ฉบับที่  069/2541                                                                                  10  พฤศจิกายน  2541

         นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้  มอบให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  เป็น
เจ้าภาพจัดการสัมมนา  THE  ASEAN  INTER - UNIVERSITY  SEMINAR  ON  SOCIAL  DEVELOPMENT  
ครั้งที่  4  ระหว่างวันที่  16 - 18  มิถุนายน  2542
         รายงานข่าวจากงานประชาสัมพันธ์  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  แจ้งว่าการสัมมนา  THE
ASEAN  INTER - UNIVERSITY  SEMINAR  ON  SOCIAL  DEVELOPMENT  จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี  พ.ศ.
2536  จากการริเริ่มของมหาวิทยาลัยในสิงคโปร์  มาเลเซีย  และนักวิชาการในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้  ที่ตระหนักถึงความสำคัญ
ของการพัฒนาภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้  ที่ภูมิภาคนี้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว  บางครั้งการพัฒนาดังกล่าวนำไปสู่ปัญหาทาง
สังคมต่าง  ๆ  มากมาย  ดังนั้นการสัมมนานี้จึงเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของนักวิชาการทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับนานาชาติ  
อันจะนำไปสู่ความร่วมมือในระดับต่าง  ๆ  ต่อไป
         การสัมมนา  THE  ASEAN  INTER - UNIVERSITY  SEMINAR  ON  SOCIAL  DEVELOPMENT  
มีกำหนดจัดขึ้นทุก  ๆ  2  ปี  โดยจะให้ประเทศในกลุ่มสมาชิกอาเซียนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ  ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้
สัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลายของแต่ละพื้นที่  โดยเห็นสมควรให้สถานที่จัดสัมมนาอยู่ตามส่วนภูมิภาคของแต่ละประเทศ  ทั้งนี้ที่ผ่าน
มาได้จัดสัมมนามาแล้ว  3  ครั้งคือ  ครั้งที่  1  ปี  2536  จัด  ณ  เมืองโกตากีนาบารู  ประเทศมาเลเซีย  ครั้งที่  2  ปี  2538  จัด  ณ  
เมืองเซอบูซิตี้  ประเทศฟิลิปปินส์  และครั้งที่  3  ปี  2540  จัด  ณ  เมืองเปอร์กันบารู  ประเทศอินโดนีเซีย  สำหรับครั้งที่  4   กำหนด
จัดระหว่างวันที่  16 - 18  มิถุนายน  2542  ณ  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี
         นักวิชาการ/ผู้สนใจประสงค์จะเข้าร่วมสัมมนา  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่งานวิเทศสัมพันธ์  กองบริการการศึกษา  
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี  โทร. (073)  312238  หรือ  335115 - 25  ต่อ  1069  โทรสาร  (073)  335128  
หรือดูรายละเอียดได้ที่  โฮมเพจ  http://bunga.pn.psu.ac.th  โดยรับสมัครผู้ร่วมสัมมนาจากสถาบันการศึกษาและองค์กรต่าง  ๆ  
ในภูมิภาคอาเซียน  ยุโรป  ออสเตรเลีย  นิวซีแลนด์  และสหรัฐอเมริกา  จำนวน  200  คน

                                                                                      *****************