: : : รายละเอียดข่าว : : :

ข่าว ปีที่ :ข่าวปีที่ 6 ฉบับที่ 07 ประจำเดือน 08 2536
หัวข้อข่าว : ม.อ. ปัตตานี สัมมนาอ่าวปัตตานี อดีต ปัจจุบัน อนาคต ครั้งที่ 3 ได้ผลเกินคาดทั้งรัฐและเอกชน ร่วมจัดตั้งกลุ่มฟื้นฟูอ่าวปัตตานี
รายละเอียด :
                   สัมมนาอ่าวปัตตานี  อดีต  ปัจจุบัน  และอนาคต  ได้ผลเกินคาด  ทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันจัดตั้ง  "องค์กร

อนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติชายฝั่งปัตตานี  หรือ  อฟป."  ซึ่งคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  มหาวิทยาลัย

สงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  จัดขึ้นเพื่อแสวงหาทางออกให้เกิดความร่วมมือกันในการฟื้นฟูอ่าวปัตตานี  เมื่อวันที่  

5 - 6  กันยายน  2536

         การสัมมนาอ่าวปัตตานี  อดีต  ปัจจุบัน  และอนาคต  ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่  3  โดยมีองค์กรทั้งภาครัฐและภาค

เอกชนเข้าร่วมสัมมนารวม  25  องค์กร  อาทิ  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและ

พรรณพืชแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์  สมาคมเอิร์ธไอส์แลนด์  กองทัพภาคที่  4   สำนักงานป่าไม้เขตปัตตานี  

ชมรมประมงขนาดเล็กในจังหวัดปัตตานี  และองค์กรอื่น  ๆ  ที่เกี่ยวข้อง

         ดร. ปรียา  วิริยานนท์  คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขต

ปัตตานี  ชี้แจงว่าอ่าวปัตตานีเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดปัตตานี  มีเนื้อที่  74  ตารางกิโลเมตร  รอบพื้นที่อ่าวปัตตานีประกอบ

ด้วยชุมชน  14  หมู่บ้าน  มีประชากรประมาณ  6  หมื่นคน  ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงขนาดเล็ก  ตลอดช่วง  10  ปี

ที่ผ่านมา  แนวโน้มการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่รอบอ่าวปัตตานีค่อนข้างสูง  ขณะเดียวกันอ่าวปัตตานี

ได้รับการประกาศให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำสำคัญของเอเซีย  (Asian  Wetland  Burean)  โดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อ

การอนุรักษ์ธรรมชาติ  (International  Union  Conservation  of  Natural  Resources)  เนื่องจากมีนกน้ำซึ่ง

บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์เข้ามาอาศัยอยู่ในบริเวณอ่าวปัตตานีอย่างหนาแน่น

         ดร. ปรียา  วิริยานนท์  กล่าวเพิ่มเติมถึงผลสรุปการสัมมนาอ่าวปัตตานี  ครั้งที่  2  ในหัวข้อเรื่อง  "แนวทาง

การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากอ่าวปัตตานี"  เมื่อวันที่  21 - 23  สิงหาคม  2535  ว่าปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นต่ออ่าวปัตตานี

ในปัจจุบันคือ  ปัญหาจากนากุ้ง  โรงงานอุตสาหกรรม  องค์การสะพานปลา  ท่าเทียบเรือและแหล่งชุมชน  ต่างปล่อยน้ำเสีย

โดยขาดระบบการบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพ  น้ำเสียเหล่านี้ถูกปล่อยลงสู่อ่าวทำให้อ่าวเกิดสภาพเน่าเหม็น  มีสารโลหะ

ปนเปื้อนมากกว่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนดคือ  สารหนู  สารตะกั่ว  และสารแคดเมียม  ซึ่งสารเหล่านี้เมื่อเข้าไป

สะสมในสัตว์น้ำ  ทำให้เป็นอันตรายแก่ผู้บริโภคได้

         นายลายิ  สาแม  กำนันตำบลแหลมโพธิ์  อ.ยะหริ่ง  จ.ปัตตานี  เปิดเผยว่าในอดีตบริเวณอ่าวปัตตานีอุดมสมบูรณ์

ไปด้วยทรัพยากรสัตว์น้ำนานาชาติเช่น  ปลากะพง  ปลากะรัง  กุ้งกุลาดำ  นอกจากนี้ยังมีสาหร่ายชนิดหนึ่งซึ่งมีความสำคัญ

ทางเศรษฐกิจคือ  สาหร่ายผมนาง  พบเป็นปริมาณมากและมีราคาค่อนข้างสูงในเชิงอุตสาหกรรมท้องถิ่น  การที่ในอดีตมี

ทรัพยากรเหล่านี้มาก  เพราะกลุ่มคนที่อยู่รอบอ่าวปัตตานีส่วนใหญ่ยึดมั่นในหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม  ที่จะไม่มุ่งสะสม

แต่จะจับสัตว์น้ำเฉพาะที่เพียงพอแก่ความต้องการ  ถ้าเกินความต้องการก็จะปล่อยกลับสู่ท้องทะเล  แต่ในปัจจุบันทรัพยากร

เหล่านี้เริ่มหมดไป  เนื่องจากมีผู้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น  ยังผลให้เกิดปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรในอ่าว

ปัตตานีคือ  มีการรุกล้ำสิทธิน่านน้ำชายฝั่ง  3,000  เมตร  โดยมีเรือประมงพาณิชย์  เรืออวนลาก  อวนรุน  เป็นการทำลาย

ปะการัง  หญ้าทะเล  และสัตว์น้ำวัยอ่อน  จนทำให้สัตว์น้ำหลายชนิดสูญพันธุ์ไป

         ด้านความสัมฤทธิ์ผลในการจัดสัมมนาอ่าวปัตตานี  อดีต  ปัจจุบัน  อนาคต  ผู้เข้าสัมมนาได้สรุปมุมมองใน

อนาคตของอ่าวปัตตานี  ในแง่ของการใช้ประโยชน์จากอ่าวปัตตานีว่า  ควรจะมีการศึกษาถึงผลกระทบและความเหมาะสม

ในแต่ละกิจกรรม  ควรจัดโรงงานอุตสาหกรรมให้อยู่ในแหล่งพื้นที่เดียวกัน  เพื่อจะได้ควบคุมมลพิษและควรมีการประเมิน

ผลกระทบจากโรงงานอุตสาหกรรม  ก่อนจะอนุญาตให้มีการจัดตั้งโรงงาน

         ผศ. ผดุงยศ  ดวงมาลา  รองอธิการบดี  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  เปิดเผยถึงการ

สัมมนาในครั้งนี้ว่า  ได้รับความสำเร็จเป็นอย่างมาก  ผู้เข้าสัมมนาตื่นตัวในการฟื้นฟูสภาพอ่าวปัตตานี  มีการจัดตั้งองค์กร

อนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งปัตตานี  หรือ  อฟป.  ซึ่งมีคณะกรรมการ  15  คน  จากผู้เข้าสัมมนาประมาณ  100

คน  โดยคณะกรรมการดังกล่าวมาจากทั้งภาครัฐและเอกชน  อาทิ  มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพันธุ์ไม้แห่งประเทศไทย

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  ชมรมประมงชายฝั่งปะนาเระ  สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง  อ.ยะหริ่ง  

จ.ปัตตานี  ซึ่งกลุ่ม  อฟป.  หรือองค์การอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งปัตตานี  จัดตั้งขึ้นเพื่อฟื้นฟูสภาพอ่าวปัตตานี

ตลอดจนให้มีการจัดการด้านทรัพยากรอย่างเป็นระบบ  อันจะยังผลให้ราษฎรประมาณ  60,000  คน  จาก  14  หมู่บ้าน

รอบอ่าวปัตตานี  มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  ทั้งนี้ก็โดยการประสานงานระหว่างภาครัฐและเอกชนดังกล่าว  โดยสามารถติดต่อ

ประสานงานได้ที่  กลุ่มองค์กรอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งปัตตานี  คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  มหาวิทยาลัย

สงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี



                                                                               *****************









โดย : 203.154.179.21 * [ วันที่ 2001-04-29 14:23:14 ]