: : : รายละเอียดข่าว : : :

ข่าว ปีที่ :ข่าวปีที่ 9 ฉบับที่ /2 ประจำเดือน 55 5
หัวข้อข่าว : วันมหิดลประจำปี ๒๕๕๕
รายละเอียด :
สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
 
       สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร  อดุลยเดชวิกรม  พระบรมราชชนก  กรมหลวงสงขลานครินทร์  พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันไทย  
เป็นพระราชโอรสองค์ที่ ๖๙  ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์  พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ และสมเด็จ
พระศรีสวรินทิราพระบรมราชเทวี  สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า  ทรงพระราชสมภพในพระบรมมหาราชวัง  เมื่อวันที่ ๑  มกราคม  
พุทธศักราช  ๒๔๓๔ สมเด็จพระบรมราชชนก  ทรงอภิเษกสมรสกับสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี  มีพระธิดาและพระโอรส
๓ พระองค์คือ  สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์  พระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล  
และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
       ด้านการศึกษา  ในปี  พ.ศ. ๒๔๘๘  ได้ทรงเข้าเป็นนายร้อยทหารบก  ในปีเดียวกันได้ทรงไปศึกษา  ณ  โรงเรียนมัธยมประเทศอังกฤษ
 หลังจากนั้นได้ทรงศึกษาวิชาทหารและวิชาทหารเรือขั้นสูง  ณ  ประเทศเยอรมัน  ขณะทรงศึกษาในปีสุดท้ายทรงชนะการประกวด
ออกแบบเรือดำน้ำ  หลังจบการศึกษาหลักสูตร ๔ ปี แล้ว ได้ทรงเข้าปฏิบัติงานเป็นนายทหารในราชนาวีเยอรมัน  เป็นเวลา ๓ ปี  
ในปี ๒๔๕๘  ได้ทรงเสด็จนิวัติประเทศไทยและเข้ารับราชการในกองทัพเรือเป็นเวลา ๙ เดือน  ก็ทรงลาออกเนื่องจากทรงพบอุปสรรค
ในการพัฒนากองทัพเรือไทยให้เหมาะสม
       ในขณะที่ทรงลาออกนั้น  ได้รับทราบถึงความขาดแคลนต่างๆ ในด้านการแพทย์และการให้การรักษาพยาบาลผู้ป่วย  
จึงทรงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนการศึกษา  เช่น  ทรงส่งบุคคลไปศึกษาวิชาการแพทย์และพยาบาล  ณ  ต่างประเทศ  
โดยทุนส่วนพระองค์  ตั้งแต่  พ.ศ. ๒๔๖๐  จนเสด็จทิวงคต  เมื่อพระราชทานทุนการศึกษาส่วนพระองค์นั้น  ทรงมีพระราชดำรัสว่า
“เงินที่ฉันได้ใช้ออกมาเรียนหรือให้ พวกเธอออกมาเรียนนี้  ไม่ใช่เงินของฉัน  แต่เป็นเงินของราษฎรเขาจ้างให้ฉันออกมาเรียน  
ฉะนั้นเธอต้องตั้งใจเรียนให้ดีให้สำเร็จ  เพื่อจะได้กลับไปทำประโยชน์แก่ประเทศชาติ  และขอให้ประหยัดใช้เงินเพื่อฉันจะได้
มีเงินเหลือไว้สำหรับช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป” และพระราชดำรัส ที่ทรงประทานให้กับนาย์สวัสดิ์  แดงสว่าง
(ศาสตราจารย์นายแพทย์สวัสดิ์ แดงสว่าง) นักเรียนทุนพระราชทาน ว่า
                  "ขอให้ถือผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่สอง
                    ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง
                    ลาภทรัพย์และเกียรติยศจะตกมาแก่ท่านเอง  
                    ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งอาชีพย์ไว้ให้บริสุทธิ์ "
       จากความสนพระทัยในวิชาการแพทย์ พระองค์ได้เข้าศึกษาวิชาสาธารณสุขจากประเทศอังกฤษ ตลอดจนศึกษาวิชาสาธารณสุข
และวิชาการแพทย์จากสหรัฐอเมริกา ตามลำดับ และทรงได้รับปริญญาแพทยศาสตรดุษฎีบัณฑิต เกียรตินิยม เมื่อปี  พ.ศ. ๒๔๗๑  
และในปีเดียวกันก็ได้เสด็จนิวัติประเทศไทยและมีพระราชประสงค์ จะทำหน้าที่แพทย์  ณ  โรงพยาบาลศิริราช  แต่ทางการไม่อาจ
สนองพระราชประสงค์ได้ เพระเกี่ยวฐานันดรศักดิ์ ของพระองค์และพระราชประเพณี  จึงทรงไม่พอพระทัยที่จะอยู่เฉย  ๆ
โดยไม่ได้ทำประโยชน์  จึงมีพระดำรัสว่า “โดยความจงรักภักดีของฉันต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ฉันไม่สามารถจะรับหน้าที่ใด ๆ
ของรัฐบาล  เพียงแต่รับเครื่องประดับและรับเงินเดือนสำหรับการทำเช่นนั้น  ถ้าเรื่องเป็นเช่นนั้นฉันรู้สึกว่า ฉันควรจะออกจากหน้าที่นั้นดีกว่า  
และให้ข้าราชการที่ควรจะทำหน้าที่และเป็นที่ต้องการได้รับเงินเดือนมากกว่าฉันเข้าทำแทน”  
ดังนั้นจึงทรงเปลี่ยนความตั้งพระทัยเสด็จไปปฏิบัติหน้าที่แพทย์ประจำบ้านที่โรงพยาบาลแมคคอมิค  จังหวัดเชียงใหม่  ตามที่ทางโรงพยาบาล
กราบทูลอัญเชิญมา  ทรงมีมหาดเล็กรับใช้เพียงคนเดียว  ทรงใช้ใช้เวลาส่วนใหญ่กับผู้ป่วยในโรงพยาบาลและปฏิบัติพระองค์เยี่ยงแพทย์
ธรรมดาสามัญผู้หนึ่ง  ไม่โปรดให้แพทย์  พยาบาล  หรือเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล  ผู้ปฏิบัติงานร่วมกับพระองค์ประพฤติต่อพระองค์
เยี่ยงเจ้านายผู้สูงศักดิ์ ทรงปฏิบัติพระองค์อย่างสามัญชน  เวลาจ่ายใบสั่งยาก็ทรงลงพระปรมาภิไธยคล้ายสามัญชนว่า  “มหิดลสงขลา”  
แม้ว่าพระสุขภาพจะไม่ดีนัก  แต่ก็ทรงพอพระราชหฤทัยเป็นอันมากกับการที่มีโอกาสเป็นหมอได้อย่างเต็มที่  ในช่วงระยะเวลาไม่นาน
ก็มีกิตติศัพท์แพร่หลายไปทั่วไปว่า  มีแพทย์เป็นเจ้าฟ้ามาทรงปฏิบัติงานอยู่ที่โรงพยาบาลแมคคอมิค  ผู้ป่วยไข้ที่มารับการตรวจบำบัดโรค
ที่โรงพยาบาลในครั้งนั้น ขนานนามพระองค์ท่านว่า “หมอเจ้าฟ้า”
       สมเด็จพระบรมราชชนกมีโอกาสประทับที่เชียงใหม่  ให้ผู้คนชาวเชียงใหม่ได้ชื่นขมในพระกรุณาในชั่วเวลาไม่ถึงเดือน  
ก็ต้องเสด็จกลับกรุงเทพฯ  เพราะทรงประชวร  จนถึงวันที่ ๒๔ กันยายน  พ.ศ. ๒๔๗๒  ก็เสด็จทิวงคต  รวมพระชนม์มายุได้ ๓๗ ปี  
๘ เดือน  กับ ๒๓ วัน  เนื่องจากพระปับผาสะ มีน้ำคั่งและพระหทัยวาย  นับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของวงการแพทย์ไทย  
ดังนั้นวันที่ ๒๔  กันยายน  จึงเรียกกันว่า “วันมหิดล”        
แม้ว่าสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร  อดุลยเดชวิกรม  พระบรมราชชนก  ได้เสด็จทิวงคตไปแล้วกว่า ๘๐ ปี  แต่พระราชดำรัสของพระองค์ท่านที่ว่า
  “ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่สอง  ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง  ลาภ  ทรัพย์  และเกียรติยศ  จะตกแก่ท่านเอง  
ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งอาชีพไว้ให้บริสุทธิ์” ก็ยังคงก้องกังวานอยู่ในหัวใจของปวงชนมิรู้คลาย
       เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่าน  ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันเป็นประโยชน์สุข
ของผู้อื่นตลอดพระชนม์ชีพ  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  ร่วมกับส่วนราชการต่าง  ๆ จึงได้จัดกิจกรรมเนื่องในวันมหิดล
เป็นประจำทุกปี  โดยเฉพาะวันมหิดลในปีนี้ เป็นวันครบรอบ ๑๒๐ ปี วันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม
พระบรมราชชนก หน่วยงานราชการต่าง ๆ และ คณะหน่วยงานในมหาวิทยาลัย จึงพร้อมใจกันจัดกิจกรรม วันมหิดล และวันถือประโยชน์เพื่อนมนุษย์
เป็นกิจที่หนึ่ง อย่างพร้อมเพรียงกัน  

              เพื่อพระปณิธาน

“ประโยชน์ตนต้องเห็นเป็นที่สอง
ประโยชน์ของมนุษย์คิดกิจที่หนึ่ง”
ทรงตรัสเอื้อเพื่อไทยได้คำนึง
ให้ปลื้มปลาบซาบซึ้งติดตรึงตรา
เป็นแสงทองส่องแทนเป็นแก่นสาร
ปณิธานปานธงลูกสงขลาฯ
มุ่งกอปรกิจคิดเอื้อเพื่อประชา
เสริมส่งค่าสมพระปณิธาน

                                         ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
                         ข้าพระพุทธเจ้า  คณะมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
                                     (รศ.วันเนาว์    ยูเด็น  ประพันธ์)

         เนื่องในโอกาสครบรอบ ๑๒๐ ปี วันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จึงจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ดังนี้
     ๑. งานจากพี่สู่น้อง ทำดี สดุดีพ่อหลวงไทย โดยคณะศิลปกรรมศาสตร์
เมื่อวันที่ ๙ - ๑๓ กรกฏาคม ๒๕๕๕ ณ กรุงเทพฯ และปริมณฑล
กิจกรรมประกอบด้วยการจำหน่ายผลงานศิลปกรรมของคณาจารย์ และ
นักศึกษา และมอบเงินให้โรงพยาบาลสิริราช กรุงเทพฯ  และไปร่วมลงนาม
ถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
  ๒. การแข่งขันเรือยาว ประเพณี ม.อ. เทิดไท้องค์ราชัน ครั้งที่ ๕ และเนื่องในโอกาส ๑๒๐ ปี วันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร
อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ชิงถ้วยองคมนตรี พลากร สุวรรณรัฐ ระหว่างวันที่ ๘-๙ กันยายน ๒๕๕๕ ณ บริเวณเชิงสะพานเดชานุชิต
จังหวัดปัตตานี และนิทรรศการ ๑๒๐ ปี พระบรมราชชนก  
     ๓. การแข่งขันเดินวิ่ง มินิมาราธอน โดยชมรมกรีฑาฯ วันเสาร์ที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๕
     ๔. การจัดงานวันถือประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง
ในวันมหิดล วันจันทร์ที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๕
        -  พิธีวางพวงมาลา และพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุประทาน
        -  นิทรรศการ ๑๒๐ ปี วันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระ
มหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
        - การแข่งขันกีฬาประเพณี ๕ พี่น้องเกมส์ และกิจกรรมเพื่อประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์ ระหว่าง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
โรงพยาบาลปัตตานี ศูนย์บำบัดรักษายาเสพติดปัตตานี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี และโรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหารปัตตานี
        -  การแสดงโขนเยาวชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยสถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม
ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี


                    กำหนดการวันมหิดล ประจำปี ๒๕๕๕
             ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี

วันจันทร์ที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๕
เวลา ๐๗.๐๐ น. -  ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์  ๒๐ รูป ณ หน้าอาคารสำนักงานอธิการบดี  
เวลา ๐๗.๓๐ น. - บำเพ็ญกุศลทักษิณานุประทาน  (บังสุกุล) ณ อาคารสำนักงานอธิการบดี        
เวลา ๐๘.๓๐ น. - ผู้ร่วมพิธีพร้อมกัน ณ บริเวณหน้าพระราชานุสาวรีย์  สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชนก
เวลา ๐๙.๐๐ น. - ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ประธานในพิธีจุดธูปเทียน สักการะพระราชานุสาวรีย์ฯ
                 -  ประธานในพิธี  อ่านคำสดุดี เฉลิมพระเกียรติคุณ
                 -  รองอธิการบดีวิทยาเขตปัตตานี  อ่านมหิตลานุสรณีย์
                 -  ประธานวางพวงมาลาและถวายความเคารพพระราชานุสาวรีย์ฯ
                 -  หน่วยงานต่าง ๆ วางพวงมาลา และถวายความเคารพ
เวลา ๐๙.๓๐ น. -  การแสดงโขนเยาวชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยสถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  
                    ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี                    
               
                                  มหิตลานุสรณีย์
              ๑๒
                ๏ ประณต ณ เบื้องพระบาท               บรมราชชนก
                   พระคุณพระคอบพสก                    เสมออุรสธิดา
                ๏ พระเมตตยาธิคุณ                           อดุลอนันต์คณา
                   ประคับประคองประชา                   ประจักษ์ประเจิดประจง
                ๏ พระมอบพระกายพระกิจ                 อุทิศมิคิดพระองค์
                   ประโยชน์ประสิทธิ์ประสงค์               คะนึงคณานิกร
                ๏ มินานพระโอบพระเอื้อ                    พระเมือ ณ เมืองอมร
                   ประกาศพระกิจขจร                            ขจายพระกิตติคุณ
                ๏ จะหาจะเทียบจะแทน                      มิแม้นมิปานมิปุน
                   เสมอเสมือนพิรุณ                          ประโปรยละอองประพรม
                ๏ มหิตลาธิเบศร                            อดุลยเดชวิกรม
                   เฉลิมพระนามนิยม                    เสนอสนามสุธี

                                           ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
                                ข้าพระพุทธเจ้า  คณะมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
                                          (ผศ.มะเนาะ   ยูเด็น  ประพันธ์)


โดย งานประชาสัมพันธ์ กองธุรการ สำนักงานอธิการบดี วิทยาเขตปัตตานี
โดย : * [ วันที่ ]