: : : รายละเอียดข่าว : : :

ข่าว ปีที่ :ข่าวปีที่ 5 ฉบับที่ /1 ประจำเดือน 2/ 64
หัวข้อข่าว : นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ปัตตานี พบปะสมาชิกกลุ่มผู้เลี้ยงปูดำทะเล บ้านโต๊ะโสม เพื่อการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นเมืองปูทะเลโลก
รายละเอียด :
  เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 ธันวาคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะรัฐมนตรี อาทิ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม  เดินทางตรวจเยี่ยมและติดตามงานด้านการพัฒนาและความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ โดยภายหลังการไปตรวจราชการที่จังหวัดยะลา ในภาคบ่ายได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการโครงการจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมืองปูทะเลโลก ณ กลุ่มเลี้ยงปูดำทะเล บ้านโต๊ะโสม ตำบลบางปู อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ตามกรอบแนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก โดย ศอ.บต. ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กรมประมง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งปัตตานี และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรในพื้นที่ ในการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาและส่งเสริมการเลี้ยงปูทะเลให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจใหม่ของประเทศ สู่เมืองปูทะเลโลก โดยมี นายนิพันธ์ บุญหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวต้อนรับ สำหรับผู้บริหารและนักวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการให้ความรู้แก่ประชาชนในการเลี้ยงปู จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ที่มาร่วมบรรยาย และให้การต้อนรับ อาทิ ผศ.ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์    ดร.บดินทร์ แวลาเตะ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา วิทยาเขตปัตตานี  และ รศ.ดร.ซุกรี หะยีสาแม ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (Agritech and Innovation Center: AIC) จังหวัดปัตตานี
จากนั้น พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้นำเสนอกรอบการพัฒนา “จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเมืองปูทะเลโลก” เยี่ยมชมนิทรรศการ ฯ ร่วมปรุงปูดำผัดผงกะหรี่ และปล่อยพันธุ์ปูลงบ่อเลี้ยงของสมาชิกฯ และพบปะกลุ่มเลี้ยงปูดำทะเล  และกลุ่มท่องเที่ยวชุมชนรอบอ่าวปัตตานีโดยมีหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดปัตตานี  ผู้นำศาสนา และประชาชน ร่วมให้การต้อนรับ    
สำหรับผู้บริหารและนักวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการให้ความรู้แก่ประชาชนในการเลี้ยงปูจากมหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ที่มาร่วมบรรยาย และให้การต้อนรับ อาทิ ผศ.ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์   ดร.บดินทร์ แวลาเตะ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา วิทยาเขตปัตตานี และ รศ.ดร.ซุกรี หะยีสาแม  ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (Agritech and Innovation Center: AIC) จังหวัดปัตตานี  และหัวหน้าโครงการวิจัยเมืองปูทะเลโลก มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
         รศ.ดร.ซุกรี หะยีสาแม ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (Agritech and Innovation Center: AIC) จังหวัดปัตตานี หัวหน้าโครงการวิจัยเมืองปูทะเลโลก มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการวิจัยเพื่อพัฒนาการเพาะเลี้ยงปูทะเลให้เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจตัวใหม่แบบครบวงจร   โดยการมีส่วนร่วมของกลไกความร่วมมือของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี  สำนักงานประมงจังหวัดปัตตานี  สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ ๓๙ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งปัตตานี เพื่อส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงปูทะเลของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการดำรงพันธุ์ปูทะเลในธรรมชาติและนำเอาพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมที่ถูกบุกรุกทำบ่อกุ้ง กลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์เพิ่มผลผลิตปูทะเลให้เกษตรกรชาวประมงพื้นบ้านได้มีอาชีพมีรายได้ จากการเพาะเลี้ยงปูทะเลให้เป็นแหล่งผลิตปูทะเลที่สำคัญ  เป็นกลุ่มธุรกิจส่งออกปูทะเลของประเทศ โดยได้รับทุนสนับสนุนจาก บพท.
จังหวัดปัตตานี มีพื้นที่ดำเนินการเลี้ยงปูทะเลในระยะแรกในปี 2564 ใน 4 อำเภอ รวม 254 ไร่ ในพื้นที่อำเภอยะหริ่งมากที่สุด 203 ไร่  รองลงมาอำเภอเมืองปัตตานี 33 ไร่ อำเภอหนองจิก 14 ไร่ อำเภอไม้แก่น 4 ไร่ มีผลผลิตปูทะเล ทั้งสิ้น 7,150 กิโลกรัม และยังมีการขยายพื้นที่การเพาะเลี้ยงไปยังอำเภอเทพา จังหวัดสงขลาด้วย ขณะนี้มีกลุ่มเกษตรกรรวมกว่า 35 กลุ่ม รวม 700 กว่าครอบครัว    
“ความต้องการสัตว์เศรษฐกิจ  "ปูทะเล" มีความต้องการสูงและสม่ำเสมอ แต่ที่ผ่านมาใช้ลูกปูจากธรรมชาติมาเพาะเลี้ยงทำให้ไม่มีผลผลิตมากพอจำนวนความต้องการ  ดังนั้นเมื่อวิจัยจนเกิดการเพาะพันธุ์ได้สำเร็จแล้วจึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน ทั้งยังกระตุ้นให้เกิดตื่นตัวในการลงทุน จนตอนนี้เกิดห่วงโซ่ที่ครบวงจรแล้วในปัตตานี ”
รศ.ดร.ซุกรี หะยีสาแม  กล่าวเพิ่มเติม
        พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  กล่าวว่า   จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ  พร้อมสำหรับการพัฒนา  ในวันนี้เรามีการเพาะเลี้ยงพันธ์ปูโดยมีเป้าหมายเพื่อให้ปูไทยสู่ปูโลก  หากเป็นความต้องการของประชาชนในพื้นที่รัฐบาลซึ่งมีนโยบาย มีแนวปฏิบัติ มีกลไก พร้อมให้การสนับสนุนแต่ต้องเกิดจากความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและประชาชน  เกิดความสมดุลทางด้านเศรษฐกิจ สุขภาพ และรักษาสิ่งแวดล้อม  โดยมีการทำประชาพิจารณ์ในพื้นที่  ในปัจจุบันนี้ประเทศจำเป็นต้องปรับในเรื่องของพลังงาน  และการใช้ระบบเทคโนโลยีดิจิทัล เข้ามาแทรก  ขอให้ทุกคนรับฟังการเสนอข่าวของรัฐบาลบ้าง เพื่อให้รู้ว่ารัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่ ถ้าต่างคนต่างคิดต่างไม่ฟังปัญหาความขัดแย้งความไม่เข้าใจย่อมตามมา  ตนและรัฐบาลต้องฟังเสียงประชาชน   ประชาชนก็ต้องฟังตนเองบ้าง เพื่อหาทางมาเจอกันและคิดร่วมกัน มิเช่นนั้นไม่สามารถแก้ปัญหาได้  การเดินทางปฏิบัติภารกิจในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในครั้งนี้  มีความพึงพอใจทุกกระทรวง ทบวง กรมที่ทำให้พื้นที่ภาคใต้มีความเป็นอยู่ดีขึ้นแต่ต้องดีกว่านี้    เราว่างเว้นการพัฒนามานานมาก จากปัญหาความไม่สงบบ้าง  สถานการณ์โควิดบ้าง  แต่วันนี้ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้นเมื่อรายได้ของประชาชนดีขึ้น  ทุกอย่างก็จะดีขึ้น   เพราะรายได้จากฐานรากถือเป็นสิ่งสำคัญ ทุกวันนี้รายได้ของประชาชนต่ำมาก   ตนก็ไม่สบายใจกับตัวเลขตรงนี้   ดังนั้นจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ปัญหาความยากจนภายในครัวเรือนขึ้นมา เพื่อไปตรวจสอบ  และจัดระบบแก้ปัญหาร่วมกัน ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้ได้เริ่มทำงานแล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวต่อไปว่า สิ่งสำคัญตอนนี้เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด -19 แต่อย่าไปตื่นตระหนก ทางการแพทย์ยืนยันแล้วว่าการฉีดวัคซีนเป็นสิ่งที่ดีทีสุดในปัจจุบัน อย่างน้อยสองเข็ม วัคซีนทุกยี่ห้อผลิตออกมาเพื่อการรักษา ป้องกันและ บรรเทาอาการไม่ให้รุนแรง  เราอยากเปิดประเทศ เปิดหมู่บ้าน ให้คนมาเที่ยว คนไทยต้องให้ความเชื่อมั่นและคัดกรองคนที่เข้ามา และต้องคัดกรองตัวเองด้วย   การเปิดประเทศกับประเทศเพื่อนบ้านก็ต้องมีการพูดคุยกันทั้งสองประเทศ เพื่อกำหนดมาตรการร่วมกันที่ผ่านมา
  “เราสามารถอยู่ได้ภายใต้ความเป็นพหุวัฒนธรรม ฝากไปยังข้าราชการทุกคน ขอบคุณและให้กำลังใจทุกคน เราต้องเป็นข้าราชการยุคใหม่ ที่ทำงานเชิงรุก มีวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหา อย่าทุจริต”

โดย : * [ วันที่ ]