังคงร่วมรับผิดชอบในการดำเนินงานของสมาคมปันจักสีลัตแห่ง
ประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องท่านหนึ่งคือ นายสมเกียรติ สุขนันตพงศ์ อาจารย์ภาควิชาพลศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ โดยล่าสุดท่านได้
ทำหน้าที่ประธานกรรมการผู้ตัดสินการแข่งขันกีฬาปันจักสีลัตชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1 เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ข่าว
ศรีตรังจึงขอนำทัศนะของท่านที่มีต่อการเตรียมนักกีฬาปันจักสีลัตทีมชาติไทย เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 21 ณ ประเทศ
มาเลเซีย ในเดือนกันยายน 2544 มาเสนอดังนี้
สมาคมกีฬาปันจักลัตภายใต้การนำของนายกสมาคมคนใหม่ พล อ.อ. สมบุญ ระหงษ์ ได้จัดให้มีการแข่งขันกีฬาปันจักสีลัต
ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1 ประจำปี 2544 (1 th THAILAND PENCAKSILAT CHAMPAINSHIP 2001)
ขึ้นเมื่อวันที่ 13 - 16 พฤษภาคม 2544 ที่ MCC HALL เดอะมอลล์บางกะปิ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อคัดเลือกนักกีฬาเป็นตัวแทน
เข้าร่วมการแข่งขันกีฬา SEA GAMES ครั้งที่ 21 ณ ประเทศมาเลเซีย การจัดการแข่งขันครั้งนี้นับว่าประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง
ซึ่งประเมินได้จากการที่มีชมรม สโมสรต่าง ๆ ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ถึง 19 ทีม จำนวนนักกีฬาประมาณ 190 คน และ
มีผู้สนใจเข้าชมเป็นจำนวนมาก
นอกจากนั้นสมาคมกีฬาปันจักสีลัตยังได้รับเกียรติจาก MR. EDDIE M. NALAPRAYA ประธานสมาพันธ์กีฬาปันจัก
สีลัตนานาชาติ เดินทางจากประเทศอินโดนีเซียมาเป็นประธานพิธีเปิดการแข่งขันครั้งนี้ด้วย ในด้านกรรมการผู้ตัดสินก็ได้รับความร่วมมือ
จากสมาคมกีฬาปันจักสีลัตแห่งประเทศบรูไนดารุสลาม ส่งกรรมการผู้ตัดสินมาร่วมในการตัดสินครั้งนี้ถึง 4 คน ร่วมกับผู้ตัดสินของไทย
ที่เป็นผู้ตัดสินระดับนานาชาติและผู้ตัดสินที่ทางสมาคมได้จัดการฝึกอบรมก่อนการจัดการแข่งขัน จึงทำให้การแข่งขันมีมาตรฐานมากขึ้น
จากการที่ผู้เขียนได้มีส่วนร่วมในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ โดยรับหน้าที่เป็นประธานกรรมการผู้ตัดสินมีข้อสังเกตและข้อเสนอ
แนะที่คิดว่า จะเป็นประโยชน์กับสมาคมกีฬาปันจักสีลัตและผู้ที่เกี่ยวข้องในการเตรียมนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 21 ณ
ประเทศมาเลเซีย หลายประการด้วยกันดังนี้
ประการที่ 1 มีความเห็นว่านักกีฬาส่วนใหญ่ยังขาดความเข้าใจในหลักการของกีฬาปันจักสีลัต ที่เน้นการรุกและรับอย่างต่อ
เนื่อง การออกอาวุธที่รวดเร็วและแม่นยำไปยังเป้าหมายอย่างถูกต้อง ไม่ได้เน้นความดุดัน รุนแรงเพียงอย่างเดียว และที่สำคัญจะต้องเพิ่ม
การให้ความรู้เรื่องกฎกติกาการแข่งขันที่ถูกต้องแก่นักกีฬาด้วย เพื่อป้องกันการกระทำฟาวล์และจะนำไปสู่การถูกจับให้แพ้ฟาวล์ได้
ประการที่ 2 มาตรฐานการแข่งขันแม้ว่าจะดีขึ้น แต่นักกีฬาส่วนใหญ่ยังขาดทักษะที่สำคัญคือการทำให้คู่แข่งขันล้ม ซึ่งเป็น
ทักษะที่ได้คะแนนมาก รวมถึงการป้องกันการกระทำล้มด้วย นักกีฬามักจะไม่ค่อยใช้หมัดซึ่งเป็นอีกทักษะหนึ่งที่จะทำให้ได้คะแนน ไม่ควร
จะเน้นเพียงการเตะอย่างเดียว จะเสียเปรียบคู่แข่งที่เขาออกอาวุธได้หลายอย่าง เปรียบเทียบการต่อสู้ที่เขาอนุญาตให้ใช้อาวุธได้ 3 ชนิด
แต่เราใช้เพียงชนิดเดียวก็ย่อมจะเสียเปรียบคู่แข่งขันอยู่แล้ว
ประการที่ 3 สมาคมยังขาดนักกีฬาในรุ่นใหญ่ ๆ ทั้งประเภทชายและหญิง ซึ่งโอกาสจะได้เหรียญมีมาก เนื่องจากรุ่นใหญ่
มีส่งเข้าแข่งขันน้อย สำหรับนักกีฬาหญิงที่มีอยู่ทั้งหมดฝีมือยังไม่ได้มาตรฐานซีเกมส์ สมาคมจะต้องหานักกีฬามาเพิ่มในระยะเวลาที่เหลือ
ไม่มากนัก อาจจะหาได้จากนักมวยหญิงที่มีฝีมือดีนำมาฝึก ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่จะได้นักกีฬาที่มีฝีมือพอจะไปแข่งขันกับเขาได้
ประการที่ 4 จะต้องมีการประเมินทีมคู่แข่งขันด้วย เพื่อที่จะรู้ว่าเราเองอยู่ในระดับใด ในการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 21 นี้
มีประเทศที่ส่งกีฬาปันจักสีลัตเข้าแข่งขันถึง 9 ประเทศ ในความเห็นของผู้เขียนจัดระดับความพร้อมและมาตรฐานฝีมือไว้ 3 กลุ่มคือ
กลุ่มที่ 1 มีอินโดนีเซีย เวียดนาม และมาเลเซีย กลุ่มที่ 2 มีสิงคโปร์ ไทย ฟิลิปปินส์ แลบรูไนดารุสลาม กลุ่มที่ 3 มีพม่าและลาว ทาง
สมาคมและผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องติดตามประเมินชาติต่าง ๆ อย่างใกล้ชิดและขยับไปอยู่ในกลุ่มที่ 1 ให้ได้มากแค่ไหน โอกาสที่จะได้เหรียญ
ก็จะมีมากเท่านั้น
ประการที่ 5 ควรที่จะมีการนำนักกีฬาไปแข่งขันประลองกับนักกีฬาชาติต่าง ๆ ด้วย เพื่อเป็นการเพิ่มประสบการณ์การแข่งขัน
ในระดับนานาชาติและจะเกิดผลดีทางด้านจิตวิทยาการกีฬา และยังเป็นการประเมินคู่แข่งขันด้วย และที่สำคัญจะได้นำผลการแข่งขันมาปรับ
ปรุงแผนการฝึกซ้อมได้ทันการณ์
หลังจากซีเกมส์ ครั้งที่ 20 ที่ประเทศบรูไนดารุสลาม คณะกรรมการโอลิมปิคไทยมีความคาดหวังว่ากีฬาปันจักสีลัตเป็นกีฬา
อีกชนิดหนึ่งที่จะช่วยให้ไทยได้เป็นเจ้าเหรียญทองในซีเกมส์ ครั้งที่ 21 เนื่องจากมีจำนวนเหรียญทองมากถึง 21 เหรียญ จึงจัดให้กีฬา
ปันจักสีลัตอยู่ในกลุ่มที่จะต้องดูและให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่เช่นเดียวกับกีฬาอูซู คาราเต้โด และเทควันโด้ ได้จัดให้มีการเก็บตัวนักกีฬา
ระยะยาวขึ้น จำนวนนักกีฬาให้เก็บตัวได้เต็มตามจำนวนที่มีการแข่งขัน รวมถึงการจ้างโค้ชจากประเทศอินโดนีเซีย มาช่วยสอนเพิ่มเติมใน
เรื่องเทคนิคต่าง ๆ ที่นักกีฬาไทยยังมีจุดอ่อนอยู่ ซึ่งก็น่าจะทำให้ความหวังของกีฬาปันจักสีลัตในซีเกมส์ ครั้งที่ 21 มีมากขึ้น เป็นไปตาม
ความคาดหวังของคณะกรรมการโอลิมปิคไทยและนายกสมาคม พล อ.อ. สมบุญ ระหงษ์ ที่ตั้งความหวังไว้ว่าจะต้องได้อย่างน้อย 4
เหรียญทอง ความคาดหวังเหล่านี้จะเป็นจริงได้ถ้าสมาคมใช้เวลาประมาณ 3 เดือนที่เหลือนี้ ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขตามข้อสังเกตและ
ข้อเสนอแนะดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น โค้ช ผู้จัดการทีม และสมาคม คงจะต้องทำงานหนักและเหนื่อยพอสมควร จึงจะไปถึงสิ่งที่คาด
หวังไว้ใน เกมิลังเกมส์
สมเกียรติ สุขนันตพงศ์
กรรมการผู้ตัดสิน
สมาพันธ์กีฬาปันจักสีลัตนานาชาติ
**********************
|