นักวิจัย ม.อ. พบว่าผักเบี้ยทะเลและผักบุ้งทะเลพืชท้องถิ่นแถบชายฝั่งทะเล สามารถนำมาเป็นอาหารสัตว์ปีกได้ดี
และทำให้สีไข่แดงเข้มขึ้น
อาจารย์สมศักดิ์ เหล่าเจริญสุข จากภาควิชาเทคโนโลยีและการอุตสาหกรรม คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ผู้ทำวิจัยเรื่อง การศึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับการใช้ผักเบี้ยทะเลและผักบุ้งทะเล
ในอาหารนกกระทาไข่ เปิดเผยว่าปัจจุบันอาชีพการเลี้ยงสัตว์เป็นอาชีพที่มีความสำคัญของเกษตรกรไทย อาหารสัตว์เป็นปัจจัย
สำคัญมากต่อการเลี้ยงสัตว์ ดังนั้นการค้นคว้าหาวัตถุดิบอาหารสัตว์ชนิดใหม่ที่มีราคาถูกและหาได้ง่ายในท้องถิ่น จึงเป็นแนว
ทางในการลดต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ได้
จากการที่จังหวัดทางภาคใต้ของประเทศไทยมีพื้นที่ติดชายฝั่งทะเล พืชที่งอกได้ดีเป็นพืชทนดินเค็มที่พบได้
มากได้แก่ ผักเบี้ยทะเลและผักบุ้งทะเล เกษตรกรบางรายได้นำผักเบี้ยทะเลมาใช้เป็นอาหารโคกระบือในช่วงที่หญ้าขาดแคลน
สำหรับผักบุ้งทะเลนั้นยังไม่ได้มีการนำมาใช้ในอาหารสัตว์ ซึ่งหากสามารถใช้ได้ดีและมีผลให้เกษตรกรมีวัตถุดิบอาหารสัตว์
ชนิดใหม่ สามารถนำมาเป็นส่วนผสมในอาหารสัตว์ปีกและเกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวและเตรียมได้เองในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นการ
ลดต้นทุนค่าอาหารสัตว์ ถ้าพืชท้องถิ่นนี้สามารถใช้เป็นอาหารสัตว์ได้อย่างแพร่หลายและมีตลาดรับซื้อ เกษตรกรในแถบชาย
ฝั่งทะเลก็สามารถจะนำไปจำหน่ายต่อไปได้ จะเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรทางหนึ่งด้วย
การวิจัยการใช้ผักเบี้ยทะเลและผักบุ้งทะเลเป็นอาหารสัตว์ปีกในครั้งนี้ วิธีที่ 1 ได้เตรียมผักเบี้ยทะเลโดยเก็บ
รวบรวมจากบริเวณอ่าวปัตตานี นำมาหั่นเป็นชิ้นขนาดเล็ก ตากหรืออบแห้ง จากนั้นนำมาบดละเอียด วิธีที่ 2 นำผักบุ้งทะเล
มาหั่น ตากหรืออบและบดละเอียด และวิธีที่ 3 นำผักเบี้ยทะเลมานึ่งประมาณ 20 นาที ก่อนนำไปตากหรืออบแห้ง แล้วนำ
ผักเบี้ยทะเลและผักบุ้งทะเลที่เตรียมไว้แต่ละวิธี นำมาผสมกับวัตถุดิบอาหารสัตว์ซึ่งได้แก่ ข้าวโพด รำละเอียด กากถั่วเหลือง
ปลาป่น และเปลือกหอยป่น เป็นต้น
จากผลการทดลองนำสูตรอาหารแต่ละวิธีมาเลี้ยงนกกระทาไข่ พันธ์ญี่ปุ่นอายุ 10 สัปดาห์ จำนวน 320 ตัว
ติดต่อกันนาน 98 วัน เปรียบเทียบกับสูตรอาหารที่ไม่มีส่วนผสมของผักบุ้งทะเลและผักเบี้ยทะเล ปรากฏว่าสูตรอาหารที่ใช้
ผักเบี้ยทะเลและผักบุ้งทะเลในอาหารนกกระทา จะเปียกแฉะกว่าพวกที่ใช้สูตรอาหารอื่น สรุปได้ว่าผักเบี้ยทะเลและผักบุ้งทะเล
สามารถนำมาตากหรืออบ แล้วนำไปลดให้ละเอียดสามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ได้ นอกจากนี้ผักเบี้ยทะเลและผักบุ้ง
ทะเลมีปริมาณโปรตีนใกล้เคียงกับข้าวโพดและมีปริมาณไนตรเจนฟรีเอกแทรกต์สูง โดยผักเบี้ยทะเลสามารถใช้แทนข้าวโพด
ในอาหารนกกระทาไข่ได้ 5 % และถ้านำไปนึ่งนาน 15 - 20 นาที จะสามารถใช้ได้สูงขึ้นถึง 10 % ส่วนผักบุ้งทะเล
สามารถใช้ในอาหารนกกระทาไข่ได้ 10 % โดยไม่มีผลกระทบต่อการผลิตไข่ คุณภาพไข่ การกินอาหารและอัตราการตาย
แต่ผักเบี้ยทะเลและผักบุ้งทะเลเป็นพืชที่ทำแห้งได้ยาก การตากแดดต้องใช้เวลานานประมาณ 1 สัปดาห์ ถ้าอบในตู้อบอุณหภูมิ
ประมาณ 70 องศาเซลเซียส ใช้เวลานานประมาณ 4 -5 วัน จึงจะแห้งและบดได้
*****************
|