: : : รายละเอียดข่าว : : :

ข่าว ปีที่ :ข่าวปีที่ 3 ฉบับที่ 09 ประจำเดือน 09 2543
หัวข้อข่าว : ฯพณฯ ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ ปาฐก "บทบาทของไทยในเวทีต่างประเทศ" จากการสัมมนาในโครงการการทูตเพื่อประชาชนของกระทรวงการต่างประเทศ
รายละเอียด :
                    มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ  ถกประเด็นบทบาทของไทยในเวที

ระหว่างประเทศ  เมื่อวันที่  13  กันยายน  ที่ผ่านมา  ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ  ได้เผยภายหลังเป็นองค์ปาฐกว่า

พื้นที่ห้าจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่ที่มีจุดเด่น  แต่เราต้องเตรียมความพร้อมและสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนในตลาดโลกเสีย

ก่อน

         นายประดาป  พิบูลสงคราม  อธิบดีกรมอาเซียน  กระทรวงการต่างประเทศ  กล่าวว่าสืบเนื่องจากกระแสการเปลี่ยนแปลง

อย่างรวดเร็ว  ทำให้สังคมโลกถูกผลักดันให้เคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว  โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบข้อมูลข่าวสารและระบบ

เศรษฐกิจของโลกโดยรวม  ประเทศไทยเองก็ได้รับผลจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวและได้มีการปรับตัวเพื่อให้ทันกับกระแสการเปลี่ยน

แปลงและมีบทบาทในเวทีระหว่างประเทศมากขึ้น  พร้อมกันนี้องค์กรระหว่างประเทศไม่ว่าจะเป็น  ASEAN  ASEM  APEC  

UNTAD  และองค์กรการค้าโลก  WTO  ก็ได้จัดทำข้อตกลงและกำหนดให้ประเทศสมาชิกปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าว  ซึ่งจะกระทบ

ต่อการผลิตและการส่งออกของประเทศไทยโดยตรง  กระทรวงการต่างประเทศ  ตระหนักในความสำคัญดังกล่าวจึงได้มีการจัดสัมมนา

บทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศขึ้น

         ผศ. ผดุงยศ  ดวงมาลา  รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  กล่าวเพิ่มเติมว่าการ

สัมมนาเรื่องบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศ  ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่  13  กันยายน  ที่ผ่านมา  โดยกระทรวงการต่างประเทศ  กรม

อาเซียน  กรมเศรษฐกิจ  ร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  และมหาวิทยาลัยในภูมิภาคแต่ละแห่งได้แก่  มหาวิทยาลัย

บูรพา  มหาวิทยาลัยเอเซีย  มหาวิทยาลัยขอนแก่น  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์  ร่วมจัดขึ้นในแต่ละภูมิภาคของประเทศ  

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์การดำเนินการปกป้องผลประโยชน์ของไทยในภูมิภาคและส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านต่างประเทศ

แก่ประชาชนทั่วไป  ตามนโยบายการทูตเพื่อประชาชน  รวมทั้งเพื่อประมวลข้อคิดเห็นและท่าทีของนักธุรกิจผู้ประกอบการ  นักวิชาการ  

สื่อมวลชน  นักศึกษา  และประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศและผลกระทบต่อไทย

         ทั้งนี้การสัมมนาดังกล่าวได้รับเกียรติจากนายไพบูลย์  บุญแก้วสุข  ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี  เป็นประธานในพิธีเปิด  และ  

ฯพณฯ  ดร. สุรินทร์  พิศสุวรรณ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ  เป็นองค์ปาฐกในหัวข้อเรื่อง  บทบาทของไทยในเวทีระหว่าง

ประเทศ  นายอภินันท์  ปวนะฤทธิ์  รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ  บรรยายพิเศษเรื่อง  การประชุมเอเซีย - ยุโรป  และบทบาทของไทย

เรื่อง  องค์กรความร่วมมือทางเศรษฐกิจและผลกระทบต่อภาคเอกชนไทย  โดยนายโฆษิต  ฉัตรไพบูรณ์  ผู้อำนวยการกองเศรษฐกิจระหว่าง

ประเทศ  กรมเศรษฐกิจ  อาจารย์อับดุลเลาะ  อับรู  ม.อ. ปัตตานี  และนางศันสนีย์  สะหัสสะรังษี  หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมเศรษฐสัมพันธ์  กรม

เศรษฐกิจ  และนายประดาป  พิบูลย์สงคราม  อธิบดีกรมอาเซียน  บรรยายเรื่อง  อาเซียนกับผลประโยชน์ของไทย

         ในโอกาสดังกล่าว  ฯพณฯ  ดร. สุรินทร์  พิศสุวรรณ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ  ได้เปิดเผยภายหลังปาฐกถา

นำเรื่องบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศว่า  โครงการสัมมนาดังกล่าวเป็นโครงการการทูตเพื่อประชาชน  ที่กระทรวงการต่างประเทศ

ร่วมกับมหาวิทยาลัยภูมิภาคทุกภูมิภาคจัดขึ้น  โดยมีเป้าหมายหลักให้ประชาชนทั่วประเทศได้มีส่วนรับรู้  เข้าใจและที่สำคัญคือมีส่วนร่วมใน

การที่จะแสดงออก  ซึ่งความคิดเห็นเกี่ยวกับผลประโยชน์ของเขาในมิติต่างประเทศ  ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ  นักลงทุน  นักการค้าส่งออก  

นอกจากนี้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่ค่อนข้างพิเศษ  มีเอกลักษณ์ของตนเอง  มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม  ศาสนา  เวทีต่าง

ประเทศมีความสนใจที่จะร่วมดำเนินกิจการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้  แต่เรายังไม่พร้อม  ไม่มีศักยภาพเพียงพอ  เพราะฉะนั้นกระทรวง

การต่างประเทศเองได้พยายามผลักดันโครงการต่าง  ๆ  ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้  อาทิ  โครงการฮาล้าลฟู้ด  โดยเฉพาะกลุ่ม

ประเทศตะวันออกกลาง  จะรู้จักฮาล้าลฟู้ดในลักษณะของอาหารแห้ง  อาหารสำเร็จรูป  นับว่าเป็นสินค้าที่ได้รับการยอมรับมากขึ้น  และขณะนี้

พยายามที่จะส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว  โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศตะวันออกกลาง  มีจำนวน

นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นร้อยละ  12 - 15  จากโลกมุสลิม  จะเห็นว่าการที่จะให้ต่างประเทศยอมรับและมีความเชื่อมั่นในการลงทุนในห้าจังหวัด

ชายแดนภาคใต้นั้น  พื้นที่ตรงนี้ต้องมีความพร้อมและมีศักยภาพเสียก่อนก่อนที่นักลงทุนจะเข้ามาลงทุน



                                                                                            *****************









โดย : 203.154.179.21 * [ วันที่ 2001-07-07 14:18:06 ]