รายละเอียด :
|
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มีความภาคภูมิใจที่จะนำ "ศรีตรังช่องาม" หรือศิษย์เก่าบางท่านที่
ประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพและดำเนินชีวิต มาแนะนำให้ท่านผู้อ่านรู้จัก ตลอดจนเพื่อสร้างความภาคภูมิใจให้เกิดขึ้นกับ
นักศึกษาปัจจุบันของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ให้มากยิ่งขึ้นด้วย
- ผศ. ประพันธ์ วิเศษรัฐกรรม คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต
ปัตตานี อายุ 48 ปี ภูมิลำเนาเดิม จังหวัดสงขลา
ศึกษาในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ปีการศึกษา 2511 - 2514 ในคณะศึกษาศาสตร์ วิชาเอก
ภาษาไทย
การศึกษาภายหลังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ศศ.ม. (การสอนภาษาไทย) มหาวิทยาลัยเกษตร-
ศาสตร์ (พ.ศ. 2521)
สถานที่ทำงานปัจจุบัน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
ที่อยู่ปัจจุบัน บ้านพักอาจารย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
ความประทับใจหรือความภูมิใจที่ได้รับราชการในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ภูมิใจที่ได้รับเป็นลูกสมเด็จพระราชบิดา ดีใจที่ได้มารับราชการในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งเป็นสถานศึกษา
ที่สำเร็จการศึกษาและเต็มใจที่ได้ดำรงตำแหน่งคณบดีคนที่ 3 ของคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
ข้อคิด / คำแนะนำต่อการพัฒนามหาวิทยาลัยฯ ในอนาคต
1. เป้าหมายแรก มหาวิทยาลัยต้องมีระบบการประเมินคุณภาพในการดำเนินงานและพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพ
อย่างเป็นระบบ
2. ต้องวางแผนในการพัฒนาคนให้มีจิตสำนึกในการปฏิบัติหน้าที่ และส่งเสริมให้มีการพัฒนาความรู้และประสบ-
การณ์ในการทำงานให้เต็มความสามารถอย่างแท้จริง อยากจะเห็นการบริหารงานของมหาวิทยาลัยที่มีทั้งหลักการ วิธีการ และ
คุณธรรมควบคู่กันไป
- นางสาวขวัญใจ ธรรมพิงค์ เลขานุการ ห้างหุ้นส่วนจำกัดชุณห์เอ็นจิเนียริ่ง กรุงเทพฯ อายุ 30 ปี ภูมิลำเนา
เดิม จังหวัดเชียงใหม่
ศึกษาในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ปีการศึกษา 2526 - 2529 ในคณะมนุษยศาสตร์และ
สังคมศาสตร์ วิชาเอกภาษาและวรรณคดีไทย
การศึกษา / ฝึกอบรมภายหลังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หลักสูตรภาษาอังกฤษ สถาบันสอน
ภาษา เอ.ยู.เอ., หลักสูตรเลขานุการ โรงเรียนเลขานุการ วาย.ดับบลิว.ซี.เอ.
สถานที่ทำงานปัจจุบัน
1. ห้างหุ้นส่วนจำกัดชุณห์เอ็นจิเนียริ่ง 199/66 ถ.วิภาวดี - รังสิต สามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ 10400
2. สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เอฟ. เอ็ม. 93.5 เมกกะเฮิร์ส สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง
11 กรมประชาสัมพันธ์
ที่อยู่ปัจจุบัน พงศ์ทาวเวอร์อพาร์ทเมนท์ เลขที่ 49 ซอยอินทามระ 29 ถ.สุทธิสาน กรุงเทพฯ 10400
ความประทับใจและความภูมิใจต่อการได้มาศึกษา ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
1. สถานที่ บรรยากาศ และชีวิตที่เรียบง่ายของมหาวิทยาลัยภูธร
2. การส่งเสริมและสนับสนุนให้นักศึกษาแสดงออกและเข้าร่วมในกิจกรรม
3. ความเป็นกันเองของอาจารย์และเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยที่มีต่อนักศึกษา
ข้อคิด อยากให้มหาวิทยาลัยมีบทบาทที่เด่นชัดและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในการเป็นศูนย์กลางการพัฒนาภาคใต้
ตอนล่างในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะการศึกษา อาชีพ ศิลปวัฒนธรรม กีฬา เทคโนโลยี และความสัมพันธ์ของคนในท้องถิ่น
- นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง พรรคประชาธิปัตย์
ศึกษาในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ปีการศึกษา 2522 - 2525 ในคณะมนุษยศาสตร์และ
สังคมศาสตร์ วิชาเอกสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา
การศึกษา / ฝึกอบรมภายหลังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ศึกษาต่อระดับมหาบัณฑิตในสาขา
รัฐประศาสนศาสตร์ เกียรตินิยมดีมาก สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) จบการศึกษาปีการศึกษา 2537
สถานที่ทำงานปัจจุบัน
1. สภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพฯ
2. (ผู้ได้รับอนุญาต) โรงเรียนวิวัฒน์วิทยา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง
สถานที่ติดต่อ
1. โรงเรียนวิวัฒน์วิทยา 49 ถ.เทศบาล 5 อ.ห้วยยอด จ.ตรัง
2. พรรคประชาธิปัตย์ 67 ถ.เศรษฐศิริ สามเสน พญาไท กรุงเทพฯ 10400
ความประทับใจใน ม.อ. ปัตตานี
"ผมภูมิใจที่ได้บอกใครต่อใครว่าผมจบจาก ม.อ. ปัตตานี ตั้งแต่สมัยที่เพิ่งจบการศึกษาใหม่ ๆ แล้ว เพราะ
ม.อ. ปัตตานี เป็นมหาวิทยาลัยที่สร้างผมจากเด็กมัธยมที่อยู่ภายใต้การดูแลของครอบครัวอย่างเข้มงวด มาสู่การต้องดูแล
ตัวเองในการเรียนระดับมหาวิทยาลัย
ม.อ.ปัตตานี ทำให้ผมเปลี่ยนจากการเป็นวัยรุ่นสู่ภาวะแห่งความเป็นผู้ใหญ่ เพื่อน ๆ หลายคนที่เรียนร่วมรุ่น
เราคิดกันอย่างนี้ ในช่วงปี 2522 นั้น จริง ๆ แล้วข่าวคราวของปัตตานีค่อนข้างน่ากลัวในสายตาและการรับรู้ของคนโดย
ทั่วไป แต่ผมและเพื่อนที่สอบเรียนได้ เราอยากไป (ทั้งที่ใจก็กังวล) แต่ ณ ย่างก้าวแรกที่ ม.อ. ปัตตานี เรารู้สึกชอบทันที
ทั้งบรรยากาศสวยงามร่มรื่น ริมทะเล และที่สำคัญการต้อนรับจากรุ่นพี่และอาจารย์
เมื่อเริ่มใช้ชีวิตที่ ม.อ. ปัตตานี สิ่งแรกที่พวกเราเผชิญในตอนนั้นคือ "การปรับตัว" แต่โชคดีที่ ม.อ. ปัตตานี
เป็นมหาวิทยาลัยขนาดไม่ใหญ่มาก มีนักศึกษาในช่วงนั้นประมาณ 2,000 คน ดูเหมือนเราทุกคนรู้จักกันหมด เป็นพี่เป็นน้อง
อาจารย์ทุกคนสนิทสนมกับนักศึกษา กิจกรรมต่าง ๆ ที่นี่เหมือนกิจกรรมในครอบครัวที่มีผู้ใหญ่มีพี่มีน้องมาร่วมกิจกรรม
ตรงนี้เองที่ผมภูมิใจ เรามาเป็นผู้ใหญ่ที่ ม.อ. ตานี เพราะกิจกรรมต่าง ๆ นั้น แท้จริงแล้วเป็นการสอนเราโดยตรงถึงการใช้
ชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคม และผมมาเห็นจริงก็เมื่อออกมาใช้ชีวิตนอกรั้วมหาวิทยาลัยแล้วว่า ม.อ. ปัตตานี ให้ผมมากเพียงใด
ปัจจุบันเมื่อมีโอกาสผมจะกลับไป ม.อ. ปัตตานี เสมอไปกราบพระบิดาของเรา ไปอยู่ใต้เงาสนที่ร่มรื่น ไปพบ
เพื่อน (บางคน) พบอาจารย์ และบรรยากาศที่เราคุ้นเคยจนเสมือนบ้านที่ผมที่อยู่มาถึง 4 ปี ข่าวคราวทาง ม.อ. ปัตตานี
เป็นข่าวที่ผมติดตามเสมอจนกระทั่งปัจจุบัน"
ข้อคิด / คำแนะนำต่อการพัฒนามหาวิทยาลัยในอนาคต
เข้าใจว่าทางมหาวิทยาลัยและทางทบวงฯ เองคงมีแผนพัฒนาอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามขออนุญาตเสนอแนวคิด
ใน 2 ประเด็นหลัก ๆ เป็นแนวทางกว้าง ๆ เพื่อพิจารณาคือ
1. ด้านคุณสมบัติที่คาดหวังของผู้เรียน ประเด็นนี้มุ่งพิจารณาไปที่การเตรียมผู้เรียนไปใช้ชีวิตการทำงานภาย
นอกมหาวิทยาลัย ซึ่งควรมีการกำหนดคุณสมบัติที่คาดหวังไว้ โดยการศึกษาถึงสภาพที่ผู้เรียนต้องเผชิญเมื่อต้องเข้าสู่อาชีพ
หลังจบการศึกษาว่า ต้องพบสภาวะการณ์อย่างไร ต้องปรับตัว ตลอดจนพบปัญหาอุปสรรคใด เพื่อนำผลการศึกษามาสรุปสู่
การกำหนดคุณสมบัติที่คาดหวัง และนำไปสู่การกำหนดเป็นกิจกรรมเสริมหรือเนื้อหาหลักสูตรต่อไป
คาดหวังว่าในประเด็นนี้มหาวิทยาลัยน่าจะเป็นหน่วยจัดทำด้วยตนเอง โดยการขอข้อมูลจากบัณฑิตที่จบการ
ศึกษาไปแล้วและมีการปรับปรุงเนื้อหากิจกรรมเพื่อการนี้ให้ทันสมัย สอดคล้องกับสภาวะการณ์ ซึ่งอาจนำไปสู่การกำหนด
เป็นวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยต่อไปในอนาคต
2. ด้านความสัมพันธ์กับชุมชน ประเด็นนี้มุ่งพิจารณาไปที่บทบาทการพัฒนาของมหาวิทยาลัยต่อชุมชนใน
เขตใกล้เคียงมหาวิทยาลัย ซึ่งมีความคิดเห็นว่าน่าจะมีความสัมพันธ์กันในบทบาทของการพัฒนาชุมชน โดยใช้กลไกของ
มหาวิทยาลัยเช่น อาจารย์หรือนักศึกษา โดยเป็นการศึกษาวิจัยในสาขาต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชน แต่ต้องเป็นการนำ
ผลงานวิจัยนั้นเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีการประชาสัมพันธ์ให้ชุมชนทราบ ตลอดจนการเน้นบทบาทการพัฒนาของ
มหาวิทยาลัยต่อชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัย ซึ่งในอดีตนั้นนักศึกษาและอาจารย์ค่อนข้างมีความห่างเหินกับชุมชน โดยอาจ
มีกิจกรรมสัมพันธ์เป็นระยะ ๆ ผ่านกิจกรรมนักศึกษา เป็นต้น
ผมเชื่อว่าหากมีการพิจารณาในประเด็น 2 ประเด็นนี้ และมีความจริงจังในการนำไปสู่การกำหนดแนวปฏิบัติ
แล้ว จะมีข้อดีอย่างน้อย 2 ประการคือ
1. มหาวิทยาลัยจะผลิตบัณฑิตที่นอกเหนือจากมีความรู้ตามสาขาที่ศึกษาแล้ว จะมีความสามารถในการใช้ชีวิต
การทำงานร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข มีสำนึกในการพัฒนาตนเองและสังคม รู้จักแก้ปัญหาอย่างมีความคิดสร้าง
สรรค์และมีวิสัยทัศน์
2. มหาวิทยาลัยจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับชุมชนและต่างเกื้อหนุนต่อกันในเชิงการพัฒนา โดยชุมชนจะได้รับ
ข้อมูลจากการศึกษาวิจัยที่เน้นการพัฒนาชุมชน ผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเป็นที่รับทราบโดยสาธารณะ ในทางกลับกัน
มหาวิทยาลัยจะได้รับความร่วมมือจากชุมชนอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะเป็นแนวโน้มที่ดีในการมุ่งไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยของ
ประชาชนที่ต่างศึกษาตอบโต้ซึ่งกันและกัน โดยมีมหาวิทยาลัยเป็นศูนย์กลางในอนาคตต่อไป
- รองศาสตราจารย์เสาวภา อังสุภานิช คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อายุ 41 ปี
ภูมิลำเนาเดิม จังหวัดสตูล
ศึกษาในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ปีการศึกษา 2516 - 2519 ในคณะศึกษาศาสตร์
วิชาเอกชีววิทยา
การศึกษา / ฝึกอบรมภายหลังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ปีการศึกษา 2521 - 2524 ศึกษาระดับปริญญาโท สาขาชีววิทยาทางทะเลในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปีการศึกษา 2529 - 2532 ศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมทางน้ำ ใน Kochi
University ประเทศญี่ปุ่น
สถานที่ทำงานปัจจุบัน ภาควิชาวาริชศาสตร์ คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
วิทยาเขตหาดใหญ่
ที่อยู่ปัจจุบัน แฟลตในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่
ความประทับใจหรือความภูมิใจที่ได้มาศึกษา ณ ม.อ. ปัตตานี
ภูมิใจที่ได้เข้ามาอยู่ในรั้วศรีตรัง สังคมที่นั่นในสมัยนั้นมีความอบอุ่น อยู่ด้วยกันเหมือนพี่เหมือนน้อง ท่าน
อาจารย์ก็น่ารักและทุ่มเทเพื่อส่วนรวม ข้าพเจ้าเชื่อว่าบรรยากาศเช่นนี้มีความสำคัญต่อนักศึกษาระดับปริญญาตรีมาก เพราะ
อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อจากเด็กไปสู่ผู้ใหญ่ เมื่อพื้นฐานจิตใจดี มีความรับผิดชอบ การพัฒนาต่อไปก็ไม่ยาก ความสำเร็จ
ของข้าพเจ้า แน่นอนส่วนหนึ่งได้จากการซึมซับแบบอย่างจากรั้วศรีตรัง
ข้อคิด / คำแนะนำต่อการพัฒนามหาวิทยาลัยในอนาคต
ควรร่วมแรงกันพัฒนาสิ่งที่ได้ก่อตั้งขึ้นแล้ว ให้มีประสิทธิภาพและมีชื่อเสียงจนเป็นที่ยอมรับ การลงมือทำ
สิ่งใหม่ที่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ ต้องระมัดระวังอย่าให้กระทบกระเทือนงานเดิมที่ต้องดำรงไว้อย่างมีมาตรฐาน
- นายอดิศัย รุ่งวิชานิวัฒน์ หัวหน้าภาควิชาเทคโนโลยียางและพอลิเมอร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อายุ 28 ปี ภูมิลำเนาเดิม อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
ศึกษาในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ปีการศึกษา 2528 - 2532 ในคณะวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี วิชาเอกเทคโนโลยียาง
การศึกษา / ฝึกอบรมภายหลังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ปี 2538 สำเร็จการศึกษาระดับ Ph.D. (Polymer of Technology) จาก Loughborough
University of Technology, Leicestershire, England
สถานที่ทำงานปัจจุบัน ภาควิชาเทคโนโลยียางและพอลิเมอร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัย
สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
ที่อยู่ปัจจุบัน 181/277 แฟลต 7 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
ความประทับใจหรือความภูมิใจที่ได้มาศึกษา ณ ม.อ. ปัตตานี
ม.อ. ปัตตานี เป็นแหล่งที่ให้ความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว โดยเฉพาะกับสังคมและเศรษฐกิจของภาคใต้
(ยางพารา การประมง การพัฒนาชุมชน อิสลามศึกษา เป็นต้น) ซึ่งเป็นผลกระทบต่อคนในท้องถิ่นอย่างแท้จริง
ข้อคิด / คำแนะนำต่อการพัฒนามหาวิทยาลัยในอนาคต
เนื่องจากมหาวิทยาลัยอยู่ไกลจากส่วนกลางมาก ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องสนับสนุน พัฒนา ปรับปรุง
ให้บุคลากรมีความก้าวหน้าด้านอาชีพการงานและให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ต่อการเรียนการสอน การค้นคว้าและ
ชีวิตความเป็นอยู่มากขึ้น เพื่อดึงดูดให้อาจารย์ นักวิชาการ มาชุมนุมร่วมกันแล้วก่อให้เกิดเป็นแหล่งวิชาการขึ้น จึงจะนำ
มหาวิทยาลัยไปสู่ความเป็นหนึ่งและเป็นสากล
*****************
|