: : : รายละเอียดข่าว : : :

ข่าว ปีที่ :ข่าวปีที่ 4 ฉบับที่ /0 ประจำเดือน 9/ 2557
หัวข้อข่าว : วันมหิดล ประจำปี ๒๕๕๗
รายละเอียด :
วันมหิดล ประจำปี ๒๕๕๗ ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
กำหนดการ
การจัดกิจกรรมเนื่องในวันมหิดล และ
วันประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง ประจำปี ๒๕๕๗
วันพุธที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๗
พิธีสงฆ์
เวลา ๐๗.๐๐ น.- ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน ๑๐ รูป หน้าตึกสำนักงานอธิการบดี
เวลา ๐๗.๓๐ น. - บำเพ็ญกุศลทักษิณานุประทาน (บังสุกุล) ณ ตึกสำนักงานอธิการบดี
                          - ถวายภัตตาหารเช้าพระสงฆ์ ๑๐ รูป
พิธีวางพวงมาลา
เวลา ๐๘.๓๐ น. - ผู้ร่วมพิธีพร้อมกัน ณ บริเวณหน้าพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดช
                     วิกรม พระบรมราชชนก กรมหลวงสงขลานครินทร์
เวลา ๐๙.๐๐ น..          - ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ประธานในพิธีจุดธูปเทียนสักการะพระราชานุสาวรีย์
                      สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก กรมหลวงสงขลานครินทร์
                    - ประธานในพิธีอ่านคำสดุดีเฉลิมพระเกียรติคุณ
                    - รองอธิการบดีวิทยาเขตปัตตานี อ่านมหิตลาธิเบศรสดุดี
                     - ประธานวางพวงมาลา และถวายความเคารพพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร
                       อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก กรมหลวงสงขลานครินทร์
                     - หน่วยงานต่าง ๆ ที่ร่วมในพิธี วางพวงมาลา และถวายความเคารพ (ชาย คำนับ หญิง ถอนสายบัว)
                      - เสร็จพิธี
การแข่งขันกีฬา ๕ สิงห์มหิดล
เวลา ๑๐.๐๐-๑๖.๓๐ น.     - การแข่งขันกีฬาและเกม ระหว่าง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี โรงพยาบาลปัตตานี  สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี โรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี   และโรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร ณ สนามกีฬาใหม่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
เวลา ๑๘.๐๐-๒๒.๐๐ น. - งานเลี้ยงสังสรรค์ ๕ สิงห์มหิดล ณ โรงแรม ซี เอส ปัตตานี


มหิตลานุสรณีย์
                                  ๑๒
๏ ประณต ณ เบื้องพระบาท                บรมราชชนก
พระคุณพระคอบพสก                         เสมออุรสธิดา
๏ พระเมตตยาธิคุณ                              อดุลอนันต์คณา
ประคับประคองประชา                        ประจักษ์ประเจิดประจง
๏ พระมอบพระกายพระกิจ                     อุทิศมิคิดพระองค์
ประโยชน์ประสิทธิ์ประสงค์                    คะนึงคณานิกร
๏ มินานพระโอบพระเอื้อ                        พระเมือ ณ เมืองอมร
ประกาศพระกิจขจร                               ขจายพระกิตติคุณ
๏ จะหาจะเทียบจะแทน                           มิแม้นมิปานมิปุน
เสมอเสมือนพิรุณ                                    ประโปรยละอองประพรม
๏ มหิตลาธิเบศร                                              อดุลยเดชวิกรม
เฉลิมพระนามนิยม                                       เสนอสนามสุธี

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
ข้าพระพุทธเจ้า คณะมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
(ผศ.มะเนาะ ยูเด็น ประพันธ์)





สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก

                สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก กรมหลวงสงขลานครินทร์
“พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันไทย” และ “พระบิดาแห่งการสาธารณสุขไทย” และ”องค์บิดาแห่งการอุดมศึกษาไทย”  เป็นพระราชโอรส ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ และสมเด็จพระศรีสวรินทิราพระบรมราชเทวี สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงพระราชสมภพ
ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ ๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๓๔
                ด้านการศึกษาเริ่มตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์มาก ทรงศึกษาที่โรงเรียนราชกุมาร ในพระบรมมหาราชวัง  และในปี พ.ศ. ๒๔๔๘ ได้ทรงเข้าเป็นนายร้อยทหารบก ในปีเดียวกันได้ทรงไปศึกษา ณ โรงเรียนมัธยมประเทศอังกฤษเป็นเวลาหนึ่งปีครึ่ง หลังจากนั้นได้ทรงศึกษาวิชาทหาร และวิชาทหารเรือขั้นสูง ณ ประเทศเยอรมัน
ขณะทรงศึกษาในปีสุดท้ายทรงชนะการประกวดออกแบบเรือดำน้ำ หลังจบการศึกษาหลักสูตร ๔ ปี แล้ว ได้ทรงเข้าปฏิบัติงาน เป็นนายทหารในราชนาวีเยอรมัน เป็นเวลา ๓ ปี  ต่อมาในปี ๒๔๕๘ ได้เสด็จนิวัติประเทศไทยและเข้ารับราชการในกองทัพเรือเป็นเวลา ๙ เดือน ก็ทรงลาออกเนื่องจากทรงพบอุปสรรคในการพัฒนากองทัพเรือไทยให้เหมาะสม
                ในขณะที่ทรงลาออกนั้น ได้รับทราบถึงความขาดแคลนต่างๆ ในด้านการแพทย์และการให้การรักษาพยาบาลผู้ป่วย จึงทรงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เป็นทุนการศึกษา เช่น ทรงส่งบุคคลไปศึกษาวิชาการแพทย์และพยาบาล ณ ต่างประเทศ โดยทุนส่วนพระองค์ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๖๐ เมื่อพระราชทานทุนการศึกษาส่วนพระองค์นั้น ทรงมีพระราชดำรัสว่า “เงินที่ฉันได้ใช้ออกมาเรียน หรือให้พวกเธอออกมาเรียนนี้ ไม่ใช่เงินของฉัน แต่เป็นเงินของราษฎร เขาจ้างให้ฉันออกมาเรียน ฉะนั้นเธอต้องตั้งใจเรียนให้ดีให้สำเร็จ เพื่อจะได้กลับไปทำประโยชน์แก่ประเทศชาติ และขอให้ประหยัดใช้เงิน เพื่อฉันจะได้มีเงินเหลือ ไว้สำหรับช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป”   และพระราชดำรัส ที่ทรงประทานให้กับนายสวัสดิ์ แดงสว่าง (ศาสตราจารย์นายแพทย์สวัสดิ์ แดงสว่าง) นักเรียนทุนพระราชทาน ว่า

                                      "ขอให้ถือผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่สอง
                                      ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง
                                      ลาภทรัพย์และเกียรติยศจะตกมาแก่ท่านเอง
                                      ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งอาชีพย์ไว้ให้บริสุทธิ์ "


          เมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๔๖๓ ทรงอภิเษกสมรสกับนางสาวสังวาล ตาละภัฏ ผู้สำเร็จวิชาการพยาบาล จากโรงพยาบาลศิริราช แล้วได้รับพระราชทานทุนไปศึกษาต่อ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อมาได้สถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี   มีพระธิดาและพระโอรส ๓ พระองค์คือ
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์  พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
จากความสนพระทัยในวิชาการแพทย์ พระองค์ได้เข้าศึกษาวิชาสาธารณสุขจากประเทศอังกฤษ ตลอดจนศึกษาวิชาสาธารณสุข และวิชาการแพทย์จากสหรัฐอเมริกา ตามลำดับ และทรงได้รับปริญญาแพทยศาสตรดุษฎีบัณฑิต เกียรตินิยม เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๑ และในปีเดียวกันก็ได้เสด็จนิวัติประเทศไทยและมีพระราชประสงค์ จะทำหน้าที่แพทย์ ณ โรงพยาบาลศิริราช แต่ทางการไม่อาจสนองพระราชประสงค์ได้ เพราะเกี่ยวด้วยฐานันดรศักดิ์
ของพระองค์และพระราชประเพณี จึงทรงไม่พอพระทัยที่จะอยู่เฉย ๆ โดยไม่ได้ทำประโยชน์ จึงมีพระดำรัสว่า “โดยความจงรักภักดีของฉันต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฉันไม่สามารถจะรับหน้าที่ใด ๆ ของรัฐบาล เพียงแต่รับเครื่องประดับ และรับเงินเดือนสำหรับการทำเช่นนั้น ถ้าเรื่องเป็นเช่นนั้นฉันรู้สึกว่า ฉันควรจะออกจากหน้าที่นั้นดีกว่า และให้ข้าราชการที่ควรจะทำหน้าที่ และเป็นที่ต้องการ ได้รับเงินเดือนมากกว่าฉันเข้าทำแทน”
                ดังนั้นจึงทรงเปลี่ยนความตั้งพระทัยเสด็จไปปฏิบัติหน้าที่แพทย์ประจำบ้านที่โรงพยาบาลแมคคอมิค จังหวัดเชียงใหม่ ตามที่ทางโรงพยาบาลกราบทูลอัญเชิญมา ทรงมีมหาดเล็กรับใช้เพียงคนเดียว ทรงใช้ใช้เวลา
ส่วนใหญ่กับผู้ป่วยในโรงพยาบาลและปฏิบัติพระองค์เยี่ยงแพทย์ธรรมดาสามัญผู้หนึ่ง ไม่โปรดให้แพทย์ พยาบาล หรือเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ผู้ปฏิบัติงานร่วมกับพระองค์ประพฤติต่อพระองค์เยี่ยงเจ้านายผู้สูงศักดิ์ ทรงปฏิบัติพระองค์อย่างสามัญชน เวลาจ่ายใบสั่งยา ก็ทรงลงพระปรมาภิไธยคล้ายสามัญชนว่า “มหิดลสงขลา”
                 แม้ว่าพระสุขภาพจะไม่ดีนัก แต่ก็ทรงพอพระราชหฤทัยเป็นอันมากกับการที่มีโอกาสเป็นหมอ
ได้อย่างเต็มที่ ในช่วงระยะเวลาไม่นานก็มีกิตติศัพท์แพร่หลายไปทั่วไปว่า มีแพทย์เป็นเจ้าฟ้ามาทรงปฏิบัติงานอยู่ที่โรงพยาบาลแมคคอมิค ผู้ป่วยไข้ที่มารับการตรวจบำบัดโรคที่โรงพยาบาลในครั้งนั้น ขนานนามพระองค์ท่านว่า “หมอเจ้าฟ้า”
                สมเด็จพระบรมราชชนกมีโอกาสประทับที่เชียงใหม่ ให้ผู้คนชาวเชียงใหม่ได้ชื่นขมในพระกรุณา
ในชั่วเวลาไม่ถึงเดือน ก็ต้องเสด็จกลับกรุงเทพฯ เพราะทรงประชวร จนถึงวันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๒
ก็เสด็จทิวงคต รวมพระชนม์มายุได้ ๓๗ ปี ๘ เดือน กับ ๒๓ วัน เนื่องจากพระปับผาสะ(หรือปอด) มีน้ำคั่ง
และพระหทัยวาย นับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของวงการแพทย์ไทย  ดังนั้นวันที่ ๒๔ กันยายน จึงเรียกกันว่า “วันมหิดล”
                แม้ว่าสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ได้เสด็จทิวงคตไปแล้วกว่า ๘๐ ปี แต่พระราชดำรัสของพระองค์ท่านที่ว่า
" ขอให้ถือผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง ลาภทรัพย์และเกียรติยศจะตกมาแก่ท่านเอง ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งอาชีพย์ไว้ให้บริสุทธิ์ " ยังคงอยู่ในความทรงจำของปวงชนชาวไทย


                 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่าน ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันเป็นประโยชน์สุขของผู้อื่นตลอดพระชนม์ชีพ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ร่วมกับส่วนราชการต่าง ๆ จึงพร้อมใจกันจัดกิจกรรม วันมหิดล และวันถือประโยชน์เพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง อย่างพร้อมเพรียงกัน
                                              เพื่อพระปณิธาน
                                               “ประโยชน์ตนต้องเห็นเป็นที่สอง
                                         ประโยชน์ของมนุษย์คิดกิจที่หนึ่ง”
                                         ทรงตรัสเอื้อเพื่อไทยได้คำนึง
                                          ให้ปลื้มปลาบซาบซึ้งติดตรึงตรา
                                          เป็นแสงทองส่องแทนเป็นแก่นสาร
                                          ปณิธานปานธงลูกสงขลาฯ
                                           มุ่งกอปรกิจคิดเอื้อเพื่อประชา
                                           เสริมส่งค่าสมพระปณิธาน

                                                                              ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
                                                                   ข้าพระพุทธเจ้า คณะมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
                                                                              (รศ.วันเนาว์ ยูเด็น ประพันธ์)
(ชมภาพได้ที่เว็บไซต์  http://pr.pn.psu.ac.th/picturebank/day/mahidol57/album/index.html)

                                                                             **************************************

โดย : * [ วันที่ ]