นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมกับหน่วยงานทั้งภายในและต่างประเทศ ฝึกทักษะการทำวิจัย
ทางสมุทรศาสตร์และศึกษาการเปลี่ยนแปลงของอ่าวปัตตานี จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง อิทธิพลของอ่าวปัตตานีต่ออ่าว
ไทยตอนล่างทางด้านกายภาพ เคมี และชีวภาพ ระหว่างวันที่ 15 - 31 มีนาคม 2538
รายงานข่าวจากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี แจ้งว่าคณะ
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ คณะวิทยาศาสตร์ และสำนักวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลา
นครินทร์ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลแห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ กองกำกับการตำรวจน้ำปัตตานี ศูนย์ศึกษาและการพัฒนา
พิกุลทอง จังหวัดนราธิวาส และกรมวิชาการเกษตร กำหนดจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง อิทธิพลของอ่าวปัตตานีต่ออ่าวไทย
ตอนล่างทางด้านกายภาพ เคมี และชีวภาพ ในวันที่ 15 - 31 มีนาคม 2538 เน้นการปฏิบัติการภาคสนามในอ่าวไทยตอน
ล่าง ซึ่งรับผิดชอบโดยโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมอ่าวปัตตานี ซึ่งมีนายนุกุล รัตนดากุล อาจารย์คณะวิทยา-
ศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นหัวหน้าโครงการ
นายนุกูล รัตนดากุล หัวหน้าโครงการฯ ชี้แจงว่าอ่าวปัตตานีเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่สำคัญ 1 ใน 4 ของพื้นที่ชุ่มน้ำ
ที่สำคัญของทวีปเอเซียที่มีความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศวิทยา และจากการที่อ่าวปัตตานี
ไม่ได้มีความหมายเฉพาะพื้นที่ในส่วนที่เป็นส่วนของตัวอ่าวเท่านั้น แต่จะรวมไปถึงพื้นที่ข้างเคียงที่สัมพันธ์กันด้วย เพราะการ
เปลี่ยนแปลงและปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในอ่าว จะเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงและปรากฏการณ์ที่เกิดจากพื้นที่ข้างเคียง ดังนั้น
การอธิบายหรือทำความเข้าใจระบบนิเวศของอ่าวปัตตานี จึงจำเป็นต้องเข้าใจระบบนิเวศของพื้นที่ข้างเคียงด้วย ไม่ว่าจะเป็น
เรื่องของระบบกระแสน้ำ การเปลี่ยนแปลงความเค็ม การแพร่กระจายของตะกอน อัตราการผลิตทางชีวภาพ การวิเคราะห์หา
ชนิดและปริมาณของโลหะหนัก เป็นต้น
การประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง อิทธิพลของอ่าวปัตตานีต่ออ่าวไทยตอนล่างทางด้านกายภาพ เคมี และชีวภาพนี้
จะเน้นขบวนการวิจัยทางสมุทรศาสตร์ โดยแบ่งการปฏิบัติออกเป็น 2 ส่วนคือ การปฏิบัติการภาคสนาม ทำการเก็บตัวอย่างน้ำ
ตะกอน สิ่งมีชีวิตและวัดข้อมูลในพื้นที่ และการปฏิบัติการในห้องทดลอง ทั้งนี้การปฏิบัติการภาคสนามได้รับความร่วมมือจาก
กองกำกับการตำรวจน้ำปัตตานี ในการให้ความอนุเคราะห์เรือในการออกสำรวจเก็บตัวอย่างตามแนวสำรวจแรกระหว่างอ่าว
ปัตตานีถึงบริเวณส่วนลึกสุดกลางอ่าวไทยตอนล่าง และแนวที่สองขนานกับแนวแรกระหว่างทะเลสาบสงขลาถึงบริเวณลึกสุด
กลางอ่าวไทยตอนล่างเช่นเดียวกัน
*******************
|