: : : รายละเอียดข่าว : : :

ข่าว ปีที่ :ข่าวปีที่ 5 ฉบับที่ 01 ประจำเดือน 01 2535
หัวข้อข่าว : เทคนิคการปลูกป่าชายเลนบนหาดเลนงอกใหม่และหน้าฟาร์มกุ้ง
รายละเอียด :
                     อาจารย์  ม.อ. ปัตตานี  พบเทคนิคใหม่ในการทดลองปลูกป่าชายเลนบนหาดเลนงอกใหม่และ

บริเวณหน้าฟาร์มเลี้ยงกุ้ง  เพื่อประโยชน์ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรชายฝั่ง

         ผู้ช่วยศาสตราจารย์  ดร. นพรัตน์   บำรุงรักษ์  คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  มหาวิทยาลัย

สงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  หัวหน้าโครงการปลูกป่าชายเลนบนหาดเลนใหม่ของอ่าวปัตตานี  เปิดเผย

ว่าจากการทดลองปลูกป่าชายเลนบนหาดเลนงอกใหม่และเป็นบริเวณหน้าฟาร์มเลี้ยงกุ้งในระยะเวลา  2  ปี  ได้

รับผลเป็นที่น่าพอใจมาก  เพราะโดยทั่วไปแล้วการปลูกป่าชายเลนบนพื้นที่ใหม่ซึ่งไม่เคยมีพันธุ์ไม้ชายเลนเจริญ

เติบโตมาก่อนเลยนั้น  เป็นเรื่องที่กระทำได้ยากโดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่กำลังทดลอง  ซึ่งเป็นพื้นที่ดินเลนงอก

ใหม่อันเกิดจากการตกตะกอนทับถมของแม่น้ำปัตตานีบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  ซึ่งมีการทำ

ฟาร์มกุ้งอยู่ทั่วไป  ไม่มีต้นไม้ชายเลนขึ้นได้เองตามธรรมชาติ  เพราะในฤดูมรสุม  คลื่นลมแรงมาก  จนกล้าไม้

ไม่อาจขึ้นได้  เนื่องจากเป็นบริเวณปากอ่าวปัตตานี  คณะวิจัยจึงได้ค้นหาเทคนิคที่เหมาะสมเพื่อที่จะเอาชนะ

ธรรมชาติในการสร้างป่าชายเลนขึ้นมา  เพราะถ้าหากประสบผลสำเร็จก็จะได้ใช้เป็นแปลงสาธิตในการปลูกป่า

ชายเลนบนพื้นที่ใหม่หรือพื้นที่ทำนากุ้งต่อไป

         จากพื้นที่ทดลองประมาณ  100  ไร่  โดยแบ่งพื้นที่ส่วนแรกเป็นพื้นที่สำหรับวิจัยประมาณ  

24  ไร่  เพื่อเก็บข้อมูลชนิดของพืชที่เหมาะสม  วิธีปลูก  ฤดูปลูก  อัตราการเจริญเติบโต  ตลอดจนอัตราการ

รอดตาย  ส่วนที่สองเป็นพื้นที่ทดลองปลูกขยายประมาณ  70  ไร่  โดยใช้อายุกล้าไม้ที่เหมาะสม  พันธุ์พืชที่

ปลูกได้  ตลอดจนการพัฒนาวิธีปลูก  จากการทดลองในระยะเวลา  2  ปี  พบว่าในพื้นที่วิจัย  24  ไร่นั้น  กล้า

แสมทะเลและโกงกางเจริญได้ดีที่สุดคือมีความสูง  60.5  และ  53  เซนติเมตร  ตามลำดับ  อัตราส่วนที่รอด

ตายคือ  67.3  และ  48.4  ส่วนพื้นที่ทดลองปลูกขยาย  70  ไร่  ปลูกโกงกางจากฝักและขุดกล้าแสมที่มีอายุ

ประมาณ  1  ปี  ให้มีดินติดที่รากและมีน้ำหล่อเลี้ยงเสมอ  ขณะนี้โกงกางมีความสูงเฉลี่ยประมาณ  73  

เซนติเมตร  และแสมทะเลมีความสูงประมาณ  158  เซนติเมตร  การตายของกล้าไม้นั้น  ส่วนใหญ่มักมี

สาเหตุมาจากบางจุดเป็นที่ดอน  น้ำท่วมไม่ถึง  จึงได้อาศัยน้ำที่ถ่ายออกมาจากนากุ้งมาเลี้ยงกล้าไม้ในช่วงปลูก

ซ่อม  นอกจากนั้นสาเหตุการตายยังเกิดจากปูก้ามดาบกัดกินลำต้น และที่สำคัญคือคลื่นลมในบางเดือนแรงมาก  

จะพัดเอาขยะ  เศษไม้  ถุงพลาสติก  มาพันต้นกล้าทำให้กล้าไม้ตาย  พวกหนอนกินใบเป็นศัตรูสำคัญในระยะ

ต้นกล้า  ซึ่งถ้าหากไม่มีการดูแลเอาใจใส่อย่างน้อย  2 - 3  ปีแรกแล้ว  การปลูกป่าชายเลนจะประสบปัญหามาก

มาย  อย่างไรก็ตามในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ผู้ดำเนินการวิจัยได้พยายามแก้ปัญหาทุกรูปแบบ  การปฏิบัติการทั้ง

หลายเพื่อให้พื้นที่กลายเป็นป่าเลนที่เขียวชะอุ่มเช่น  การผูกกล้าไม้กับหลักการเก็บเศษวัสดุที่มาทับถมหรือพัน

กล้าไม้  การยกกล้าไม้ให้ตั้งตรงเมื่อถูกคลื่นซัด  รวมทั้งการรีบหากล้าไม้ที่เหมาะสมปลูกซ่อมต้นที่ตาย  ต้อง

กระทำตลอดเวลาและที่น่าสังเกตประการหนึ่งคือ  เมื่อต้นโกงกางและแสมทะเลมีรากค้ำจุนออกมาแล้วหลังอายุ

มากกว่า  1  ปี  โอกาสรอดตายของพืชดังกล่าวจะสูงมากและเมื่อพื้นที่ทดลองปลูกเริ่มแห้งในฤดูแล้ง  ก็อาศัย

น้ำจากนากุ้งช่วยด้วย  ขณะนี้พื้นที่ปลูกมีต้นไม้  มีสัตว์ทะเลเช่น  ปูแสมและปูทะเลมาอาศัยเกือบเต็มพื้นที่



                                                               *********************



โดย : 203.154.179.21 * [ วันที่ 2001-03-31 12:52:35 ]