มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  ขอให้ผู้รับจ้างก่อสร้างระบบระบายน้ำและระบบบำบัดน้ำเสีย  ก่อสร้างคลองดาดคอนกรีต  

ถนนลาดยาง  และรั้วคอนกรีตตลอดแนวเขตที่ดินมหาวิทยาลัยที่ท่อรวบรวมน้ำเสียผ่าน  รวมระยะทางกว่า  1  กิโลเมตร  และกำชับเรื่อง

ความเรียบร้อยในการสร้าง

         ตามที่กองวิศวกรรมสุขาภิบาล  กรมโยธาธิการ  ได้ว่าจ้างบริษัท  เอ็มคอนโซลิเดท  จำกัด  ให้ดำเนินการก่อสร้างระบบ

ระบายน้ำและระบบบำบัดน้ำเสียเทศบาลเมืองปัตตานี  มาตั้งแต่วันที่  27  กันยายน  2538  โดยการรวบรวมน้ำเสียจากเขตชุมชนและ

เขตอุตสาหกรรม  ไปบำบัดบริเวณพื้นที่สาธารณประโยชน์บริเวณชายทะเลด้านทิศเหนือของสวนสมเด็จฯ  จังหวัดปัตตานี  ในการดำเนิน

การดังกล่าวมีความจำเป็นต้องวางท่อรวบรวมน้ำเสีย  ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง  1.50  เมตร  ผ่านพื้นที่แนวคลองระบายน้ำของมหาวิทยาลัย

เป็นระยะทาง  1,120  เมตร  จากแนวเขตที่ดินของมหาวิทยาลัยที่ติดกับถนนเจริญประดิษฐ์  (ใกล้กับโรงพิมพ์มิตรภาพ)  เลาะแนวรั้ว

มหาวิทยาลัยด้านทิศใต้ไปจนจรดป้อมยามประตูทางเข้าออกมหาวิทยาลัยด้านหลัง

         มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นในการบำบัดน้ำเสีย  จึงได้อนุญาตให้ดำเนินการวาง

ท่อรวบรวมน้ำเสียผ่านแนวเขตของมหาวิทยาลัยได้  แต่เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม  เพื่อทัศนียภาพที่ดีของสถานศึกษา  และเพื่อ

ความปลอดภัย  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  จึงขอให้บริษัทผู้รับจ้างก่อสร้างได้ดาดคอนกรีตคลองระบายน้ำ  ก่อสร้างถนนราดยางบน

แนวท่อรวบรวมน้ำเสีย  และกั้นรั้วคอนกรีตความสูง  2  เมตร  ตลอดแนวที่ดินมหาวิทยาลัยที่มีการวางท่อบำบัดน้ำเสียผ่าน  รวมระยะทาง

ประมาณ  1  กิโลเมตร  ทั้งนี้ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ในแนวคลองดาด  ผู้รับจ้างก่อสร้างจะรักษาสภาพเดิมไว้ตามที่งานประชาสัมพันธ์  มหาวิทยาลัย

สงขลานครินทร์  ได้เคยเสนอข่าวไปแล้ว

         ต่อมาเมื่อวันอังคารที่  8  สิงหาคม  2543  คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  ชุดปัจจุบันได้เชิญ

ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและผู้รับจ้างก่อสร้าง  มาประชุมติดตามความคืบหน้างานก่อสร้าง  โดยนายไพบูลย์  บุญแก้วสุข  ผู้ว่าราชการจังหวัด

ปัตตานี  ได้ให้เกียรติเข้าร่วมประชุมด้วย  ในโอกาสดังกล่าว  ผศ. ดร.อนันต์  ทิพยรัตน์  รองอธิการบดีวิทยาเขตปัตตานี  ได้ขอให้ผู้รับจ้าง

ก่อสร้างดำเนินการก่อสร้างตามแบบรูปรายการที่มหาวิทยาลัยเสนอและระมัดระวังมิให้เกิดผลกระทบต่อบุคลากรและนักศึกษา  ทั้งในเรื่อง

ของเส้นทางการขนย้ายวัสดุ  การกองวัสดุ  ตลอดจนการทำงานล่วงเวลาและเสียงดังอันเกิดจากเครื่องจักรกล  เป็นต้น  รองอธิการบดีวิทยาเขต

ปัตตานี  กล่าวว่าข้อดีของการวางท่อรวบรวมน้ำเสียผ่านพื้นที่มหาวิทยาลัย  นอกจากทัศนียภาพของคลองที่สะอาดสวยงามแล้ว  มหาวิทยาลัย

ยังได้รับถนนเลียบคลองระบายน้ำและกำแพงที่นอกจากจะทำให้ง่ายต่อการรักษาความปลอดภัยแล้ว  ยังทำให้เกิดความชัดเจนในเรื่องหลัก

เขตที่ดินและสิ่งที่เป็นประโยชน์โดยตรงประการหนึ่งคือ  ในอนาคตมหาวิทยาลัยสามารถจัดระบบระบายน้ำเสียลงไปยังท่อรวบรวมน้ำเสีย

เพื่อการบำบัดอีกด้วย



                                                                                         ******************