: : : รายละเอียดข่าว : : :

ข่าว ปีที่ :ข่าวปีที่ 7 ฉบับที่ 04 ประจำเดือน 04 2537
หัวข้อข่าว : มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี วิจัยพบแหล่งกรดฮิวมิกบริเวณพื้นที่พรุ จังหวัดนราธิวาส
รายละเอียด :
                    นักวิจัยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  พบแหล่งกรดฮิวมิกในดินบริเวณพื้นที่พรุ  จังหวัดนราธิวาส  สามารถ

นำไปผลิตเป็นสารปรับปรุงดิน  เพื่อใช้ประโยชนทางการเกษตรกรรมและเป็นสารดูดซับโลหะหนักบางตัวที่เป็นพิษในสิ่งแวดล้อมได้

         การสำรวจแหล่งวัตถุดิบภายในประเทศ  เพื่อนำไปผลิตสารปรับปรุงดินใช้ประโยชน์ทางการเกษตรและอุตสาหกรรมเป็นสิ่ง

จำเป็นสำหรับประเทศไทย  เนื่องจากในแต่ละปีต้องนำเข้าวัตถุดิบมาใช้ในประเทศเป็นจำนวนมาก  ประกอบกับประเทศไทยเป็นเมืองเกษตร

กรรม  ได้มีการใช้ดินเพื่อการเกษตรมาเป็นระยะเวลานานโดยขาดการบำรุงดิน  ซึ่งมีผลทำให้ดินเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว  นอกจากนั้นยังมีพื้นที่

คุณภาพต่ำอีกจำนวนมากที่จำเป็นต้องปรับปรุงเพื่อใช้ในการเกษตร

         รายงานข่าวจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  แจ้งว่านักวิจัยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  

ได้ทำการศึกษาแหล่งวัตถุดิบกรดฮิวมิก  โดยสำรวจและวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการเพื่อหาปริมาณกรดฮิวมิกในดินบริเวณพื้นที่พรุ  จังหวัด

นราธิวาส  จำนวน  5  ชุด  ได้แก่  ดินระแงะ  ดินมูโน๊ะ  ดินนราธิวาส  1  ดินนราธิวาส  2  และดินกาบแดง  โดยทำการศึกษาตั้งแต่ระดับผิว

ดินลงไปจนถึงความลึกประมาณ  100 - 200  เซนติเมตร

         ผศ. ดร.ครองชัย  หัตถา  อาจารย์ภาควิชาภูมิศาสตร์  คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  

วิทยาเขตปัตตานี  ผู้วิจัยเรื่อง  การสำรวจปริมาณกรดฮิวมิกในดินบริเวณพื้นที่พรุ  จังหวัดนราธิวาส  เปิดเผยว่าจากการสำรวจปริมาณกรด

ฮิวมิกพบว่า  ดินพรุแต่ละบริเวณที่ศึกษามีความแตกต่างของปริมาณกรดฮิวมิก  ผลสรุปปรากฏว่าดินนราธิวาสทั้ง  2  บริเวณที่ศึกษาและ

ดินกาบแดง  เป็นดินที่สามารถสกัดกรดฮิวมิกได้ในปริมาณสูง  จึงเป็นแหล่งวัตถุดิบที่สำคัญในการผลิตกรดฮิวมิกเชิงอุตสาหกรรม  เพื่อใช้

ประโยชน์ในด้านเกษตรและสิ่งแวดล้อม  การใช้กรดฮิวมิกเป็นสารบำรุงดินนั้น  ปรากฏว่าได้มีการใช้อย่างได้ผลมาแล้วทั้งต่างประเทศและ

ในประเทศ  สามารถเพิ่มผลผลิตข้าวจ้าว  ข้าวหอมบาสมาตี  ยาสูบ  กาแฟ  ส้ม  พริก  และอื่น  ๆ  กรดฮิวมิกมีคุณสมบัติในการแลกเปลี่ยน

ประจุสูง  ซึ่งเป็นผลให้สามารถดูดซับธาตุอาหารต่าง  ๆ  ที่เป็นประโยชน์ต่อพืชและป้องกันการชะล้างธาตุอาหารออกไปจากดินได้เป็นอย่างดี  

นอกจากนั้นยังมีส่วนสำคัญในการกักเก็บและปลดปล่อยความชื้นในดินอย่างสม่ำเสมอ  โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้งที่ดินขาดความชื้น

         ประเทศไทยได้นำเข้ากรดฮิวมิกจากต่างประเทศในรูปของสารปรับปรุงดินภาคใต้  ชื่อการค้าเป็นฮิวมิกา  เฟสติโฟล  วิกริโฟล  

ฯลฯ  จากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนและสหรัฐอเมริกา  มาร่วม  10  ปีแล้ว  ดังนั้นหากได้เร่งระดมสำรวจแหล่งวัตถุดิบภายในประเทศ

และพัฒนาการผลิตเชิงอุตสาหกรรมแล้ว  จะสามารถลดการนำเข้าได้เป็นอย่างมาก  นอกจากแหล่งวัตถุดิบประเภทดินพรุแล้ว  ยังสามารถ

สกัดกรดฮิวมิกได้จากถ่านหิน  เศษซากพืช  และมูลสัตว์  เป็นต้น  ในการศึกษาดังกล่าวยังพบว่าน้ำจากพรุที่ระลายทิ้งลงทะเล  มีปริมาณสาร

กรดฮิวมิกปะปนอยู่เป็นจำนวนมาก  ประเทศไทยมีพื้นที่พรุประมาณ  400,000  ไร่  เฉพาะจังหวัดนราธิวาสมีพรุประมาณ  280,000  ไร่  

จึงนับว่าเป็นแหล่งวัตถุดิบที่สำคัญควรที่จะศึกษาวิจัย  เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมในการใช้ประโยชน์จากพรุให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเกิด

ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด  ผศ. ดร. ครองชัย  หัตถา  นักวิจัยกล่าวสรุป



                                                                                              ****************

โดย : 203.154.179.21 * [ วันที่ 2001-05-04 13:59:27 ]