: : : รายละเอียดข่าว : : :

ข่าว ปีที่ :ข่าวปีที่ 0 ฉบับที่ 10 ประจำเดือน 10 2540
หัวข้อข่าว : หลายองค์กรใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมทำประชาพิจารณ์ร่างกฎหมายลูกที่ ม.อ. ปัตตานี
รายละเอียด :
                    มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  ร่วมกับสถาบันการศึกษา  องค์กรภาคเอกชน  หอการค้าจังหวัด  

ชมรม  ทนายความ  นักวิชาการจากจังหวัดปัตตานี  ยะลา  และนราธิวาส  จัดทำประชาพิจารณ์ร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ

ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา  คณะกรรมการเลือกตั้งและพรรคการเมือง  เมื่อวันที่  29  ตุลาคม  

2540  ณ  ห้องประชุมสำนักงานอธิการบดี  วิทยาเขตปัตตานี

         การทำประชาพิจารณ์  ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาเปรียบเทียบสาระสำคัญของกฎหมายดังกล่าว  ที่เสนอโดยสภา

ร่างรัฐธรรมนูญ  ร่างกฎหมายของรัฐบาล  ร่างกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคชาติไทย  แล้วประมวลความเห็นจากผู้

เข้าร่วมประชุมเสนอไปยังประธานรัฐสภา  ประธานวุฒิสภา  และคณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปการเมือง  (ครก.)  สำนัก-

นายกรัฐมนตรี  ใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของรัฐสภาต่อไป  ซึ่งในการทำประชาพิจารณ์ครั้งนี้มีประเด็นที่น่าสนใจที่มี

ความเห็นต่างไปจากร่างดังกล่าวข้างต้นดังนี้

         ร่างกฎหมายการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา

         1.  การกำหนดให้การไปใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นหน้าที่

         เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งมากขึ้น  มีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้นในระยะยาว  และเพื่อ

คุ้มครองสิทธิในการเลือกตั้ง  ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่สำคัญของคนไทยทุกคน  ที่ประชุมจึงเสนอว่า

         "บุคคลซึ่งไม่ไปเลือกตั้งโดยไม่แจ้งเหตุอันสมควรที่ทำให้ไม่อาจไปเลือกตั้งได้  ย่อมเสียสิทธิที่พึงได้คือสิทธิในการ

ขอใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์  รถยนต์  สิทธิในการทำนิติธรรม  สัญญาต่าง  ๆ  ที่ต้องมีการจดทะเบียนโดยหน่วยงานของรัฐ  

สิทธิการได้รับการรักษาพยาบาลจากสถานบริการสาธารณสุขของรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย"

         สำหรับร่างของ  สสร.  ของรัฐบาลและของพรรคการเมืองที่เสนอให้ตัดสิทธิเลือกตั้งของผู้ไม่มีสิทธิในการเลือกตั้ง

ครั้งต่อไปนั้น  ที่ประชุมมีความเห็นว่าไม่เป็นผลดีต่อการส่งเสริมการเลือกตั้ง  การมีส่วนร่วมทางการเมืองประชาชน

         2.  การใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้ง

         ที่ประชุมเสนอให้มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ประสงค์จะลงคะแนนนอกเขตเลือกตั้ง  ให้ยื่นคำร้องต่อเจ้าหน้าที่ที่คณะกรรม-

การการเลือกตั้งแต่งตั้ง  เพื่อจดทะเบียนใช้สิทธิฯ  ณ  ที่เลือกตั้งที่ประสงค์จะลงคะแนน  ทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อภาย

ใน  30  วันก่อนวันเลือกตั้ง  ทั้งนี้ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์  วิธีการแบบคำร้อง  ที่คณะกรรมการเลือกจะกำหนดต่อไป

         3.  การตรวจสอบผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง

         ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นว่าร่าง  สสร. ของรัฐบาลและพรรคการเมือง  ไม่ได้กำหนดให้มีการตรวจสอบผู้มาใช้สิทธิ

เลือกตั้ง  รวมทั้งการดำเนินการเลือกตั้งของหน่วยเลือกตั้งต่าง  ๆ  ซึ่งมีปัญหาการทุจริตมากในการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา  ที่

ประชุมจึงมีข้อเสนอดังนี้

                   1.  ให้มีการทำเครื่องหมายบนตัวของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง  หรือให้ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งลงลายมือชื่อ

หรือพิมพ์ลายนิ้วมือ  ซึ่งสามารถตรวจสอบได้โดยง่าย  เพื่อป้องกันการแอบอ้างใช้สิทธิแทนผู้อื่น

                   2.  ให้มีการถ่ายทำวิดีทัศน์ประจำทุกหน่วยเลือกตั้งในทุกขั้นตอนของการดำเนินการเลือกตั้ง  เริ่ม

ตั้งแต่การเข้าปฏิบัติหน้าที่ประจำ  ณ  ที่เลือกตั้งของคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง  จนถึงการส่งหีบบัตรเลือกตั้งถึงสถานที่

นับคะแนนของแต่ละเขตเลือกตั้ง  เพื่อเป็นมาตรการป้องปรามและใช้เป็นหลักฐานกรณีมีการทุจริตในการเลือกตั้ง  โดยให้คณะ

กรรมการการเลือกตั้งกำหนดรายละเอียดและมาตรการในการปฏิบัติที่ชัดเจน

                   3.  พรรคการเมืองและผู้สมัครรับเลือกตั้งแต่ละคน  มีสิทธิแต่งตั้งผู้เลือกตั้งเป็นผู้แทนพรรคการ

เมืองและผู้แทนผู้สมัครรับเลือกตั้ง  ประจำอยู่  ณ  ที่ซึ่งจัดไว้ในที่เลือกตั้งในวันเลือกตั้งได้แห่งละ  1  คน

         ร่างกฎหมายคณะกรรมการการเลือกตั้ง  

         ที่ประชุมมีข้อเสนอในประเด็นสำคัญที่ต่างจากร่างกฎหมายของ  สสร. ของรัฐบาลและของพรรคการเมืองดังนี้

         1.  ให้มีการจัดตั้งองค์กรหรือหน่วยงานของคณะกรรมการการเลือกตั้งในระดับจังหวัด

         2.  การแต่งตั้งอาสาสมัครของคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง  เพื่อทำหน้าที่สนับสนุนการมีส่วน

ร่วมในการเลือกตั้งของประชาชน  การให้การศึกษาด้านการเมือง  การปกครองในระบอบประชาธิปไตยแก่ประชาชน

         3.  ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นหน่วยงานอิสระ  ไม่สังกัดหน่วยงานใด  อยู่ในบังคับบัญชาของ

ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง  โดยไม่ต้องเปรียบเทียบว่าเป็นระดับกรมหรือกระทรวง  แต่ต้องมีอิสระในการดำเนินงาน

ทั้งด้านอำนาจหน้าที่  การบริหารงานบุคคลและการงบประมาณ

         ร่างกฎหมายพรรคการเมือง

         ที่ประชุมมีข้อเสนอในประเด็นสำคัญที่ต่างจากร่างกฎหมายของ  สสร.  ของรัฐบาลและของพรรคการเมืองคือ  

การจัดสรรเงินสนับสนุนรายปีให้แก่พรรคการเมือง  ให้จัดสรรตามจำนวนสมาชิกพรรคการเมืองของแต่ละพรรค



                                                                               ******************

































         



























โดย : 203.154.179.21 * [ วันที่ 2001-05-20 12:48:04 ]