อธิการบดีสั่งทุกวิทยาเขตยุติการรับน้องใหม่ และในขณะเดียวกันที่วิทยาเขตปัตตานีได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการ
สอบหาข้อเท็จจริง กรณีการรับน้องใหม่ที่ดูไม่สุภาพและมีผู้นำภาพเผยแพร่ทางสื่อมวลชน ทั้งขอความเห็นใจจากผู้เกี่ยวข้อง
ให้ดูเจตนาโดยภาพรวมของการร้บน้องใหม่
ผศ. ประพันธ์ วิเศษรัฐกรรม รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เปิดเผยว่าในความ
เป็นจริงแล้ว ปีนี้เป็นที่มหาวิทยาลัยได้ปรับปรุงการรับน้องใหม่ให้ดีที่สุดกว่าทุกปี ภาพรวมของกิจกรรมประกอบด้วยการแข่งขัน
กีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ การพัฒนามหาวิทยาลัยและสิ่งแวดล้อมในชุมชน กิจกรรมทางศาสนาและประเพณีประจำท้องถิ่น การ
บายศรีสู่ขวัญ หรือแม้แต่การประชุมเชียร์ ก็ล้วนมีวัตถุประสงค์ให้เกิดความรัก ความอบอุ่น และทุกกิจกรรมต้องตั้งอยู่บนพื้นฐาน
ของความปลอดภัย ไม่ใช้ความรุนแรง และเคารพในสิทธิมนุษยชน แต่ผลกลับออกมาตรงข้าม มีภาพนักศึกษารับน้องแบบไม่
สุภาพ ให้รุ่นน้องกินกล้วยไข่ที่ตั้งอยู่บนหน้าท้องของรุ่นน้องอีกคนหนึ่ง ออกเผยแพร่ทางสื่อมวลชน
รองอธิการบดีวิทยาเขตปัตตานี ชี้แจงว่า "มหาวิทยาลัยไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้น เพื่อสอบ
ว่าเกิดเหตุการณ์ขึ้นได้อย่างไรและว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นภาพเพียงนิดเดียว แต่ทำให้เกิดความเสียหายต่อมหาวิทยาลัยและภาพเหตุ
การณ์นี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ ก็ยังไม่ทราบ ในขณะที่ภาพรวมของการรับน้องใหม่เป็นภาพที่ดี เหมือนกับเรามองภาพผู้หญิงสวย
แต่กลับไปตำหนิเขาตรงที่มีขี้แมลงวันบนปลายจมูกนิดเดียว มันก็ดูเป็นการไม่ยุติธรรม ผมจึงอยากให้ทุกฝ่ายให้ความยุติธรรมกับ
มหาวิทยาลัยด้วย และใคร่ขอความร่วมมือจากผู้ปกครองและนักศึกษาที่มีข้อมูลเรื่องนี้ได้ให้รายละเอียดแก่มหาวิทยาลัย เพื่อให้
เกิดความกระจ่างและเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งนักศึกษาและบุคลากรมหาวิทยาลัยทุกคน จะต้องร่วมกันรับผิดชอบซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องของ
การแก้ตัว แต่เป็นการแก้ปัญหาและจะต้องหาแนวทางให้ชัด"
ทางด้านนายปัญญ์ ยวนแหล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษ และประธานกรรมการสอบสวนการรับน้องใหม่
กล่าวว่าขณะนี้ท่านอธิการบดีได้สั่งยกเลิกการรับน้องใหม่แล้ว ส่วนการสอบถามนักศึกษาทั่วไป ส่วนใหญ่จะบอกว่าเหตุการณ์
ดังกล่าวเป็นเรื่องไร้สาระ นักศึกษาทุกคนต่างมีความสุขและสนุกสนานกับกิจกรรมการรับน้องใหม่ ส่วนภาพที่เผยแพร่ทางสื่อ
มวลชน อาจจะเป็นเพียงความทะลึ่งของนักศึกษาบางคนที่กระทำลงไป โดยไม่ได้คิดว่ามันจะดูเป็นอนาจาร ทะลึ่งหรือสัปดน
หรือดูเป็นการกดขี่ข่มเหง และคนที่ถ่ายภาพและส่งไปเผยแพร่สู่สาธารณะ ก็อาจต้องการดิสเครดิตมหาวิทยาลัยฯ ต้องการให้
คนเห็นว่าสังคมที่นี่คงจะลามก หรือที่นี่รุ่นพี่คงจะรังแกรุ่นน้อง ซึ่งมหาวิทยาลัยฯ ก็รู้สึกเสียใจที่บางคนมองอย่างนั้น
ส่วนเรื่องการลงโทษนักศึกษานั้น หากมองว่าเขาไม่ได้มีเจตนาอนาจาร เพียงแต่กระทำไปเพราะความสนุกสนาน
หรือทะลึ่งในหมู่พี่ ๆ น้อง ๆ และหากไม่ได้เป็นการกดขี่ข่มเหงรุ่นน้อง ก็น่าจะพิจารณาว่าควรลงโทษขั้นไหน แต่คนที่ถ่ายภาพ
และนำไปเผยแพร่ก็อาจถูกมองได้ว่า ไม่หวังดีค่อมหาวิทยาลัยต้องการดิสเครดิตมหาวิทยาลัย ก็สมควรได้รับการพิจารณาเหมือน
กันว่ากระทำไปอย่างสมควรแล้วหรือไม่
***************
|