นักวิจัยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี พบวิธีการทำยางธรรมชาติให้มีคุณสมบัติทนไฟ
ได้สำเร็จเป็นสถาบันแรกของไทย โดยนำไปสู่การประยุกต์ใช้เป็นผลิตภัณฑ์ทนไฟจากยาง
ดร. แวอาแซ แวหามะ อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
วิทยาเขตปัตตานี และผู้วิจัยเรื่องยางทนไฟ เปิดเผยว่าในฐานะที่ประเทศไทยผลิตยางธรรมชาติได้มากเป็นอันดับ 1
ของโลก จึงเป็นการสมควรอย่างยิ่งในการใช้วัตถุดิบที่มีอยู่มาแปรสภาพให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีราคาสูงขึ้น ซึ่งคุณสมบัติ
ทั่วไปของยางธรรมชาติจะติดไฟได้ง่าย จึงได้ทำการศึกษาเรื่องยางทนไฟ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหาสูตรยางและ
พัฒนาวัสดุ ซึ่งเป็นยางธรรมชาติและติดไฟได้ง่ายให้มีคุณสมบัติทนไฟมากที่สุด ทั้งนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้เป็นผลิต
ภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ยางปูโต๊ะ หรือแผ่นยางมุงหลังคา โดยได้รับทุนวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัย
สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และสภาวิจัยแห่งชาติ
ยางธรรมชาติเป็นวัสดุยางที่มีคุณสมบัติติดไฟได้ง่ายและไม่สามารถดับไฟได้เอง นับว่าเป็นวัสดุที่ไม่เหมาะ
จะนำไปใช้เป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับงานที่อาจจะเป็นชนวนในการติดไฟ จากผลการวิจัยเรื่องยางทนไฟ พบว่าสามารถที่จะ
ปรับปรุงคุณสมบัติของยางธรรมชาติให้ทนไฟได้ โดยการผสมยางคลอโรพรีน 20 ส่วน (phr) ขึ้นไป ในวัสดุยางทั้ง
หมด 100 ส่วน และใส่สารแอนติโมนีไตรออกไซด์ 15 ส่วน (phr) พร้อมกับสารตัวเติมอื่น ๆ ที่จำเป็น จะให้คุณ
สมบัติของยางธรรมชาติในการทนไฟได้ดีที่สุด ซึ่งวัสดุยางที่ได้เมื่อติดไฟจะสามารถดับไฟได้เองในเวลา 60 วินาที
ผู้วิจัยเรื่องยางทนไฟได้กล่าวสรุปว่า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เป็นสถาบันแรกของ
ไทยที่ได้มีการศึกษาวิจัยและค้นพบสูตรยางทนไฟ ทั้งนี้สามารถนำไปประยุกต์แปรสภาพเป็นยางปูโต๊ะและยางมุงหลังคา
ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติทนไฟ ราคาถูก และใช้เวลาในการผลิตน้อย อีกทั้งยางมุงหลังคามีข้อดีเช่น ไม่แตกหักเมื่อ
ถูกของแข็งตกกระทบ มีน้ำหนักเบากว่ากระเบื้องที่ใช้อยู่ ในการแปรรูปสามารถใส่สีได้ตามต้องการและสามารถเปลี่ยนแบบ
ของยางมุงหลังคา โดยการเปลี่ยนแบบของเบ้าที่ใช้ในการผลิตได้
***************
|