รายละเอียด :
|
นักวิชาการมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ศึกษาพลปัญหามลพิษทางน้ำรอบอ่าวปัตตานีมาจากโรงงาน
อุตสาหกรรม นากุ้ง และชุมชน โดยไม่มีมาตรฐานของการบำบัดน้ำเสียและพบว่าประชาชนต้องการให้รัฐสร้างท่อระบายน้ำ กำจัดขยะ
และมีมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำของโรงงานอุตสาหกรรมและนากุ้ง
จากการเพิ่มของประชาชนรอบอ่าวปัตตานี ทำให้มีความต้องการใช้ทรัพยากรมากขึ้นตามไปด้วย ประกอบกับการขยายตัว
ทางเศรษฐกิจตามนโยบายพัฒนาประเทศของรัฐ ก่อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้นบริเวณรอบอ่าว อาทิ การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การ
ประมงเชิงพาณิชย์และการขายตัวของอุตสาหกรรม เหล่านี้เป็นแหล่งกำเนิดมลพิษลงสู่อ่าว โดยก่อให้เกิดปัญหาการปล่อยน้ำเสีย โดยไม่
ผ่านการบำบัดหรือบางโรงงานมีการบำบัดน้ำเสีย แต่ไม่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด จากสาเหตุดังกล่าวทำให้อ่าวปัตตานีมีแนว
โน้มเสื่อมโทรมลง ซึ่งส่งผลต่อทรัพยากรธรรมชาติลดลงด้วยและความอยู่รอดของชุมชนในพื้นที่รอบอ่าว ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ
ประมงขนาดเล็กและจำเป็นต้องพึ่งพาทรัพยากรในอ่าวปัตตานี
รศ. ครองชัย หัตถา ผู้วิจัยการสำรวจสภาพปัญหามลพิษทางน้ำบริเวณพื้นที่รอบอ่าวปัตตานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
วิทยาเขตปัตตานี เปิดเผยถึงผลการประเมินน้ำทิ้งและปริมาณของเสียจากชุมชนและโรงงานอุตสาหกรรมว่า ปริมาณน้ำทิ้งระบายลงสู่แม่น้ำ
และอ่าวปัตตานีในปัจจุบัน มีปริมาณ 20,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดย 3 ใน 5 ส่วน มาจากชุมชนและ 2 ใน 5 ส่วน มาจากโรงงาน
อุตสาหกรรมและแพปลา คิดเป็นปริมาณของเสียในรูป บี.โอ.ดี หรือในรูปของสารอินทรีย์ที่ย่อยสลายได้มาจากโรงงานอุตสาหกรรมและ
แพปลาประมาณ 12,960 กิโลกรัมต่อวัน และมาจากชุมชนประมาณ 7,755 กิโลกรัม นอกจากนั้นยังมีของเสียประเภทอื่นเช่น คราบน้ำมัน
ไขมัน โลหะหนัก และสารแขวนลอยประเภทอื่น ๆ ปะปนในน้ำทิ้งลงสู่อ่าวปัตตานี ปัจจุบันระบบบำบัดน้ำเสียรวมในเขตอุตสาหกรรมที่
สร้างแล้วเสร็จมากกว่า 1 ปี ยังไม่ได้เริ่มใช้ คงเป็นการบำบัดน้ำเสียเฉพาะภายในโรงงานแต่ละแห่งเท่านั้น ส่วนในเขตชุมชนรอบอ่าวรวม
ทั้งเขตเทศบาลยังไม่มีระบบบำบัดน้ำเสีย น้ำทิ้งลงสู่แม่น้ำและอ่าวปัตตานีโดยตรง
รศ. ครองชัย หัตถา ได้กล่าวเสนอแนะว่าปัจจุบันประชาชนรอบอ่าวปัตตานี ตระหนักในปัญหามลพิษทางน้ำในอ่าวปัตตานี
เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงและจับสัตว์น้ำมาเป็นเวลานาน นอกจากนั้นบริเวณรอบอ่าวหลายแห่งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวย
งามตามธรรมชาติที่ควรอนุรักษ์ จากการสำรวจประชากรตัวอย่างรอบอ่าวมักพบว่า ส่วนใหญ่ต้องการให้มีการควบคุมคุณภาพน้ำทิ้งให้ได้
มาตรฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งมีมากกว่า 40 โรงรอบอ่าวปัตตานี น้ำทิ้งจากชุมชนรอบอ่าวซึ่งมีประชากร
ประมาณหนึ่งแสนคน และน้ำทิ้งจากนากุ้งและแพปลา นอกจากนั้นยังต้องการให้มีการขุดคูระบายน้ำในชุมชนให้ทั่วถึง ไม่ให้มีสภาพน้ำเสีย
แช่ขังเน่าเหม็นตามหมู่บ้านต่าง ๆ ให้มีการใช้ระบบบำบัดน้ำเสียรวมในเขตอุตสาหกรรมที่ได้มีการก่อสร้างไว้แล้ว แต่ในปัจจุบันยังไม่มี
ระบบท่อน้ำทิ้งจากโรงงานต่าง ๆ มารวมกัน เพื่อบำบัดให้ได้มาตรฐานก่อนปล่อยน้ำทิ้งลงสู่อ่าวปัตตานี นอกจากนั้นยังต้องการให้มีการ
จัดเก็บและกำจัดขยะที่มีอยู่เป็นจำนวนมากตามหมู่บ้านรอบอ่าว ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของปัญหาน้ำเสียรอบอ่าวปัตตานี
******************
|