จากการที่ประเทศไทยประสบปัญหาน้ำท่วมในแต่ละภูมิภาคบ่อยครั้งขึ้น และภาคใต้ตอนล่างก็ประสบภาวะ
น้ำท่วมโดยเฉลี่ยปีเว้นปี ข่าวศรีตรังจึงนำบทสัมภาษณ์ ผศ. ผดุงยศ ดวงมาลา รองอธิการบดีวิทยาเขตปัตตานี เพื่อ
ทราบถึงวิธีป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม มาเสนอแก่ท่านผู้อ่านดังนี้
คิดว่าปีนี้น้ำจะท่วมมหาวิทยาลัยหรือไม่
น้ำท่วมมันก็มีเป็นประจำ เพียงแต่ว่าจะท่วมตรงไหน เมื่อฝนตกลงมามาก น้ำในที่สูงก็จะไหลลงสู่ที่ลุ่มและ
ที่ตั้งของมหาวิทยาลัยก็อยู่ในเขตกันชนของน้ำเค็มและน้ำจืดจากแผ่นดิน นอกจากนี้ก็มาจากอิทธิพลของน้ำทะเลหนุน จะ
ท่วมหรือไม่ท่วมก็ต้องเตรียมการ ตามสถิติฝนจะตกชุกในเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม ถ้าตกมากก็ท่วมแน่ จะมากหรือ
น้อยอีกเรื่องหนึ่ง
การเตรียมการป้องกันน้ำท่วมมหาวิทยาลัย
เรามีแผนป้องกันน้ำท่วมอยู่แล้ว โดยงานอาคารสถานที่ฯ จะเป็นฝ่ายปฏิบัติที่ชัดเจนที่สุด ขณะนี้ได้เตรียม
ในเรื่องคูคลองระบายน้ำไม่ให้อุดตัน รวมทั้งจะเปิดประตูระบายน้ำ ซึ่งเรามีคลองระบายน้ำลงสู่ทะเลถึง 3 สายด้วยกัน
คือ บริเวณใกล้สวนสมเด็จฯ บริเวณอาคารเทคโนโลยียาง และจุดที่ 3 บริเวณโรงเรียนบ้านรูสะมิแล โดยเฉพาะถ้าฝนตก
หนักเกิน 1 ชั่วโมงขึ้นไป เราก็จะเปิดประตูน้ำและใช้เครื่องสูบน้ำช่วย ถ้าระดับน้ำสูงกว่าปกติครึ่งเมตร เครื่องระบายน้ำ
ของเราก็จะสามารถสูบน้ำออกได้หมดภายใน 3 ชั่วโมง และภายในเดือนตุลาคมนี้มหาวิทยาลัยก็จะดำเนินการตรวจสอบ
และขุดลอกคูคลองในส่วนที่ตื้นเขินต่อไป
นอกจากนี้ก็ต้องเตรียมกระสอบทรายเพื่อปิดกั้นน้ำ เนื่องจากประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยต่ำกว่าถนนมาก ซึ่ง
กระสอบทรายนี้เราก็มีสำรองไว้บ้างแล้ว สำหรับในกรณีที่เราไม่ถูกน้ำท่วม แต่ปริมาณน้ำภายนอกมีมาก เราก็จะเปิดทาง
ให้น้ำภายนอกไหลลงสู่คลองของมหาวิทยาลัย เพื่อระบายลงสู่ทะเลต่อไป
การแก้ปัญหาเมื่อประสบภาวะน้ำท่วม
เมื่อน้ำท่วมเราก็ต้องเตรียมสถานที่ที่จะจอดยานพาหนะทั้งของมหาวิทยาลัยและของบุคลากร รวมทั้งเรา
จะจัดรถบัสไว้บริการรับส่งบุคลากร เพื่อไปจับจ่ายซื้อของที่ตลาดและที่อื่น ๆ นอกจากนี้บุคลากรเองก็ควรระมัดระวัง
สัตว์มีพิษที่หนีน้ำเข้ามาในที่พักอาศัยและขนย้ายสิ่งของไว้ในที่สูง รวมทั้งระมัดระวังเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้าในกรณีเกิด
น้ำท่วม อาจจะต้องสะสมเครื่องอุปโภค - บริโภค ให้พร้อมในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม โดยมหาวิทยาลัยจะได้
ตั้งคณะกรรมการเพื่อช่วยเหลือด้วยอีกส่วนหนึ่ง
นอกจากนี้คงจะต้องมีงบประมาณสำหรับการซ่อมแซมฟื้นฟูหลังสภาพน้ำท่วมด้วย และเราก็ต้องออกไป
ช่วยเหลือประชาชนด้วย โดยร่วมมือกับจังหวัดและส่วนราชการต่าง ๆ อาจจะช่วยระดมความคิดหรือช่วยด้านยาน
พาหนะ โดยในขั้นแรกเราต้องช่วยตัวเราไม่ให้เป็นภาระของจังหวัดของบ้านเมือง แล้วจึงออกไปช่วยข้างนอก นอกจาก
เรื่องน้ำท่วมแล้วก็อาจมีปัญหาเรื่องลมหรือวาตภัย ขณะนี้เรามีตึกที่ได้รับการออกแบบไว้สำหรับต้านลมต้านภัยธรรมชาติ
โดยเฉพาะคือตึกที่ทำการคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และถ้าเกิดวาตภัยหรือสาธารณภัยที่รุนแรง เราก็จะอพยพ
บุคลากรและประชาชนผู้ที่ประสบภัยไปอยู่ที่อาคารคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อาคารสำนักวิทยบริการ และอาคาร
เรียนรวม ซึ่งเป็นตึกที่แข็งแรงมาก ในอนาคตก็อาจจะมีการเตรียมซ้อมรับภัยธรรมชาติต่าง ๆ ด้วย
*****************
|