มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กรมศิลปากร และนักวิจัยชาวฝรั่งเศส ร่วมศึกษาวิจัยแหล่งโบราณคดีบริเวณ
ลุ่มน้ำปัตตานี โดยได้รับงบประมาณจากรัฐบาลฝรั่งเศส
นายสมบูรณ์ ธนะสุข ผู้อำนวยการโครงการจัดตั้งสถาบันวัฒนธรรมศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
กล่าวว่าปัตตานีเป็นเมืองหนึ่งที่มีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์อันยาวนาน แต่แหล่งชุมชนโบราณประวัติศาสตร์อันยาวนานที่กระจายอยู่
บริเวณลุ่มน้ำปัตตานีนั้น ยังไม่ได้รับการศึกษาวิจัยอย่างชัดเจน เป็นผลให้โครงการจัดตั้งสถาบันวัฒนธรรมศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
วิทยาเขตปัตตานี สำนักงานโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จังหวัดสงขลา กรมศิลปากร และนักวิจัยชาวฝรั่งเศสจากสถาบันฝรั่งเศส
แห่งปลายบูรพาทิศ เห็นความสำคัญดังกล่าวจึงได้ร่วมกันศึกษาวิจัยแหล่งโบราณคดีในบริเวณลุ่มน้ำปัตตานี เป็นระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี
2540 - 2544 ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลฝรั่งเศส โดยศึกษาวิจัยด้านประวัติศาสตร์เมืองปัตตานีและแหล่งชุมชนโบราณ
บริเวณลุ่มน้ำปัตตานี
นายอำนาจ สมบัติยานุชิต นักวิชาการศึกษา โครงการจัดตั้งสถาบันวัฒนธรรมศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต
ปัตตานี หนึ่งในคณะวิจัยศึกษาแหล่งโบราณคดีในบริเวณลุ่มน้ำปัตตานี เปิดเผยถึงการศึกษาวิจัยดังกล่าวว่า คณะวิจัยได้ศึกษาวิจัยแหล่งโบราณ
คดีบริเวณลุ่มน้ำปัตตานีมาแล้ว 3 ปีคือตั้งแต่ปี 2540 - 2542 โดยในปี 2540 ได้สำรวจและรวบรวมโบราณวัตถุบนพื้นผิวดินในบริเวณลุ่ม
น้ำปัตตานีโดยเฉพาะบริเวณบ้านกรือเซะ ซึ่งส่วนใหญ่พบเศษเครื่องถ้วยชามมีอายุในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 เป็นต้นมา (พุทธศตวรรษที่
20) ทำให้ทราบในเบื้องต้นว่าหลักฐานด้านโบราณวัตถุที่แสดงการตั้งถิ่นฐานของชุมชนก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 15 หรือช่วงก่อนสมัยกรุงศรี
อยุธยายังไม่ปรากฏอย่างชัดเจนในบริเวณลุ่มน้ำปัตตานี ปี 2541 มีการขุดสำรวจที่เมืองโบราณบ้านประแว อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี ซึ่ง
พบโบราณวัตถุไม่มากนักและจากการศึกษาเครื่องถ้วยจีนที่ค้นพบในบริเวณนี้พบว่ามีอายุอยู่ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 - 20 (ปลายพุทธ
ศตวรรษที่ 24) จึงสันนิษฐานได้ว่าภายในบริเวณกำแพงเมืองโบราณบ้านประแว ไม่ได้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยอย่างหนาแน่นและไม่ได้เป็นชุมชน
ที่อพยพเคลื่อนย้ายไปยังบริเวณเมืองโบราณกรือเซะและบริเวณลุ่มน้ำปัตตานีในสมัยแรกเริ่ม ในปี 2542 ได้มีการสำรวจชุมชนรอบลุ่มน้ำ
ปัตตานีและบางส่วนของลุ่มน้ำสายบุรี โดยการสอบถามประวัติชุมชนชื่อหมู่บ้านสุสานเก่า เป็นต้น
อย่างไรก็ตามโครงการวิจัยฯ จะแล้วเสร็จในปลายปี 2544 และคงได้ข้อมูลที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งสถาบันฝรั่งเศสแห่งปลาย
บูรพาทิศ (Ecole Francaise d Extreme - Orient) จะได้ตีพิมพ์รายงานผลการวิจัยออกเผยแพร่ในระดับนานาชาติต่อไปด้วย
*****************
|