: : : รายละเอียดข่าว : : :

ข่าว ปีที่ :ฉบับที่ 07 ประจำเดือน 12 2548
หัวข้อข่าว : นักวิชาการ ม.อ. ปัตตานี แนะแบบเรียนประวัติศาสตร์อิสลาม ควรสังคายนาให้มีความทันสมัย เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ
รายละเอียด :
         ผลการวิจัยของนักวิชาการมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  พบว่าแบบเรียน
ประวัติศาสตร์อิสลามของประเทศมาเลเซียมีเนื้อหาที่แน่นอนเป็นวิชาบังคับ  โดยเน้นประวัติศาสตร์เชิง
อารยธรรม  แต่แบบเรียนประเทศไทยเน้นด้านประวัติศาสตร์และเป็นเพียงวิชาเลือกเสรี  ควรสังคายนา
แบบเรียนประวัติศาสตร์อิสลามของประเทศไทยให้มีความทันสมัยและสามารถสร้างความรู้ความ
เข้าใจ
         รองศาสตราจารย์ดลมนรรจ์  บากา  ผู้ศึกษาสถานภาพประวัติศาสตร์อิสลามในแบบเรียนระดับ
มัธยมศึกษาในประเทศไทยและมาเลเซีย  วิทยาลัยอิสลามศึกษา  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  
วิทยาเขตปัตตานี  กล่าวว่าการศึกษาประวัติศาสตร์ในระดับมัธยมศึกษาของประเทศไทยและมาเลเซีย
ถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก  ได้ถูกกำหนดไว้ในหลักสูตรการเรียนอย่างชัดเจน  การศึกษาประวัติศาสตร์
ในระดับมัธยมศึกษาจะเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียนเป็นอย่างมาก  เนื่องจากเป็นพื้นฐานในการศึกษาระดับสูง
และเพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในความเป็นไปของโลกในอดีต  อย่างไรก็ตามภาพรวม
ของแบบเรียนประวัติศาสตร์ในประเทศไทยและมาเลเซียมีความแตกต่างกันในเนื้อหาวิชา  โดยเฉพาะ
เนื้อหาที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์อิสลาม  โดยแบบเรียนของไทยมีการอ้างอิงประวัติศาสตร์อิสลามน้อยมาก
หรือข้ามช่วงเวลาสำคัญ  ๆ  ในอิสลาม  การเรียบเรียงความเป็นไปทางประวัติศาสตร์ไม่มีความต่อเนื่องกัน    
ส่วนการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ในประเทศมาเลเซียจะมีหนังสือแบบเรียนทางประวัติศาสตร์อิสลาม
โดยตรงทั้งในโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนของรัฐทั้งในส่วนของประวัติศาสตร์โลก  ภูมิภาคเอเซีย
ตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงประเทศมาเลเซีย  นอกจากนี้การนำเสนอเนื้อหาทางประวัติศาสตร์ในหนังสือ
แบบเรียนมีความแตกต่างกันกับประเทศไทย  ทั้งในส่วนของเนื้อหา  ภาษา  และความเข้าใจในประเด็นต่าง  ๆ  
จากสภาพการณ์ดังกล่าวจึงได้มีการศึกษาเกี่ยวกับสถานภาพของประวัติศาสตร์อิสลามที่ปรากฏใน
หนังสือแบบเรียนระดับมัธยมศึกษาของประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย  เพื่อนำเสนอข้อมูลที่ได้ต่อ
กระทรวงศึกษาธิการ  เพื่อทำการปรับปรุงเนื้อหาให้เหมาะสมในส่วนของประวัติศาสตร์อิสลาม  อันเป็น
แนวทางในการจัดการด้านหลักสูตรและสาระการเรียนการสอนในสถานศึกษาหรือหลักสูตรท้องถิ่น
ที่มีการเรียนการสอนอิสลามศึกษาและประวัติศาสตร์อิสลาม  อันนำไปสู่การสร้างความเข้าใจอันดีใน
ประวัติศาสตร์อิสลามนำสู่สันติวิธี
               รองศาสตราจารย์ดลมนรรจ์  บากา   เปิดเผยผลการวิจัยพบว่าการศึกษาประวัติศาสตร์อิสลาม
มีความจำเป็นอย่างยิ่ง     ดังนั้นจึงมีการบรรจุประวัติศาสตร์อิสลามในวิชาเรียนระดับมัธยมศึกษาด้วย  
ในประเทศมาเลเซียประวัติศาสตร์อิสลามไม่ถูกกำหนดเป็นรายวิชา  แต่ผนวกเป็นสัดส่วนเนื้อหาวิชา
อิสลามศึกษาและประวัติศาสตร์  ส่วนในประเทศไทยมีรายวิชาโดยตรงของประวัติศาสตร์อิสลามคือ  
วิชาศาสนประวัติและชีวประวัติศาสตร์ตามหลักสูตรทั่วไป  แต่ในหลักสูตรบูรณาการในกลุ่มวิชาศาสนา
ขึ้นอยู่กับโรงเรียนว่าจะมีการกำหนดหรือไม่และเป็นไปตามขอบเขตของหลักสูตรที่กรมวิชาการ  
กระทรวงศึกษาธิการ  กำหนด  ปัจจุบันการเรียนการสอนประวัติศาสตร์อิสลามยังคงดำเนินต่อไปทั้ง
ในประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย  แต่ในประเทศมาเลเซียมีการพัฒนาในระดับหนึ่ง  โดยเน้น
ประวัติศาสตร์เชิงอารยธรรมแทนที่จะเป็นประวัติศาสตร์เพียงอย่างเดียว  ในขณะที่ประเทศไทยยังไม่มี
การเปลี่ยนแปลง  ในการรองรับการเรียนการสอนประวัติศาสตร์อิสลามทั้งสองประเทศมีสถาบันการ
ศึกษาชั้นสูงเช่นเดียวกัน  บัณฑิตที่จบการศึกษาจากสถาบันของรัฐบาลสามารถเป็นครูผู้สอนได้  
ในประเทศมาเลเซียมีมหาวิทยาลัยมาลายาและมหาวิทยาลัยแห่งชาติมาเลเซีย  เป็น  2  สถาบัน
ของรัฐที่ผลิตบัณฑิตด้านอิสลามศึกษาและประวัติศาสตร์อิสลาม  ส่วนในประเทศไทยมีมหาวิทยาลัย
สงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  เป็นสถาบันของรัฐที่ผลิตบัณฑิตด้านอิสลามศึกษา
         โดยภาพรวมแล้วแม้ว่าการเรียนการสอนอย่างเป็นทางการของประวัติศาสตร์อิสลามในระดับ
มัธยมศึกษาของประเทศมาเลเซียเพิ่งจะเริ่มช่วง  40  ปีที่ผ่านมา    แต่เนื้อหาวิชาก้าวหน้าไปมาก
เนื่องจากมีนักเรียนนักวิชาการที่มีความพร้อม  สอดคล้องกับการกำหนดให้ประวัติศาสตร์อิสลามเป็น
ส่วนหนึ่งของวิชาอิสลามศึกษาและประวัติศาสตร์  ซึ่งทั้งสองวิชาเป็นวิชาบังคับแกน  ในขณะที่
หลักสูตรของไทยประวัติศาสตร์เป็นเพียงวิชาเลือกเสรีและอีกส่วนหนึ่งอยู่ในกลุ่มวิชาศาสนา  ซึ่งอาจจะ
ไม่กำหนดอยู่ในกลุ่มก็ได้
         ข้อเสนอแนะว่าการศึกษาประวัติศาสตร์ในประเทศไทยควรจะมีการพัฒนาและแก้ไขเพิ่มเติม  เพื่อให้
เนื้อหามีความสอดคล้องกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี  อีกทั้งยังเป็นการเติมความสมบูรณ์ของประวัติ
ศาสตร์อิสลามโดยเฉพาะอย่างยิ่งประวัติศาสตร์อิสลามในประเทศไทย  ซึ่งเห็นว่ากระทรวงศึกษาธิการ
ควรศึกษาแนวการนำมาใช้หลักสูตรของประเทศมาเลเซีย  แต่ให้มีความสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อม
ของนักเรียนมุสลิมในประเทศไทยและความพร้อมของนักวิชาการที่มีอยู่     นอกจากนี้ควรมีการสังคายนา
ประวัติศาสตร์อิสลามของประเทศไทยมีความทันสมัยและสามารถให้ความรู้ความเข้าใจต่อสาธารณชน

                                                   ***************************************
โดย : * [ วันที่ ]