รายละเอียด :
|
นักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ลงพื้นที่เพื่อรณรงค์การเลือกตั้งและสำรวจประชามติการเลือกตั้ง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผลปรากฏว่าประชาชนมีความกระตือรือร้นในการไปเลือกตั้ง แต่มีความรู้ทางการเมืองน้อย ปัญหาการซื้อเสียง
เป็นปัญหาที่ยุ่งยากและทวีความรุนแรง ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เต็มใจขายเสียง แต่การที่ยอมรับเงินเลือกพรรค เลือกบุคคล เพราะเกรง
กลัวอิทธิพลและหวังพึ่งในอนาคต
นายปิยะ กิจถาวร อาจารย์ประจำแผนกวิชารัฐศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ วิทยาเขตปัตตานี เปิดเผยว่า
เมื่อวันที่ 2 - 3 และ 9 พฤศจิกายน 2539 แผนกวิชารัฐศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ได้นำนักศึกษาจำนวน 80 คน
ออกสำรวจประชามติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งให้มากที่สุด
และเพื่อศึกษาเกี่ยวกับความคิดเห็นและพฤติกรรมการไปใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งของประชาชน โดยมีพื้นที่ปฏิบัติงานรวม 2 เทศบาล 6
สุขาภิบาล 2 อบต. และ 9 ตำบล รวม 19 แห่ง ใน 10 อำเภอของจังหวัดปัตตานี ได้แก่ อำเภอเมือง หนองจิก โคกโพธิ์ ยะรัง
มายอ ยะหริ่ง ปะนาเระ สายบุรี ทุ่งยางแดง และไม้แก่น ประชากรที่ทำการสัมภาษณ์ 2,408 คน สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
ชาวปัตตานีคิดอย่างไรกับการเลือกตั้ง ?
คนในชนบทตื่นตัวไปเลือกตั้งเพื่อส่งเสริมประชาธิปไตยมากกว่าคนในเขตเทศบาล แต่เลือกเป็นพรรคเหมือนกัน โดยมีเหตุผล
ว่าจะได้ทำงานเป็นทีมและไม่ทะเลาะกัน ผู้ที่ให้สัมภาษณ์ในเขตชนบทบอกว่าจะไปเลือกตั้งถึงร้อยละ 94.14 และจะเลือกเป็นพรรคร้อยละ
80.17 ส่วนในเขตเทศบาลจะไปเลือกตั้งร้อยละ 88.67 และเลือกเป็นพรรคร้อยละ 80.13
จะแก้ปัญหาการซื้อเสียงอย่างไร ?
คนในเมืองเชื่อว่ามีการซื้อเสียงถึงร้อยละ 64.43 คนในชนบทเชื่อว่ามีการซื้อเสียงเพียงร้อยละ 51.24 แต่ส่วนใหญ่มีข้อเสนอ
ในการแก้ไขปัญหาการซื้อเสียงเหมือนกันคือ แก้โดยการให้ความรู้ทางการเมืองกับประชาชนให้มากขึ้น
ปัญหาเร่งด่วนสำหรับรัฐบาลใหม่คืออะไร ?
ปัญหาของแพง ซึ่งคนปัตตานีทั้งในเมืองและในชนบทเห็นว่า เป็นปัญหาสำคัญเร่งด่วนถึงร้อยละ 49.79 และร้อยละ 48.09
คนปัตตานีคิดอย่างไรกับ ส.ส. ?
ในชนบทบอกว่า ส.ส. เคยมีผลงานแก้ปัญหาให้ร้อยละ 38.87 เช่น ถนน สะพาน ราคาพืชเกษตร มาถามทุกข์สุข บอกว่าไม่
เคยมีผลงาน ร้อยละ 59.73
ในเขตเทศบาลบอกว่า ส.ส. มีผลงานร้อยละ 34.92 เช่น ถนน การศึกษา ราคายาง ศูนย์บำบัดยาเสพติด เห็นว่าไม่เคยมีผลงาน
ร้อยละ 61.79
ด้านการศึกษากับการไปเลือกตั้งเป็นอย่างไร ?
จากการสำรวจพบว่าคนที่ไม่ได้เรียนหนังสือในเขตเทศบาลตื่นตัว จะไปเลือกตั้งถึงร้อยละ 91.78 แต่คนที่ไม่ได้เรียนหนังสือใน
เขตเมือง จะไปเลือกตั้งร้อยละ 72.50
คนที่นับถือศาสนาต่างกันคิดอย่างไรกับการเลือกตั้ง ?
พบว่าทั้งในเขตชนบทและในเขตเทศบาล คนไทยมุสลิมตื่นตัวที่จะไปเลือกตั้งถึงร้อยละ 95.16 และ 90.25 แต่คนไทยพุทธ
ในเขตชนบทและในเขตเทศบาลจะไปเลือกตั้งร้อยละ 92.01 และ 87.42
ทัศนะของนักศึกษาต่อการเลือกตั้ง ส.ส. จังหวัดปัตตานี เป็นอย่างไร ?
จากการสำรวจประชามติ นักศึกษามีความเห็นว่าประชาชนมีความกระตือรือร้นในการไปเลือกตั้ง แต่มีความรู้ทางการเมืองน้อย
ในขณะที่มีความตื่นตัว ให้ความสำคัญต่อการรับฟังข่าวสาร เหตุการณ์บ้านเมือง หากได้มีการเผยแพร่ความรู้ทางการเมืองแก่ประชาชนอย่าง
จริงจัง การพัฒนาประชาธิปไตยก็จะง่ายขึ้น
การซื้อเสียง เป็นปัญหาที่ยุ่งยากต่อการแก้ไขและทวีความรุนแรงมากขึ้น เชื่อได้ว่ามีการซื้อเสียงปรากฏในทุกพื้นที่ ประชาชน
ส่วนใหญ่ไม่มีใครเต็มใจขายเสียง แต่การที่ประชาชนยินยอมรับเงิน เลือกพรรค เลือกบุคคลที่ให้เงินให้สิ่งของ เพราะเกรงกลัวอิทธิพลและ
หวังพึ่งในอนาคต
****************
|