: : : รายละเอียดข่าว : : :

ข่าว ปีที่ :ข่าวปีที่ 7 ฉบับที่ 07 ประจำเดือน 07 2547
หัวข้อข่าว : งานมหกรรมศิลปวัฒนธรรม ครั้งที่ 12
รายละเอียด :
         สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  ได้จัดงานมหกรรม
ศิลปวัฒนธรรม  ครั้งที่  12  เมื่อวันที่  2 – 10  กรกฎาคม  ที่ผ่านมา  โดยมี  รศ. ดร. ประเสริฐ  ชิตพงศ์  อธิการบดี
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  เป็นประธานในพิธีเปิดงาน  รศ. ผดุงยศ  ดวงมาลา  รองอธิการบดี  มหาวิทยาลัยสงขลา
นครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  กล่าวรายงาน  นายมานิตย์  วัฒนเสน  รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี  กล่าวต้อนรับและ
กล่าวถึงนโยบายและการดำเนินงานด้านวัฒนธรรมของจังหวัดปัตตานี  สำหรับกิจกรรมที่จัดให้ในงานมหกรรม
ศิลปวัฒนธรรมครั้งนี้ประกอบด้วย  การจัดนิทรรศการวิชาการ  การสาธิตภูมิปัญญาและหัตถกรรมพื้นบ้าน  การสาธิต
อาหารพื้นบ้าน  การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน  การแสดงบนเวทีกลางจากเยาวชนในจังหวัดปัตตานี  การแสดงบริเวณ
ลานวัฒนธรรม  การละเล่นพื้นบ้าน  การออกร้านสาธิตและจำหน่ายสินค้า  OTOP  และการแสดงมหรสพ  นอกจากนั้น
ยังเป็นการรวบรวมสิ่งล้ำค่ามาแสดงให้ประชาชนได้เห็นคุณค่า  นอกจากจะเป็นการปลุกจิตสำนึกในด้านสืบสาน
ศิลปวัฒนธรรมแล้ว  ยังเป็นการอนุรักษ์และใช้ศิลปวัฒนธรรมเป็นตัวประสานความเข้าใจอันดีระหว่างกลุ่มชนในท้องถิ่น
ปัตตานี  จังหวัดใกล้เคียง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดชายแดนภาคใต้
         รศ. ผดุงยศ  ดวงมาลา  รองอธิการบดี  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  กล่าวว่าศิลป
วัฒนธรรมมีความสำคัญยิ่งต่อการดำรงความเป็นชาติ  เพราะชาติที่เป็นอารยะย่อมมีสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง  
ฉะนั้นสถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา  จึงได้มีการอนุรักษ์  ส่งเสริม  และเผยแพร่ศิลปะประเพณีและวัฒนธรรม
ของชาติ  ซึ่งเป็นงานหลักหนึ่งในสี่ของหน้าที่ที่กำหนดไว้ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  การรวบรวมศิลปวัฒนธรรม
ของชาติมาเผยแพร่นับเป็นหน้าที่ที่สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา  ถือเป็นงานสำคัญจึงได้จัดงาน  “มหกรรม
ศิลปวัฒนธรรม”  ขึ้น  ซึ่งเป็นครั้งที่  12  โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อใช้ศิลปวัฒนธรรมในการสร้างภาพพจน์ที่ดีในสายตา
ของชาวไทยทั่วประเทศให้เห็นคุณค่าทางความงามแห่งศิลปะและวัฒนธรรม  และเพื่อดำรงอยู่ในสังคมภาคใต้
และภาคอื่น  ๆ  ส่งผลให้เกิดการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย  ประกอบกับเป็นการอนุรักษ์
และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของภาคใต้และภาคอื่น  ๆ  สู่สังคมและเผยแพร่ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม
แก่นักเรียน  นักศึกษา  และประชาชนทั่วไป  เพื่อป้องกันการเสื่อมสลายของศิลปะการแสดงและดนตรีพื้นบ้าน  
ภูมิปัญญาพื้นบ้าน  ตลอดถึงหัตถกรรมพื้นบ้านอันเป็นเอกลักษณ์ของภาคใต้และของชาติ
         รศ. ดร. ประเสริฐ  ชิตพงศ์  อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  เปิดเผยว่ามหาวิทยาลัยได้ตระหนัก
ถึงความสำคัญในการอนุรักษ์และส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของชาติ  จึงได้สนับสนุนให้หน่วยงานต่าง  ๆ  
จัดกิจกรรมด้านวัฒนธรรม  เพื่อสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมไทยมาโดยตลอด  โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันวัฒนธรรม
ศึกษากัลยาณิวัฒนา  เป็นหน่วยงานหลักในการรับผิดชอบงานด้านดังกล่าว  นอกจากนี้การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมของ
ชาติถือว่าเป็นภารกิจหนึ่งในสี่ภารกิจของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  ซึ่งเป็นหน้าที่หลักของสถาบันวัฒนธรรมศึกษา
กัลยาณิวัฒนาที่จะต้องส่งเสริม  อนุรักษ์  ทำนุบำรุง  สืบสาน  ถ่ายทอดไปสู่เยาวชนของชาติเพื่อการสืบสานสืบไป
         วัฒนธรรมคือวิถีชีวิตแห่งมนุษย์  ศิลปะคือสิ่งสวยงามที่มนุษย์ต้องการวิถีชีวิตที่อยู่ท่ามกลางความสวยงาม
อันล้ำค่า  คือสิ่งบ่งบอกความเป็นผู้มีรสนิยมและความมีจิตใจสูงของมนุษย์  โดยเฉพาะของประชาชนชาวไทยที่อยู่กับ
บสิ่งเหล่านี้มาโดยตลอด  หวังเป็นอย่างยิ่งว่าศิลปวัฒนธรรมของชาติจะเป็นตัวประสานความเข้าใจอันดีระหว่างกลุ่มชน
ในชาติ  ซึ่งนอกจากจะก่อให้เกิดความผาสุกในการอยู่ร่วมกันแล้ว  ยังเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงและภาพลักษณ์
อันดีให้แก่จังหวัดชายแดนภาคใต้  จังหวัดใกล้เคียง  และประเทศเพื่อนบ้าน
         นายมานิตย์  วัฒนเสน  รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี  ได้กล่าวถึงนโยบายและการดำเนินงานด้านวัฒนธรรม
ของจังหวัดปัตตานีว่า  ในฐานะที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลที่คอยควบคุมดูแลการบริหารงานภาครัฐให้เป็นไปตามนโยบาย
ของรัฐบาล  จังหวัดปัตตานีในอดีตเป็นศูนย์กลางการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าในภูมิภาคอาเซีย  สถานที่ที่เคยเป็น
ศูนย์กลางการติดต่อย่อมเป็นแหล่งพักพิงของคนหลายเชื้อชาติ  หลายศาสนา  ภาษา  วัฒนธรรม  ขนบธรรมเนียม
ประเพณี  นั่นคือที่มาของความหลากหลายทางวัฒนธรรมของจังหวัดปัตตานี  การจัดตั้งสถาบันวัฒนธรรมศึกษา
กัลยาณิวัฒนา  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  เพื่ออนุรักษ์  ส่งเสริม  ฟื้นฟู  เผยแพร่ศิลป
วัฒนธรรมซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศ  เพื่อให้ชาวไทยและชาวโลกรับรู้  สอดรับกับนโยบายของจังหวัดที่ต้องการ
คงไว้ซึ่งทุนทางสังคมอันประมาณค่ามิได้ของความหลากหลายทางวัฒนธรรมซึ่งดำเนินมาตั้งแต่อดีตจนถึง
ปัจจุบัน  การจัดงานของสถาบันที่จัดอย่างต่อเนื่องกันมาปีนี้เป็นปีที่  12  แล้ว  แสดงให้เห็นถึงความแน่วแน่ของ
สถาบันที่ต้องการอนุรักษ์  สืบสาน  เผยแพร่วัฒนธรรมของจังหวัดและของภาคใต้ให้คงอยู่เป็นทุนที่จะชักนำให้
นักท่องเที่ยวได้มาศึกษามาเที่ยวจังหวัดปัตตานี  กิจกรรมที่จัดนี้ถือเป็นกิจกรรมที่สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่
จังหวัด  ซึ่งเป็นนโยบายหลักของจังหวัดปัตตานี
         มหกรรมศิลปวัฒนธรรม  อันบ่งบอกถึงการแสดงศิลปะประจำท้องถิ่นภาคใต้แล้ว  ยังสามารถบ่งบอกถึง
ชีวิตของพ่อค้าและแม่ค้าเร่ที่มาจำหน่ายสินค้าภายในงาน  เป็นที่น่าสังเกตว่าพ่อค้าแม่ค้าเร่ที่ตั้งร้านจำหน่ายสินค้า
มาจากทุกสารทิศทั่วประเทศไทย  สินค้าส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าที่บ่งบอกถึงวัฒนธรรมของภาคต่าง  ๆ  อาหารพื้นบ้าน  
ของเล่น  ของใช้เบ็ดเตล็ด  เครื่องประดับ  เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน  เป็นต้น  สำหรับการเดินทางมาของแต่ละร้านนั้น
จะมากันในรูปแบบคาราวาน  และบางคนก็มารถส่วนตัวโดยจะได้รับใบปลิวและหนังสือเชิญจากหน่วยงานเอกชน  
ซึ่งเป็นผู้รับเหมาสัมปทานในงานนี้เป็นประจำทุกปี
         นางวิรัตน์  วิลาทอง  แม่ค้าขายเสื้อทอผ้าฝ้าย  ได้เปิดเผยว่าตนได้เดินทางมาจากหมู่บ้านละว้า  ตำบลเมืองเพลีย  
จังหวัดขอนแก่น  อาชีพเก่าที่บ้านเป็นชาวนา  ตนได้ตั้งร้านขายเสื้อผ้ามาเป็นเวลานานเพื่อหารายได้ในช่วงหมดฤดูกาล
ดำนา  ชีวิตช่วงนี้ก็ตระเวนไปตามงาน  โรงเรียนต่าง  ๆ  ส่วนงานมหกรรมศิลปวัฒนธรรมก็มาเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว  
โดยก่อนหน้านี้เดินทางไปจังหวัดพัทลุง  ชีวิตการเดินทางในการค้าขายเป็นกิจกรรมที่ท้าทายและสนุกสนาน  นอนกลางดิน  
กินกลางทราย  แต่ประสบการณ์ที่ได้พบเห็นล้วนแล้วแต่ได้รับรู้ถึงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนแต่ละจังหวัดแต่ละพื้นที่ที่
แตกต่างกัน  ได้เห็นถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมพื้นบ้าน

                                             ***************************************




โดย : * [ วันที่ ]