นักวิจัยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เร่งงานวิจัยศึกษาแหล่งเตาเผาเครื่องถ้วยโบราณ
บริเวณพื้นที่ชุมชนอ่าวปัตตานี พบว่าเคยเป็นแหล่งอุตสาหกรรมเตาเผาและเมืองท่าที่สำคัญ ชี้ให้เห็นถึงสภาพชุมชน
ในอดีตของจังหวัดปัตตานี ทั้งนี้ได้รับทุนวิจัยจากรัฐบาลฝรั่งเศสในการศึกษาวิจัย
อาจารย์จุรีรัตน์ บัวแก้ว อาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
วิทยาเขตปัตตานี หนึ่งในคณะวิจัยศึกษาแหล่งเตาเผาเครื่องถ้วยโบราณในจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่าโครงการวิจัยศึกษา
แหล่งเตาเผาเครื่องถ้วยโบราณในจังหวัดปัตตานี เป็นการวิจัยขั้นพื้นฐานเพื่อศึกษาสภาพทั่วไป ที่ตั้ง เทคนิคการก่อสร้าง
และอายุของเตาเผาเครื่องถ้วยโบราณ ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้จะช่วยให้การศึกษาประวัติศาสตร์และเศรษฐกิจของจังหวัดปัตตานี
มีความถูกต้องชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งนี้โครงการวิจัยดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต
ปัตตานี และรัฐบาลฝรั่งเศส ซึ่งได้สนับสนุนทุนวิจัยส่วนหนึ่ง โดยมีระยะการทำวิจัย 5 ปี ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2536
เป็นต้นไป
การศึกษาครั้งนี้คณะผู้วิจัยซึ่งประกอบด้วย นักโบราณคดี นักประวัติศาสตร์ และนักภูมิศาสตร์ ได้เก็บข้อมูล
บริเวณพื้นที่เป้าหมายชุมชนอ่าวปัตตานีในเขตหมู่บ้านตันหยงลูโล๊ะ บ้านบาราโหม บ้านปาเระ และบ้านดี อำเภอเมือง
จังหวัดปัตตานี เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีหลักฐานทางโบราณคดีปรากฏอยู่กล่าวคือ ค้นพบภาชนะดินเผา ร่องรอยคูน้ำคัน
ดิน และแหล่งเตาเผา สำหรับขอบเขตการวิจัยจะครอบคลุมในเรื่องการแพร่กระจายของเครื่องปั้นดินเผาจากแหล่งโบราณ
คดี การกำหนดอายุโบราณวัตถุ รูปแบบและโครงสร้างของเตาเผา ตลอดจนบทบาทเชิงเศรษฐกิจของเครื่องปั้นดินเผา
ผู้ทำวิจัยเปิดเผยต่อไปถึงผลสรุปการศึกษาแหล่งเตาเผาเครื่องถ้วยโบราณในระยะที่ 1 ว่ามีการค้นพบเตาเผา
จำนวน 3 เตา บริเวณชุมชนบ้านดี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี โดยเตาเผาที่ 1 กรมศิลปากรสันนิษฐานว่าเป็นเตาเผาสมัย
อยุธยาตอนต้น เตาเผาที่ 2 เป็นเตาเผาสมัยสุโขทัยตอนปลาย และเตาเผาที่ 3 เป็นเตาเผาสมัยอยุธยาตอนกลาง
"จากการค้นพบบริเวณเตาเผา จำนวน 3 เตา จึงสันนิษฐานว่าบริเวณดังกล่าวเคยเป็นชุมชนชาวจีน ซึ่งมี
อาชีพทำภาชนะดินเผา จนกลายเป็นแหล่งอุตสาหกรรมเตาเผาที่สำคัญในแหลมมาลายู เนื่องจากมีหลักฐานหลายอย่างที่บ่ง
บอกถึงการผลิตเพื่อใช้ภายในท้องถิ่นและส่งออกจำหน่ายในต่างประเทศ กล่าวคือพบเศษภาชนะเครื่องถ้วยในบริเวณแหล่ง
เตาเผาทั้ง 3 แหล่งเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังสำรวจพบว่ามีเส้นทางคมนาคมทางน้ำจากบริเวณอ่าวไทย ตัดผ่านเข้ามา
ในบริเวณที่พบเตาเผาและผ่านเข้าไปยังบริเวณท่าใหญ่ (กาแลบือซา) ซึ่งเป็นชื่อคลองในเขตอำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี
และเป็นท่าสำหรับจอดเรือขนถ่ายสินค้าที่สำคัญในอดีต ทั้งนี้มีการค้นพบเศษภาชนะ เครื่องถ้วยตลอดแนวคลอง รวมทั้ง
เหรียญของชาติต่าง ๆ เช่น จีนและเปอร์เซีย หลักฐานเหล่านี้บ่งชี้ให้เห็นว่าบริเวณนี้เคยเป็นแหล่งอุตสาหกรรมเตาเผาและ
ศูนย์กลางการค้าของจังหวัดปัตตานีที่สำคัญในอดีต" อาจารย์จุรีรัตน์ บัวแก้ว หนึ่งในคณะวิจัย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
วิทยาเขตปัตตานี กล่าวสรุป
*******************
|